10 อาการ ส่อเบรกรถมีปัญหา
เรื่องเบรก สำคัญสุดๆเลยครับเพราะการขับขี่รถยนต์เราอาศัยเบรกในการหยุดรถแต่…ถ้าเบรกเรามีปัญหาหรือพังขณะขับขี่รถ ผมว่ามันเป็นเหตุการณ์ที่น่าขนลุกเลยทีเดียว เพราะเรื่องเบรกเสียมันก็มีไม่บ่อยเท่าไหร่ เพราะเราไม่ค่อยได้สังเกต วันนี้ Car250 จะพาท่านไปชมอาการเบรกมีปัญหา ทั้ง 10 อาการว่าเป็นอย่างไร
1.เบรกดัง – อาการ ให้สังเกตว่าเสียงดังมาจากไหนล้อหน้า ล้อหลังข้างไหน ส่วนใหญ่อาการเหล่านี้มักเกิดจากผ้าเบรกหรือจานเบรกหมดแล้วเกิดการเสียดสีกัน จึงควรตรวจสอบแก้ไขโดยด่วน และบางกรณีอาจเกิดจากการใช้ผ้าที่ไม่ได้มาตราฐาน ทางที่ดีควรใช้ผ้าจากโรงงานหรือยี่ห้อดังที่มีมาตราฐาน
2.เบรกสั่น – อาการ เมื่อเหยีบบเบรกเบาๆ จะเกิดอาการสั่น ขึ้น-ลง ระยะแรงจะสั่นแบบเบาๆที่แป้นเบรก แต่ถ้านานๆเข้าจะสั่นไปถึงพวงมาลัย หากรุนแรงจะสั่นสะท้อนไปทั้งคันเลยทีเดียว สาเหตุเกิดจากเบรกคดบิดตัว สึกหรอไม่สม่ำเสมอ เกิดจากการใช้งานแรงเกินไป หรือ จานเบรกไม่ได้มาตราฐาน และสาเหตุอื่นๆอย่างเช่น เบรกมีความร้อนสูงแล้วลุยน้ำ อาการนี้เกิดได้ทั้งระบบดิสก์เบรกและดรัมเบรก ให้ไปตรวจเช็คและเจียรจานเบรก
3.เบรกแข็ง – อาการ เมื่อเหยียบเบรกรู้สึกไม่ค่อยอยู่ รู้สึกเบรกแข็งต้องออกแรงมากกว่าเดิม อาการเบรกแข็งเกิดได้หลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็น หม้อลมเบรกเริ่มรั่วซึมจากชุดผ้าใบภายในหรือวาล์ว PVC หรือ Combo Vale เสีย ทำให้แรงสุญญากาศของหม้อลมน้อย สำหรับรถเครื่องยนต์ดีเซล อาจเป็นที่ปั๊มสุญญากาศที่บริเวณตูดไดชาร์จเสียรวมทั้งสายลมรั่ว เป็นต้น อาการเหล่านี้ควรรีบแก้ไขโดยด่วน
4.เบรกจม – อาการ เมื่อเหยียบเบรกแล้วเกิดอาการเบรกจมต่ำกว่าปกติ หากเหยียบค้างแป้นเบรกจะค่อยๆจมลง ส่วนมากเกิดจากลูกยางแม่ปั๊มเบรกตัวบนสึกหรอ หรือบวม ทำให้แรงดันเบรกลดลง ต้องออกแรงเบรกมากขึ้น ควรรีบแก้ไขก่อนเกิดอาการเบรกแตก
5.เบรกแตก – อาการ เหยียบแป้นเบรกแล้วแป้นจมไม่ทำงาน ซึ่งอาการเบรกแตกมีหลายสัญญาณ หากละเลยจะเกิดปัญหาจนถึงแก่ชีวิตได้ อาการเมื่อกดแป้นเบรกจนสุดถึงพื้นรถ หรือนุ่มหยุ่น ๆ ก่อนแล้วจมลงติดพื้น แต่รถยังคงไม่ลดความเร็ว เหมือนไม่มีเบรก สาเหตุเกิดจากการรั่วของน้ำมันเบรก และตัวแม่ปั๊มเบรกเสียหายจนน้ำมันเบรกรั่วไหลออกจนหมด หรืออาจเกิดจากชิ้นส่วนของระบบเบรกหลุดหลวม หรือเกิดจากสายอ่อนเบรกแตก สำหรับการลดความเร็วอย่างปลอดภัยนั้นขึ้นอยู่กับความเร็วรถและเส้นทางขณะนั้น ให้ค่อย ๆ ลดตำแหน่งเกียร์ควบคู่ไปกับการค่อย ๆ ดึงเบรกมือ จะช่วยลดความเร็วลงได้
6.เบรกติด – อาการ เมื่อปล่อยเบรก เบรกยังทำงานอยู่ อาการแบบนี้เบรกจะทำงานตลอดเวลาโดยที่เราไม่ได้เหยียบ เบรกร้อนมีกลิ่นเหม็นไหม้ เข็นรถยาก นั้นเป็นอาการเบรกติด สาเหตุเกิดจาก ลูกยางกันฝุ่นของแม่ปั๊มเบรกฉีกขาด ทำให้มีน้ำซึมเข้าไปในกระบอกเบรกจนเกิดสนิท ติดขัดลูกสูบเบรกไม่สามารถเคลื่อนตัวเข้า-ออกได้ รวมถึงปัญหาซีนยางบวมผิดรูป ทำให้ลูกสูบที่คาลิปเปอร์เบรกไม่เลื่อนกลับ
7.เบรกปัด – อาการ เมื่อเบรกเกิดอาการเบรกรถปัดเอียงไปข้างหนึ่ง หากเบรกแล้วมีการปรับเอียงไปด้านซ้ายแสดงว่า จุดที่คุณต้องตรวจระบบเบรกคือด้านขวา ซึ่งอาจเกิดจากคราบน้ำมันหรือสารหล่อลื่นของชุดช่วงล่างกระเด็นมาโดนจานเบรก ทำให้ผิวลื่นมัน ความฝืดลดลง หรือเกิดจากประสิทธิภาพการสึกหรอของชุดคาลิปเปอร์เบรกที่มีแรงกดในแต่ละฝั่งที่ต่างกัน
8.เบรกลื่น – อาการ เบรกไม่อยู่ขณะใช้ความเร็วสูงในเส้นทางขึ้นเขาลงเขา ช่วงความเร็วสูงมากๆ พอแตะเบรกคัรั้งแรกปกติ แต่พอแตะเบรกอีกหลายๆครั้ง กลับเกิดอาการลื่นเบรกไม่ตอบสนองซึ่งอันตรายมาก สาเหตุเกิดจากความร้อนของจานเบรกกับผ้าเบรดที่สูงเกินไป มาจากการใช้งานหนักเกินไป หากเคยมีอาการก็ควรปรับใช้ผ้าเบรกที่คุณภาพสูงขึ้นและน้ำมันเบรกที่มีค่า DOT สูงขึ้นกว่าเดิม
9.เบรกหมด – อาการ จะเกิดเสียงดังเหมือนเหล็กเสียดสีกัน และเบรกมีอาการสั่นๆ นี่คืออาการผ้าเบรกหมด จนโลหะของแผ่นผ้าเบรกสีกับจานเบรก ต้องรีบเปลี่ยนโดยทันที หากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้ผ้าเบรกสีกับจานเบรกจนเสียหาย
10.เบรกสะท้าน – อาการ เมื่อเบรกกระทันหันจะมีเสียงดังกระพือ แป้นเบรกสั่น อาการไม่ได้มาทุกครั้ง ตอนเบรกกระทันหันแต่ถ้ารถมีระบบ ABS นั่นคืออาการจากการทำงานของชุดปั๊ม ABS ซึ่งจะเข้ามารับหน้าที่สร้างแรงเบรก 15-17 ครั้ง ต่อวินาทีแทนคุณทันที…ที่คุณเบรกแบบฉุกเฉินจนล้อล็อค เพื่อให้คุณสามารถควบคุมรถขณะเบรกกระทันหัน ซึ่งเป็นอาการปกติเมือ่ระบบ ABS ทำงาน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Men’s Health