Advertisement

Advertisement

ลดอีก 50,000 บาท HAVAL JOLION HEV ไฮบริด เหลือ 759,000 – 849,000 บาท โปร Trade-In

ลดอีก 50,000 บาท HAVAL JOLION HEV ไฮบริด เหลือ 759,000 – 849,000 บาท โปร Trade-In
Spread the love

Advertisement

Advertisement

 

 

 

 

 

ราคาจำหน่าย New HAVAL JOLION HEV

  • 1.5 HEV SPORT : จากราคา 799,000 บาท เหลือ 759,000  บาท (ลดราคา 40,000 บาท)*
    • ราคาตอนเปิดตัว 799,000 บาท
  • 1.5 HEV Ultra : จากราคา 899,000 เหลือราคา 849,000 บาท (ลดราคา 50,000 บาท)*
    • ราคาตอนเปิดตัว 999,000 บาท

*Trade-in ลดเก่าแลกใหม่รับส่วนลดเพิ่มเติ่มเติม 40,000 – 50,000 บาท

มาพร้อมการรับประกันคุณภาพตัวรถ และ โปรโมชั่น ดังนี้

  • รับประกันคุณภาพตัวรถ Warranty นาน 5 ปี หรือ 150,000 km.
  • รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด นาน 8 ปี หรือ 180,000 km.
  • ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน นาน 5 ปี หรือ 150,000 km.
  • ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
  • ดอกเบี้ย 0% นาน 48 เดือน เมื่อดาวน์ 25%
  • ฟรี ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ HUPER OPTIK CSD
  • ฟรี กระเป๋าเดินทาง GWM แบบล้อลาก 4 ล้อ ทรง Pilot วัสดุอะลูมิเนียม ขนาด 16 นิ้ว

สิ่งที่น่าสนใจ

  • ออกแบบภายใต้แนวคิด “Rise Up Your Spirit
  • โลโก้ HAVAL ใหม่
  • NEW ไฟหน้าแบบ LED
  • NEW ไฟส่องสว่างกลางวัน
  • ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
  • ระบบส่องนำทางหลังดับเครื่องยนต์ Follow Me Home
  • หลังคาสีดำ
  • กระจกสีดำ
  • ล้ออัลลอยสีดำ 18 นิ้วใหม่
  • สปอยเลอร์สีดำ
  • ดิฟฟิวเซอร์ออกแบบใหม่
  • กันชนหลังสีดำ
  • เบาะหลังพับ 60 : 40 เมื่อพับเบาะจะได้พื้นที่ 1,069 ลิตร
  • ภายในสีดำ
  • เบาะนั่งสีดำ

ล่าสุดมีการทดสอบวิ่งในประเทศไทย สำหรับ HAVAL JOLION HEV SPORT ใหม่ คาดว่ามันคือรุ่นแต่งพิเศษ ไม่ใช่รุ่นไมเนอร์เช้นจ์แต่อย่างไร เบื้องต้น ชุดแต่งจะมาพร้อมสีแดงตัดสีดำ เพิ่มความสปอร์ตรอบคัน ทั้งภายนอก และ ภายในห้องโดยสาร สำหรับขุมพลัง หรือ อื่นๆไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ

New HAVAL JOLION Sport สร้างสรรค์ขึ้นมาตามสไตล์สะท้อนอารมณ์สปอร์ต พร้อมพาผู้ขับขี่ทะยานไปทุกเส้นทาง ภายใต้แนวคิด “Rise Up Your Spirit เร้าทุกมิติ สปอร์ตทุกเส้นทาง” ด้วยดีไซน์คมเข้มแบบ ALL-BLACK บ่งบอกตัวตนในทุกช่วงเวลาของชีวิต โดยมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีดำ (Sun Black), สีเทา (Ayers Gray), สีขาว (Hamilton White), สีแดง (Burgundy Red) จับคู่กับสีภายในสีดำ

ขนาดตัวถัง

  • ยาว 4472 มม.
  • กว้าง 1874 มม.
  • สูง 1626 มม.
  • ระยะฐานล้อ 2700 มม.

การออกแบบภายนอก (Exterior Design)

  • ไฟหน้า LED เต็มรูปแบบ พร้อม Daytime Running Light ดีไซน์ใหม่แบบล้ำสมัย ให้ความรู้สึกสปอร์ต
  • ไฟท้าย LED พร้อมไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED เต็มระบบ
  • กระจังหน้า Black Symmetric ดีไซน์ใหม่สีดำล้วน โดดเด่นด้วยโลโก้ HAVAL ใหม่
  • ดิฟฟิวเซอร์ ดีไซน์ใหม่ สปอร์ตโฉบเฉี่ยวมากกว่าเดิม
  • ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ต ขนาด 18 นิ้ว สีดำล้วน
  • อุปกรณ์ตกแต่งแบบ ALL BLACK เช่น กระจกมองข้าง และ Roof Rail เพื่อเพิ่มความเท่ และสปอร์ตยิ่งขึ้น

การออกแบบภายใน (Interior Design)

  • หน้าจอมัลติมีเดียแบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay, Android Auto, Bluetooth และ MP3 ให้คุณเพลิดเพลินกับการขับขี่ด้วยลำโพงจำนวน 6 ตัว มาพร้อมระบบปรับระดับเสียงอัตโนมัติตามความเร็วรถ
  • หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา
  • เกียร์แบบ Electronic Shifter ชุดเกียร์ไฟฟ้า ดีไซน์หรู พร้อมสีพิเศษแบบ High-gloss เท่ทุกจังหวะการขับขี่
  • กุญแจ Smart Key และระบบ Push Start เพื่อความสะดวกสบายในการเปิดประตู หรือ สตาร์ทเครื่องยนต์
  • เบาะหนังสังเคราะห์ดีไซน์สปอร์ต ที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ โอบกระชับ เบาะคนขับสามารถปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง เพื่อช่วยจัดท่านั่งให้สบายและอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นวิสัยทัศน์ได้ดีที่สุด
  • แผงควบคุมที่คอนโซลกลาง พร้อมที่พักแขนและที่วางแก้วน้ำ
  • ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง อีกระดับของความสบาย
  • พื้นที่ห้องโดยสารอเนกประสงค์ เบาะที่นั่งด้านหลังสามารถพับลงได้แบบ 60:40 เพิ่มพื้นที่รองรับกิจกรรมที่หลากหลายตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
  • ช่องต่อ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหน้าและหลัง และช่องต่อ USB สำหรับกล้องบันทึกภาพ

ระบบการช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัย

  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (CC) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ตามความเร็วที่กำหนด ช่วยให้ผู้ขับขี่ขับได้อย่างสบายมากยิ่งขึ้น
  • กล้องแสดงภาพขณะถอยหลัง เพื่อช่วยเพิ่มมุมมองในการถอยหลังให้ชัดขึ้น
  • ถุุงลมนิรภัยคู่หน้าและด้านข้าง เพื่อปกป้องผู้โดยสารเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ในกรณีที่ถุงลมนิรภัยทำงาน ประตูจะถูกปลดล็อกโดยอัตโนมัติ
  • ระบบช่วยลงทางลาดชัน (HDC) และ ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA)
  • ระบบตรวจความดันลมยาง (TPMS) โดยรถจะทำการวัดแรงดันลมยางอย่างต่อเนื่องและเตือนผู้ขับขี่หากมีแรงดันลมยางล้อใดลดลง
  • ระบบช่วยเตือนความเมื่อยล้าขณะขับขี่ (DFM) เมื่อผู้ขับขี่ขับรถด้วยความเร็วเฉลี่ยเกิน 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ต่อเนื่องมากกว่า 4 ชั่วโมง ระบบจะแจ้งเตือนและแนะนำให้หยุดพัก ระบบจะเตือนด้วยภาพและเสียงนาน 20 วินาที ทุกๆ 10 นาที
  • ระบบไฟกะพริบเมื่อเบรกรถกะทันหัน (ESS) เมื่อมีการเบรกแบบกะทันหัน ระบบจะเปิดไฟกะพริบเพื่อแจ้งเตือนรถคันหลัง ให้ชะลอความเร็ว
  • ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่ 2 (SCM) โดยรถจะพยายามรักษาเสถียรภาพเอาไว้เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน
  • เซนเซอร์กะระยะด้านหลัง 3 จุด
  • Auto Break Hold ระบบเบรกมือไฟฟ้า พร้อมฟังก์ชันหยุดอัตโนมัติขณะรถหยุุดนิ่ง
  • ระบบล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อถึงความเร็วที่กำหนด
  • ระบบควบคุุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (VSS)
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (TCS)

เครื่องยนต์เบนซิน DOHC 4 สูบ Direct Injection ขนาด 1.5 ลิตร 1,499 ซีซี. ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำกำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ Dual Clutch ขับเคลื่อนล้อหน้า รองรับน้ำมันสูงสุด E20

  • โหมดการขับขี่ 4 รูปแบบ ได้แก่ 1) มาตรฐาน 2) สปอร์ต 3) ประหยัด 4) พื้นหิมะ
  • ช่วงล่าง
    • ด้านหน้า : McPherson Strut พร้อมช็อคอัพ และ เหล็กกันโคลง
    • ด้านหลัง : Torsion Beam
  • ระบบเบรก
    • ด้านหน้า : ดิสก์เบรก พร้อมครีบระบายความร้อน
    • ด้านหลัง : ดิสก์เบรก

    

 

Advertisement

Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้