เทคโนโลยีหล่อตัวถังแบบ GIGA PRESS คืออนาคตของรถยนต์ไฟฟ้า รุ่นใหม่ๆ ?
Gigacasting คือเทคโนโลยีการผลิตชิ้นส่วนอลูมิเนียมขนาดใหญ่แบบหล่อด้วยเครื่องจักรขนาดใหญ่ เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ผู้ผลิตรถยนต์สามารถผลิตชิ้นส่วนอลูมิเนียมขนาดใหญ่ได้โดยไม่ต้องเชื่อมชิ้นส่วนย่อยเข้าด้วยกัน ซึ่งช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพ
Tesla เป็นบริษัทแรกที่นำเทคโนโลยี Gigacasting มาใช้ในการผลิตรถยนต์ โดยเริ่มใช้เทคโนโลยีนี้ในการผลิตชิ้นส่วนโครงสร้างหลักของรถยนต์ Model Y ในปี 2020 ปัจจุบัน Tesla มีโรงงาน Gigacasting ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา จีน และเยอรมนี
คำว่า “Gigacasting” หมายถึงการหล่อชิ้นส่วนขนาดใหญ่ของรถยนต์ด้วยอลูมิเนียม ซึ่งปกติแล้วจะทำจากชิ้นส่วนเล็กๆ หลายชิ้น โดยหลักการทำงานของมันคือการนำอะลูมิเนียมหลอมเหลวก้อนใหญ่ที่มีน้ำหนักเกือบ 82 กก. มาอัดลงในแม่พิมพ์ ภายใต้แรงกดดันมหาศาล (6-9,000 เมตริกตัน) ก่อนปล่อยออกมาเพื่อให้ส่วนประกอบที่ขึ้นรูปใหม่สามารถระบายความร้อนได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะไม่มีอะไรใหม่เกี่ยวกับการหล่อ แต่เดิมมักใช้กับชิ้นส่วนขนาดเล็กที่ใช้แรงกดน้อยกว่า
- การสร้างรถยนต์จากส่วนประกอบที่น้อยลงช่วยลดต้นทุนการผลิต Tesla กล่าวว่าส่วน Gigacast ที่ใช้ในด้านหลังของ Model Y ช่วยให้สามารถลดต้นทุนที่เกี่ยวข้องอย่างมากในการผลิตกว่า 40%
Tesla กำลังทำงานในขั้นตอนต่อไปของกระบวนการหล่อ ซึ่งจะช่วยให้สามารถหล่อโครงสร้างพื้น EV ทั้งหมดให้เป็นส่วนประกอบเดียว และตอนนี้ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ กำลังกระโดดเข้าสู่เทคโนโลยีนี้ ส่วนหนึ่งเป็นความพยายามที่จะก้าวให้ทันกับ Tesla เมื่อเร็ว ๆ นี้ โตโยต้าได้เปิดตัวเทคโนโลยี Gigacasting ของตัวเอง โดยอ้างว่าสามารถลดขั้นตอนการผลิตจากหลายชั่วโมงเหลือเพียงสามนาที
ในประเทศจีนมีแบรนด์รถยนต์อย่าง NIO และ ZEEKR 009 ของ Geely ที่พวกเขาหล่อตัวถังด้านหลังแบบ gigacast ชิ้นเดียว ในขณะที่ G6 ของ Xpeng มีส่วนด้านหน้าแบบ gigacast
ประโยชน์ของเทคโนโลยี Gigacasting ได้แก่:
- ลดต้นทุนการผลิต: เทคโนโลยี Gigacasting ช่วยลดต้นทุนการผลิตชิ้นส่วนอลูมิเนียมได้อย่างมาก เนื่องจากไม่จำเป็นต้องเชื่อมชิ้นส่วนย่อยเข้าด้วยกัน
- เพิ่มประสิทธิภาพ: เทคโนโลยี Gigacasting ช่วยให้ผู้ผลิตรถยนต์สามารถผลิตชิ้นส่วนอลูมิเนียมขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
- ปรับปรุงคุณภาพ: เทคโนโลยี Gigacasting ช่วยให้ผู้ผลิตรถยนต์สามารถผลิตชิ้นส่วนอลูมิเนียมที่มีความแข็งแรงและทนทานมากขึ้น
เทคโนโลยี Gigacasting เป็นเทคโนโลยีการผลิตรถยนต์ที่ล้ำสมัย ซึ่งจะช่วยให้ผู้ผลิตรถยนต์สามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดต้นทุนมากขึ้น
ตัวอย่างชิ้นส่วนรถยนต์ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี Gigacasting ได้แก่:
- ชิ้นส่วนโครงสร้างหลักของรถยนต์ เช่น พื้นรถ เสาประตู และเสาหลังคา
- ชิ้นส่วนแชสซี เช่น กันชน ขอบล้อ และตัวถัง
- ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ เช่น บล็อกเครื่องยนต์และฝาสูบ
เทคโนโลยี Gigacasting กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมยานยนต์ เนื่องจากช่วยให้ผู้ผลิตรถยนต์สามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดต้นทุนมากขึ้น
- Tesla เป็นบริษัทแรกที่นำเทคโนโลยี Gigacasting มาใช้ในการผลิตรถยนต์ โดยเริ่มใช้เทคโนโลยีนี้ในการผลิตชิ้นส่วนโครงสร้างหลักของรถยนต์ Model Y ในปี 2020 ปัจจุบัน Tesla มีโรงงาน Gigacasting ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา จีน และเยอรมนี
- NIO ยังใช้เทคโนโลยี gigacasting ในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอีกด้วย บริษัทมีความร่วมมือกับ Guangdong Hongtu Technology ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์เครื่องจักรหล่อขึ้นรูปของจีน NIO ได้ใช้เทคโนโลยี gigacasting เพื่อผลิตพื้นด้านหลังของรถซีดาน ET5 แล้ว และคาดว่าจะใช้เทคโนโลยี gigacasting เพื่อผลิตส่วนประกอบเพิ่มเติมของยานพาหนะในอนาคต
- Zeekr ซึ่งเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าของจีนที่ Geely Holding Group เป็นเจ้าของ กำลังใช้เทคโนโลยี gigacasting ในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของตนเช่นกัน บริษัทมีความร่วมมือกับ Guangdong Hongtu Technology ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์เครื่องจักรหล่อขึ้นรูปของจีน Zeekr ได้ใช้เทคโนโลยี gigacasting เพื่อผลิตพื้นด้านหลังของ 001 MPV
- XPeng ยังใช้เทคโนโลยี gigacasting ในการผลิตยานพาหนะไฟฟ้าอีกด้วย บริษัทมีความร่วมมือกับ Guangdong Hongtu Technology ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์เครื่องจักรหล่อขึ้นรูปของจีน XPeng ได้ใช้เทคโนโลยี gigacasting เพื่อผลิตส่วนหน้าและพื้นด้านหลังของรถซีดาน G6
- Ford ประกาศในปี 2022 ว่าจะใช้เทคโนโลยี Gigacasting ในการผลิตชิ้นส่วนโครงสร้างหลักของรถยนต์ F-150 Lightning รถยนต์กระบะไฟฟ้ารุ่นล่าสุดของบริษัท
- BMW ประกาศในปี 2023 ว่าจะใช้เทคโนโลยี Gigacasting ในการผลิตชิ้นส่วนโครงสร้างหลักของรถยนต์ iX M60 รถยนต์ SUV ไฟฟ้ารุ่นล่าสุดของบริษัท
- Mercedes-Benz ประกาศในปี 2023 ว่าจะใช้เทคโนโลยี Gigacasting ในการผลิตชิ้นส่วนโครงสร้างหลักของรถยนต์ EQS SUV รถยนต์ SUV ไฟฟ้ารุ่นล่าสุดของบริษัท
- Volkswagen ประกาศในปี 2023 ว่าจะใช้เทคโนโลยี Gigacasting ในการผลิตชิ้นส่วนโครงสร้างหลักของรถยนต์ ID. Buzz รถยนต์ MPV ไฟฟ้ารุ่นล่าสุดของบริษัท
- TOYOTA จะใช้เทคโนโลยีการหล่อแบบ Gigacasting ในปี 2025 เป็นต้นไป
ข้อเสียของการหล่อแบบ Gigacasting
- ต้นทุนการลงทุนสูง: เครื่องจักร Gigacasting มีราคาแพงมาก ผู้ผลิตรถยนต์จำเป็นต้องลงทุนจำนวนมากเพื่อติดตั้งเครื่องจักรเหล่านี้
- ความซับซ้อนของการผลิต: การผลิตชิ้นส่วนขนาดใหญ่ด้วยเครื่องจักร Gigacasting ต้องใช้ความซับซ้อนสูง ผู้ผลิตรถยนต์จำเป็นต้องมีทักษะและประสบการณ์ในการดำเนินการผลิตนี้
- ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม: การผลิตชิ้นส่วนอลูมิเนียมต้องใช้พลังงานและทรัพยากรจำนวนมาก ผู้ผลิตรถยนต์จำเป็นต้องมีมาตรการเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของการผลิตด้วยเครื่องจักร Gigacasting
ตัวถัง Gigacasting ซ่อมได้เช่นเดียวกับตัวถังรถยนต์ทั่วไป แต่มีความแตกต่างบางประการที่ต้องพิจารณา
- ความซับซ้อนของชิ้นส่วน: ตัวถัง Gigacasting เป็นชิ้นส่วนขนาดใหญ่และซับซ้อน ซึ่งอาจทำให้การซ่อมแซมทำได้ยากกว่าตัวถังรถยนต์ทั่วไป
- วัสดุที่ใช้: ตัวถัง Gigacasting ทำจากอลูมิเนียม ซึ่งแตกต่างจากเหล็กที่ใช้ในรถยนต์ส่วนใหญ่ ช่างซ่อมรถต้องได้รับการฝึกอบรมพิเศษในการซ่อมแซมชิ้นส่วนอลูมิเนียม
- เครื่องมือและอุปกรณ์: การซ่อมแซมตัวถัง Gigacasting ต้องใช้เครื่องมือและอุปกรณ์พิเศษ เช่น เครื่องเชื่อมอลูมิเนียมและเครื่องบด
โดยทั่วไปแล้ว การซ่อมแซมตัวถัง Gigacasting จะดำเนินการในขั้นตอนต่อไปนี้:
- ประเมินความเสียหาย: ช่างซ่อมรถจะประเมินความเสียหายของตัวถังเพื่อกำหนดขอบเขตของการซ่อมแซม
- ถอดชิ้นส่วนที่เสียหาย: ช่างซ่อมรถจะถอดชิ้นส่วนที่เสียหายออกจากตัวถัง
- ซ่อมแซมชิ้นส่วนที่เสียหาย: ช่างซ่อมรถจะซ่อมแซมชิ้นส่วนที่เสียหายโดยใช้เทคนิคที่เหมาะสมกับวัสดุที่ใช้
- ประกอบชิ้นส่วนกลับเข้าที่: ช่างซ่อมรถจะประกอบชิ้นส่วนกลับเข้าที่
- ทดสอบการซ่อมแซม: ช่างซ่อมรถจะทดสอบการซ่อมแซมเพื่อตรวจสอบว่ามีประสิทธิภาพ
การซ่อมแซมตัวถัง Gigacasting อาจมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการซ่อมแซมตัวถังรถยนต์ทั่วไป เนื่องจากต้องใช้เครื่องมือและอุปกรณ์พิเศษ รวมถึงทักษะและประสบการณ์ของช่างซ่อมรถ อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตรถยนต์บางรายเสนอการรับประกันตัวถังแบบยาวนานสำหรับรถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยี Gigacasting ซึ่งอาจช่วยชดเชยค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมในอนาคต
Giga Press
Giga Press (High pressure die casting machine) คือเครื่องจักร หรือ เครื่องหล่อปั้มรถยนต์ ที่ครบวงจรที่สุดในโลก (Die casting machine) ถูกสร้าง และ คิดค้นโดยบริษัท IDRA Group จากประเทศอิตาลี่ เครื่องจักรนี้ เป็นเครื่องจักร Die Casting อันทรงพลังมากที่สุดในโลก
- IDRA ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ 1946 มีประสบการณ์ด้านการผลิตเครื่องหล่อโลหะแรงดันสูง โดยมี LK Technology ของ ฮ่องกง เป็นบริษัทแม่
เครื่องจาก Giga Press ภายใต้ชื่อรุ่น OL 6100 CS ถูกนำไปใช้ครั้งแรกโดย Tesla ปลายปี 2020 โดยเครื่องจักร Giga Press ติดตั้งที่โรงงานรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Factory ณ เมือง Fremont รัฐแคลิฟอร์เนีย น้ำหนักของมันมากถึง 410 – 430 ตัน
หลักการทำงานคราวๆ เตาหลอมจะรับอลูมิเนียมเย็นหนักกว่า 80 กิโลกรัม เข้าไปยังเครื่องหล่อเย็นด้วยความเร็ว 10 เมตรต่อนาที
พร้อมการปั้มโลหะให้กลายเป็นรถยนต์ Cyle Time อยู่ที่ 80-90 วินาที ทำให้สามารถผลิตโครงรถยนต์กว่า 40-45 คันภายใน 1 ชั่วโมง และทำให้สามารถผลิตรถยนต์มากถึง 1000 คันต่อวัน
การหล่อแซสซีเป็นชิ้นเดียว ทำให้รถมีโครงสร้างที่แข็งแกร่ง และน้ำหนักเบาลง ช่วยให้รถวิ่งไกลขึ้น ช่วยลดความผิดพลาด และความคลาดเคลื่อนมากมายจากรอยเชื่อมต่อ
และ แน่นอน การผลิตเช่นนี้ ทำให้ต้นทุนรถยนต์แต่ละคันของเทสล่า ถูกลงกว่า 30% รวมๆแล้วต้นทุนในการผลิตแซสซีเทสล่า ถูกลง 40%
เทสล่า มีแผนติดตั้ง Gigapress ถึง 8 เครื่องในแต่ละโรงงาน Gigafactory ซึ่งรองรับการผลิตรถยนต์ได้มากถึง 4000 คันต่อวัน และ 1.5 ล้านคันต่อปี
Gigapress เริ่มใช้ในการผลิต Model Y ที่โรงงาน Gigafactory Fremont ในอเมริกา Gigafactory Berlin ในเยอรมัน Gigafactory Shanghai ในจีน Gigafactory Texas ในอเมริกา โดยเพิ่มขนาดการผลิต 8000 คันต่อวัน และ อาจผลิต Cybertruck เร็วๆนี้