6 รถใหม่เรียงคิวเปิดตัว 1-3 เดือนนี้


การเปิดตัวรถยนต์เจนใหม่ ทำให้เราตื่นเต้นตลอด พร้อมการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจไม่น้อย ล่าสุดทีมงานได้รวบรวม 6 รถยนต์ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นไมเนอร์เช้นจ์ All-NEW ที่จะเปิดตัวในไทยช่วง 1-3 เดือนข้างหน้านี้ชัวร์ๆ และบางรุ่นเคาะวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
Mitsubishi Pajero Sport ไมเนอร์เช้นจ์ 25 กรกฏาคมนี้



มาครวัดออกแบบใหม่ Full Digital ล้ออัลลอยใหม่ ระบบเปิด – ปิดฝาท้ายด้วยไฟฟ้า

ล่าสุดมิตซูบิชิ ประเทศไทยเผยภาพด้านหน้าของ ปาเจโร สปอร์ต ไมเนอร์เช้นจ์ใหม่ แสดงให้เห็นการออกแบบอย่างชัดเจน มีความคมชัดของเส้นสาย ชั้นของกระจังหน้าใหญ่ขึ้น คาดว่ามีการเพิ่มไฟตัดหมอกคล้ายๆไทรทันแต่ความลึกน้อยกว่าและเข้ามุมกันชนหน้ามากกว่า โดยรวมการออกแบบด้านหน้าลงตัวมากขึ้น
- กล้อง 360 องศาทุกรุ่นย่อย
- ระบบเปิด-ปิด ฝาท้ายด้วยไฟฟ้า
- ระบบสั่งงานตัวรถ ผ่าน Application บน Smart Phone
- ระบบเชื่อมต่อ Application บน Smart Phone ดูข้อมูลตัวรถ
- ชุดมาตรวัดใหม่
- กระจังหน้า ใหม่
- กันชนหน้า ชายกันชนด้านล่างใหม่
- ไฟหน้าใหม่
- สเกิร์ตข้าง พร้อมบันไดข้างใหม่
- กันชนท้าย ชายกันชนล่างใหม่
- สปอยเลอร์หลังใหม่
- ล้ออัลลอยใหม่
เมื่อมาเทียบกับภาพ VDO ด้านท้ายจะสังเกตได้ว่า ไฟท้ายไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไร เพียงแต่เพิ่มระบบเปิดประตูท้ายด้วยระบบไฟฟ้าเท่านั้น




การปรับไมเนอร์เช้นจ์ของ Mitsubishi Pajero Sport เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เปิดตัวปี 2015 ในประเทศไทย หรือครบรอบ 4 ปีถึงปรับไมเนอร์เช้นจ์อีกครั้ง และทุกๆ 8 ปีจะปรับ All-NEW
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่ส่งผลต่อตัวถังแต่อย่างใด แต่ส่งผลการเปลี่ยนแปลงด้านหน้า การออกแบบภายในห้องโดยสาร และการปรับออฟชั่นใหม่ๆเพิ่มเข้าไป
การออกแบบด้านหน้าจะคมและชัดเจนขึ้น
ออฟชั่นที่คาดว่าน่าจะเข้ามาในตัวไมเนอร์เช้นจ์คือ ระบบเปิด-ปิดท้ายด้วยไฟฟ้า กล้องรอบคัน 360 องศา แน่นอนว่าต้องตอกย้ำ
dynamic shield ที่ชัดเจน




หากดูจากภาพรถยนต์ทดสอบวิ่งที่คาดว่าเป็น Mitsubishi Pajero Sport Minor Change จะเห็นการออกแบบคราวๆด้านหน้าที่เปลี่ยนไป มีแนวโน้มที่ได้รับอิทธิพลจากการออกแบบ Eclipse Cross 2019 ส่วนด้านท้ายคงไม่เปลี่ยนแปลงเยอะเพียงเสริมความคมชัดมากขึ้น
หรือว่า Mitsubishi หน้าจะเหมือนกันทั้งหมด ?
มีความเป็นไปได้แม้กระทั้งกระบะหน้ายังคล้ายๆ Xpander ทำไม Pajero Sport ไมเนอร์เช้นจ์ จะมีหน้าไม่เหมือน Triton มันคงจะสวยดี แต่เมื่อมีภาพแสดงออกมาของมิตซูบิชิประเทศไทย ทำให้พอคาดเดาได้ว่า เป็นการรักษาการออกแบบ dynamic shield ที่มีในรถยนต์มิตซูบิชิรุ่นใหม่ๆ แต่มีความคมชัด สวยมากขึ้น
- เครื่องยนต์คงไม่เปลี่ยนยังคงใช้ เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล 2.4 ลิตร 181 แรงม้าที่มาพร้อมเสื้อสูบและฝาสูบ อลูมินัม อัลลอย ซึ่งมีน้ำหนักเบา ทนทาน เพิ่มแรงม้ามากขึ้นด้วยขุมพลังของ VG Turbo และอินเตอร์คูลเลอร์ ทำให้เครื่องยนต์มีกำลังสูงทั้งในรอบปานกลาง และรอบสูง ตอบสนองทันใจ ช่วยให้ขับขี่สนุกและเร้าใจมากขึ้น ระบบวาล์วแปรผัน MIVEC เกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะใหม่ล่าสุด 8 สปีด
ยังไงโปรดติดตามรายละเอียดอย่างเป็นทางการในวันเปิดตัว Mitsubishi Pajero Sport minor change เปิดตัว 25 กรกฏาคมนี้ ในประเทศไทย

ความสำเร็จของ Mitsubishi Pajero Sport เจนปัจจุบันสร้างยอดขายได้อย่างน่าพึงพอใจเป็นรองเพียงโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์เท่านั้น หากได้รับการปรับ เพิ่มออฟชั่นมามากขึ้นอีก รับรอบว่ายอดขาย ปัง! กว่านี้
โปรดติดตามการเปิดตัวไมเนอร์เช้นจ์ 25 กรกฏาคม นี้
MG Extender 7 สิงหาคม

บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย เตรียมเปิดตัวรถกระบะรุ่นแรกของเอ็มจีสู่ตลาดเมืองไทยภายใต้ชื่อ “NEW MG EXTENDER” ในเดือนสิงหาคมนี้ สำหรับ “NEW MG EXTENDER” ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิว Brit Dynamic และขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ขนาด 2.0 ลิตร ที่ให้ทั้งสมรรถนะ และการประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น พร้อมมิติตัวถังขนาดใหญ่จึงมีห้องโดยสารที่กว้างขวางและรองรับการบรรทุกที่มากกว่า รวมทั้งมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยครบครัน เพื่อตอบทุกโจทย์ของการใช้งานของลูกค้าคนไทยและพร้อมลุยได้ทุกสภาพถนน
เครื่องยนต์ยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นเทอร์โบเดี่ยว หรือเทอร์โบคู่
- เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 เทอร์โบ รหัส D20 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1,995 ซีซี. พ่วงเทอร์โบ กำลังสูงสุด 163 แรงม้า (PS) ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 2,400 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง หรือ ขับเคลื่อน 4 ล้อ
- เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 เทอร์โบคู่ รหัส D20 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1,995 ซีซี. พ่วงเทอร์โบคู่ ” Twin Turbo ” กำลังสูงสุด 218 แรงม้า (PS) ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 2,400 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง หรือ ขับเคลื่อน 4 ล้อ
“NEW MG EXTENDER” มีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการสู่สาธารณชนในงาน BIG Motor Sale 2019 ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 16 -25 สิงหาคมนี้ ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา
ต้องคอยติดตาม NEW MG EXTENDER จะเป็นกระบะที่มีราคาถูกที่สุดหรือเปล่า เพราะเสน่ห์ของ MG คือสามารถกดราคาให้ถูกกว่าคู่แข่งได้ ยังไงโปรดติดตามสิงหาคมนี้
ข่าวที่เคยอัพเดท


รายละเอียด Maxus T60 (MG T60)
Maxus T60 ภายนอกมาพร้อมออฟชั่นครบครันทั้งโคมไฟหน้าโปรเจคเตอร์ และ เดย์ไทม์ LED ไฟตัดหมอก กล้องมองภาพด้านหน้า-หลัง กระจกข้างพร้อมไฟเลี้ยว บันไดข้าง แร็คหลังคา
ภายในห้องโดยสารติดตั้งหน้าจอขนาดใหญ่ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนัง ช่องวางแก้วน้ำแผงแดชบอร์ด ช่องแอร์ผู้โดยสารตอนหลัง เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า ที่พักแขนพร้อมช่องวางแก้วแถวสอง กระจกหลังตัดแสงอัตโนมัติ กุญแจรีโมทพร้อมปุ่ม Push Start ถุงลมนิรภัย 2 ตำแหน่ง
Toyota Sienta Minor Change สิงหาคม

โตโยต้า มอเตอร์ประเทศไทย เตรียมเปิดตัว Toyota Sienta Minorchange Mini MPV เป็นโฉมนนำเข้าจากประเทศอินโดนีเชีย พร้อมเผยโฉม สิงหาคม 2562
การออกแบบภายนอกไม่ได้ปรับเปลี่ยนมากเพียงแค่ปรับรายละเอียดเล็กน้อยในส่วนโคมไฟหน้า ไฟท้าย กระจังหน้า กันชนหน้า ลายล้อกระทะ เพิ่มลูกเล่นให้เลือกสีตัวถัง 6 สี และโมโนโทน 12 สี โดยมีสีเบจเพิ่มจากรุ่นก่อน
Toyota Sienta มีรุ่น 3 แถว 6 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง ตอนนี้เพิ่มรุ่น 2 แถว 5 ที่นั่งอีักรุ่น FUNBASE X และ FUNBASE G ทำให้เพิ่มพื้นที่ห้องเก็บสัมภาระได้แบบเต็มที่ถึง 2,065 มิลลิเมตร สามารถจุจักรยานเสือภูเขาขนาด 26 นิ้วได้แบบสบายๆ
เครื่องยนต์เดิม
- เครื่องยนต์ 2NR-FE DAUL VVT-i 4 สูบ 16 วาล์ว 1.5 ลิตร แรงม้าสูงสุด 79 กิโลวัตต์ (108 แรงม้า) ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 140 นิวตัน-เมตร ที่ 4,200 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ CVT 7 สปีด แรงต่อเนื่อง นุ่มนวลทุกสปีด
ภายนอก
- ไฟหน้า Projector Lens แบบ Bi-Beam LED
- ไฟ Daytime Running Lights แบบ LED
- ไฟหรี่ – ไฟท้าย แบบ LED Lighting Guide
- ประตูสไลด์ 2 ข้าง ซ้าย – ขวา
- ประตูสไลด์ เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า ซ้าย – ขวา
- กระจังหน้าดีไซน์ใหม่
- กันชนหน้าใหม่
- กันชนหลังใหม่
ภายในห้องโดยสาร
- ระบบกุญแจ Smart Keyless Entry
- ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button
- ระบบปรับอากาศ แบบอัตโนมัติ พร้อมจอแสดงผลดิจิตอล
- เครื่องเสียง หน้าจอระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 7 นิ้ว
- เครื่องเสียง วิทยุ / CD / MP3 / DVD / WMA
- จอ LED ขนาด 8 นิ้ว สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
- เบาะนั่งแถวที่ 2 แยกพับอิสระ 50 : 50
- เบาะนั่งแถวที่ 2 ยกพับ แบบ One-Touch
- เบาะนั่งแถวที่ 3 แยกพับอิสระ 50 : 50
- เบาะนั่งแถวที่ 3 พับเก็บใต้เบาะแถวที่ 2
ระบบความปลอดภัย
- ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense ได้แก่ ระบบป้องกันการชนด้านหน้า, ระบบเตือนรถออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ, ไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบเตือนรถคันหน้าเคลื่อนตัว ระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งโดยไม่ตั้งใจ
ถุงลมนิรภัย 6-7 ตำแหน่ง และ Cruise Control จะอัพเกรดหรือไม่ต้องติดตามใกล้วันเปิดตัว
สำหรับราคา toyota sienta เจนใหม่ คาดว่าจะมีการปรับขึ้นจากรุ่นเดินเล็กน้อยยังไงโปรดติดตามสิงหาคมนี้
Toyota Corolla Altis สิงหาคม
All-new Toyota Corolla Altis 2019 แม้ว่าจะเปิดตัวในไต้หวันช่วงปลายมีนาคมที่ผ่านมา และตามมาด้วยการเปิดตัวที่เมืองจีน แต่เรายังไม่ได้นำเสนอภาพจริง ล่าสุดมีภาพจริงของ All-new Toyota Corolla Altis 2019 ทั้งภายใน และ ภายนอก ที่โชว์รูมแห่งหนึ่งในประเทศจีน (ภาพด้านบน)

สีแดง Red Mica Metallic สีฟ้า Celestite Gray Metallic สีขาว Super White สีเงิน Silver Metallic สีเทา Magnetic Gray Metallic สีดำ Black Mica
Toyota Corolla Altis เจน 11 คือเจนปัจจุบันที่เปิดตัว พ.ศ.2557 – ปัจจุบัน และมีรุ่นปรับโฉมในปี 2559 เป็นการปรับปรุงภายนอก และ เพิ่มระบบความปลอดภัยอีกเล็กน้อย
รอบวงการปรับโฉม Corolla Altis ใกล้เข้ามาทุกทีโดยเฉพาะในไทย ในต่างประเทศปี 2561 ได้เปิดตัว โตโยต้า โคโรลล่า (E210) รุ่นที่สิบสอง พัฒนาบนโครงสร้างใหม่ Toyota New Global Architecture (TNGA) ในสหรัฐอเมริกา
ตามมาด้วยการเปิดตัวในหลายประเทศ และล่าสุดไต้หวันได้เปิดตัว All-NEW Toyota Corolla Altis เจนที่ 12 ในวันที่ 27 มีนาคม 2019 และมีความเป็นไปได้อย่างมากที่ Altis เวอร์ชั่นไทยจะมีรูปลักษณ์เหมือนเวอร์ชั่นไต้หวัน
รายละเอียด Corolla Altis เวอร์ชั่นไต้หวัน
ขนามิติตัวถัง Corolla Altis ไต้หวัน
- ยาว 4,630 มิลลิเมตร
- กว้าง 1,780 มิลลิเมตร
- สูง 1,435 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,700 มิลลิเมตร
เมื่อเทียบกับเวอร์ชั่นไทย Corolla Altis ไต้หวัน ยาวขึ้น 10 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 5 มิลลิเมตร เตี้ยลง 25 มิลลิเมตร
การออกแบบเรียบง่ายหรูหรา กระจังหน้ามีซี่โครงต่อแนวยาวจนถึงบริเวณไฟหน้า ด้านข้างมาพร้อมเส้นสายที่เรียบง่าย ในทุกรุ่นจะมาพร้อมล้อและยางขนาด 205/55R16 ยางแก้มหนาขนาด 195/65R15 ไฟท้ายแบบ LED และ Full LED Tube
ไฟหน้ามีให้เลือก 3 แบบได้แก่ แบบโปรเจคเตอร์ หลอดฮาโลเจน แบบ Bi LED โปรเจคเตอร์ พร้อมไฟ Daytime Runnning Light สีน้ำเงิน และ ไฟตัดหมอกแบบ LED
ภายในห้องโดยสารออกแบบเรียบง่ายในแนวคิด Sensuous Minimalism ใช้ไฟตกแต่งภายใน Ambient Light เบาะนั่งมีให้เลือกทั้งสีดำ และแบบทูโทน (เทาอ่อน-ดำ) ระบบเครื่องเสียงแบบธรรมดา และ หน้าจอขนาด 8 นิ้วรองรับ Drive+Connect และ WiFi พร้อมจอ Multi Information Display (MID) เป็นจอสี TFT ขนาด 4.2 นิ้ว หน้าปัดที่มีจอตรงกลางเป็น TFT ขนาด 7 นิ้ว
รุ่นเกือบท๊อปจะมีระบบฉายข้อมูลความเร็ว และรอบทำงานเครื่องยนต์บนกระจกหน้า พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายจุได้ถึง 470 ลิตร แต่รุ่นไฮบริดจะเผื่อที่เก็บแบตเตอรี่ทำให้ความจุลดลง 50 ลิตร

- เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.8 ลิตร 1,798 ซี.ซี. ให้แรงม้าสูงสุด 140 แรงม้าที่ 6,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 17.6 กก. ม. ที่ 4,000 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อมระบบ G AI Shift Control และโหมด +/- ล็อคอัตราทดได้ 7 จังหวะ สามารถเลือกโหมดการทำงานแบบ Normal/Sport
- เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ Atkinson cycle ขนาด 1.8 ลิตร 1,798 ซี.ซี. ให้แรงม้าสูงสุด 96.5 แรงม้าที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 14.5 กก. ม. ที่ 3,600 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor แบตเตอรี่ Ni-MH ผสานกำลังสูงสุด 122 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ แบบ E-CVT
ระบบความปลอดภัย
- ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง
- กล้องรอบคัน 360 องศา (เฉพาะ Hybrid ตัวท้อป)
- ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง TPMS
- Toyota’s Star Safety System
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (VSC)
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TRC)
- ระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
- ระบบช่วยเสริมแรงเบรก (BA)
- ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS)
- ระบบแยกจับเบรกหน้าซ้าย/ขวาเพื่อช่วยในการเข้าโค้ง (ACA)
- Toyota Safety Sense 2.0
- ระบบความปลอดภัยก่อนการชน และ เบรกอัตโนมัติ Pre-Collision System
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ แบบแปรผัน Dynamic Radar Cruise Control
- ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน หรือมีอาการส่ายไปมาในเลน พร้อมหน่วงพวงมาลัยอัตโนมัติ Lane Departure Assist (LDA)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beam Control (AHB)
- ระบบตรวจจับรถในจุดบอดกระจกมองข้าง Blind Spot Monitoring (BSM) – (มีทุกรุ่นยกเว้นเบนซินรุ่นถูกสุด)
ราคาของ Corolla Altis ไต้หวันเคาะที่ 719,000 – 925,000 บาทยังไม่รวมภาษีบ้านเรา ประเทศไทยเปิดตัวช่วงสิงหาคมนี้
All-NEW Mazda3 กันยายน

ไม่ต้องแปลกใจถ้าเห็น รถยนต์พลางตัวรูปทรงคล้าย Mazda3 เพราะมันก็คือ All-NEW Mazda3 เจนใหม่นั้นเอง โดยยกการดีไซน์มาจากเวอร์ชั่น USA ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่งาน Los Angeles Auto Show 2018 และเตรียมเปิดตัวในบ้านเรากันยายนนี้
เปิดตัวกันยายนนี้
All-NEW Mazda3 ใหม่ยังคงเอกลักษณ์การออกแบบ KODO เวอร์ชั่น 2.0 ภายใต้แนวคิด “An object of universal desire” มีการปรับปรุงทั้งภายนอก และภายในใหม่ ให้มีความพรีเมี่ยมมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมาพร้อมการเปลี่ยนแปลง เครื่องยนต์ ที่มีทั้งการนำบล็อคเดิมมาปรับปรุงใหม่ทั้งเบนซินและดีเซล พร้อมขายในต้นปี 2019 และเครื่องยนต์ใหม่ SKYACTIV-X + M-Hybrid (Mild Hybrid System จะเปิดตัวตามมาทีหลัง) ครั้งแรกของ Mazda 3 ที่ใช้ช่วงล่างหลังแบบคานบิดแทนแบบอิสระ
- ขนาดมิติตัวถัง Sedan ความยาว x กว้าง x สูง เท่ากับ 4,662 x 1,797 x 1,445 มิลลิเมตร
- ขนาดมิติตัวถัง Hatcback 4,459 x 1,797 x 1,440 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อยาว 2,725 มิลลิเมตร
ภายในมาพร้อมอุปกรณ์ครบครันเช่น
- หน้าจอตรงกลางขนาด 8.8 นิ้ว ใหม่่
- เครื่องเสียงมาตราฐาน 8 ลำโพง พร้อมระบบเสียงจาก BOSE 12 ลำโพงพร้อมซับวูฟเฟอร์
- จอ Head-Up Display ฉายข้อมูลบนกระจกหน้า
- สวิตช์ควบคุมปุ่มหมุนลักษณะที่คล้าย iDrive
- ตำแหน่งเกียร์เลื่อนไปด้านหลัง และติดตั้งสูงกว่ารุ่นเดิม
- ปุ่มควบคุมสำหรับ MZD Connect ก็เลื่อนไปข้างหน้ามากกว่ารุ่นเดิม
- ย้ายตำแหน่งที่วางแก้วไปด้านหน้าคันเกียร์

เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 Skyactiv-G
- เครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร 1,998 ซีซี. Dual S-VT Electronic Direct Injection กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 83.5 x 91.2 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 14.0 : 1 กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 210 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ รองรับ E85
- สำหรับเครื่องยนต์ใหม่ Skyactiv-X + Mild Hybrid จะตามมาทีหลัง
All-NEW Mazda 3 จะเปิดตัวในประเทศไทยช่วงเดือนกันยายนนี้ โปรดติดตามรายละเอียด
ภาพจาก ชิน’ โซฮอล
All-NEW Chevrolet Captiva กันยายน


All-NEW Chevrolet Captiva อีกหนึ่งความภาคภูมิใจของรถยนต์ SUV อเนกประสงค์ของเชฟโรเลตมาพร้อมการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอก – ภายในห้องโดยสาร ยกระดับความแตกต่างในชื่อ Captiva
เชฟโรเลต แคปติวา รถอเนกประสงค์รุ่นใหม่ล่าสุด ครบครันความคุ้มค่าด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ การออกแบบภายนอกโฉบเฉี่ยวมีสไตล์ และพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง มีทั้งรุ่น 5 ที่นั่งและ 7 ที่นั่ง มาพร้อมกับหลังคาพาโนรามิกซันรูฟและไฟหน้า LED ดีไซน์ใหม่
- บ้านเราจะมีให้เลือกทั้งเบาะนั่ง 2 แถว 5 ที่นั่ง และ เบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง ทั้ง 2 รูปแบบ
ขนาดมิติตัวถัง NEW Captiva ยาว x กว้าง x สูง : 4,655 x 1,836 x 1,760 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ : 2,750 มิลลิเมตร
แต่สิ่งที่ทำให้หลายๆคนรอคอยคือราคาของ All-NEW Chevrolet Captiva เจนใหม่ ที่เผยโฉมในงาน Motor Show 2019 ที่ผ่านมา ณ ตอนนี้เชฟโรเลตประเทศไทยเหลือรถยนต์จำหน่ายเพียงแค่ 2 รุ่นได้แก่ Chevrolet Trailblazer และ Chevrolet Colorado การเต็มเต็มของ All-NEW Chevrolet Captiva กำลังจะเกิดขึ้นช่วงกันยายนนี้
All-NEW Captiva เจนใหม่ เตรียมวางจำหน่ายในกลุ่ม Sub Compact Crossover (B-SUV) คาดว่าราคาเริ่มต้นที่ 9 แสนบาท – 1.2 ล้านบาทโดยประมาณ
ภาพในงาน Motor Show 2019
ภายในห้องโดยสารมีให้เลือก 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง มาพร้อมวัสดุคุณภาพ หน้าจอ MID ขนาดใหญ่ จอทัชสกรีนขนาดใหญ่ 10.4 นิ้วในแนวตั้ง แผงมาตรวัด ย้ายความเร็วไปไว้ด้านขวา และเปลี่ยนวัดรอบให้หมุนตามเข็มนาฬิกาเหมือนรถทั่วไป
ตอนนี้เครื่องยนต์ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าจะเป็นขุมพลังใด แต่มี 3 เครื่องยนต์ให้เดาได้แก่
- เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.8 ลิตร 1,798 ซีซี. กำลังสูงสุด 139 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 186 นิวตันเมตร ที่ 3,600 – 4,600 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมโปรแกรมล็อคพูเล่ย์อัตราทดเกียร์ 8 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า FWD
- เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร 1,451 ซีซี. พ่วงเทอร์โบ กำลังสูงสุด 152 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 230 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 3,800 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมโปรแกรมล็อคพูเล่ย์อัตราทดเกียร์ 8 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า FWD (เป็นไปได้ที่จะเปิดตัวในบ้านเรา)
- เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร 1,956 ซีซี. พ่วงเทอร์โบ กำลังสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 2,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า FWD
All-NEW Chevrolet Captiva มีการปรับโฉมที่น่าสนใจทั้งภายนอก และภายใน รวมถึงเครื่องยนต์ใหม่ แต่หากขายในราคาที่เหมาะสมไม่แพงเกินไปรับรองว่าสามารถทำยอดขายพุ่งแน่ๆ
ราคาคาดว่าจะอยู่ประมาณ 900,000 – 1,200,000 บาท โดยประมาณ