Advertisement

Advertisement

ลดราคา 235,000 บาท KIA Carnival LX 2.2 DIESEL TURBO เหลือเพยีง 1,657,000 บาท เบาะนั่ง 11 ที่นั่ง

ลดราคา 235,000 บาท KIA Carnival LX 2.2 DIESEL TURBO เหลือเพยีง 1,657,000 บาท เบาะนั่ง 11 ที่นั่ง
Spread the love

Advertisement

Advertisement

 

KIA Carnival ราคาอย่างเป็นทางการ (นำเข้า CBU จากมาเลเซีย)

  • 2.2 Diesel Turbo EX 2,234,000 เหลือ 1,999,000 บาท*
  • 2.2 Diesel Turbo LX 1,892,000 เหลือ 1,657,000 บาท*

* แคมเปญ Motor Expo 2024 ส่วนลดสูงสุด 235,000 บาท 

ราคาจำหน่ายปกติ

  • 2.2 Diesel Turbo LX  1,892,000 บาท
  • 2.2 Diesel Turbo EX  2,234,000 บาท
  • 2.2 Diesel Turbo SXL  2,594,000 บาท

พร้อมรับประกัน

  • รับประกันตัวรถ Warranty นาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร
  • บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน Roadside Assistance 5 ปี

ขนาดตัวถัง

  • ยาว 5,155 มม.
  • กว้าง 1,995 มม.
  • สูง 1,775 มม.
  • ระยะฐานล้อ 3,090 มม.
  • ระยะห่างพื้น 172 มม.
  • ขนาดถังน้ำมัน 72 ลิตร

เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ขนาด 2,151 ซีซี TCI-VGT 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC ให้กำลัง 202 แรงม้าที่ 3800 รอบต่อนาที แรงบิตสูงสุด 441 นิวตัน-เมตร ที่ 1750 – 2750 รอบต่อนาที ความกว้างกระบอกสูง x ช่วงชัก 83×99.4 มม. กำลังอัด 16.0:1 ส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีตพร้อมโหมด Manual

  • ระบบเบรกหน้า ดิสก์เบรก พร้อมครีบระบายอากาศ
  • ระบบเบรกหลัง ดิสก์เบรก
  • ระบบกันสะเทือนหน้า แมคเฟอร์สันตรัท คอยล์สปริง / โช้คอัพแก็ส พร้อมเหล็กกันโคลง
  • ระบบกันสะเทือนหลัง มัลติลิงค์ คอยล์ฺสปริง / โช้คอัพแก็สพร้อมเหล็กกันโคลง

การออกแบบภายนอก 

  • ไฟหน้า Projector Lens แบบ Dual LED
  • ระบบปรับระดับไฟหน้า สูง-ต่ำ อัตโนมัติ
  • ไฟส่องสว่างมุมข้าง Escort Headlamp
  • ไฟ LED Daytime Running Lights
  • ไฟหรี่ แบบ LED
  • ไฟตัดหมอกคู่หน้า แบบ LED
  • ไฟตัดหมอกหลัง
  • ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ Rain Sensor
  • กระจกมองข้าง พร้อมไฟเลี้ยว LED ในตัว
  • กระจกมองข้าง ปรับและพับ ด้วยไฟฟ้า
  • กระจกมองขับ พับเก็บ-กางออก อัตโนมัติ
  • ไฟส่องสว่าง Pocket Light ที่มือเปิดประตูภายนอก
  • ไฟส่องสว่างที่พื้น บริเวณประตูสไลด์ซ้าย-ขวา
  • ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
  • แถบโครเมียมตกแต่งบริเวณเสา C-Pillar
  • ราวหลังคา
  • หลังคา Sunroof หน้า-หลัง เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
  • ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว ยาง ขนาด 235/60 R18

การออกแบบภายในห้องโดยสาร

  • ภายในโทนดำ-น้ำตาล
  • กระจกหน้าต่างไฟฟ้า ขึ้น-ลง อัตโนมัติ ทั้ง 4 บาน
  • มาตรวัดแบบ Super Vision
  • หน้าจอแสดงข้อมูล MID แบบสี LCD TFT ขนาด 4.2 นิ้ว
  • ไฟอ่านแผนที่ แบบ LED
  • เกียร์แบบหมุน Dial Type – Shift by Wire
  • แป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift
  • ม่านบังแดดประตูสไลด์ซ้าย-ขวา
  • ม่านบังแดดหน้าต่างบานที่ 3 ซ้าย-ขวา
  • ที่วางแขน และ กล่องเก็บของคอนโซลกลาง
  • ไฟสร้างบรรยากาศ Mood Light ที่แผงประตูทั้ง 4 บาน
  • กระจกมองหลัง แบบปรับลดแสงอัตโนมัติ
  • พวงมาลัยหุ้มด้วยหนัง
  • พวงมาลัย ปรับได้ 2 ทิศทาง ขึ้น-ลง
  • สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
  • ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา Dual Zone
  • ระบบปรับอากาศ Cluster Ionizer
  • สวิตซ์ควบคุมระบบปรับอากาศด้านหลัง แบบแยกส่วน
  • ปลั๊กจ่ายไฟ 2 ตำแหน่ง
  • ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button
  • ประตูสไลด์ เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ซ้าย-ขวา
  • ระบบป้องกันการหนีบ Protection JAM ที่ประตูสไลด์
  • ระบบ Smart Keyless Entry ที่ประตูสไลด์
  • ระบบ Smart Keyless Entry ที่ประตูคู่หน้า
  • ระบบ Smart Power Sliding Door ประตูสไลด์เปิดอัตโนมัติ เมื่ออยู่ใกล้ตัวรถ
  • ระบบ Away-Auto Close เปิด-ปิด ฝาท้ายอัตโนมัติ เมื่ออยู่ใกล้-ออกห่าง จากตัวรถ
  • ฝาท้าย เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
  • ระบบป้องกันการหนีบ Protection JAM ที่ฝาท้าย
  • กุญแจรีโมท สั่งเปิด-ปิด ประตูสไลด์ไฟฟ้า – ฝาท้ายไฟฟ้า

ระบบความบันเทิง

  • หน้าปัด Digital Supervision Cluster ขนาด 12.3 นิ้ว
  • หน้าจอระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 12.3 นิ้ว
  • รองรับ Apple CarPlay / Android Auto
  • ระบบนำทาง Navigation System
  • ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth
  • ระบบสั่งงานด้วยเสียง Voice Recognition
  • ลำโพง BOSE Surround Sound 12 ตำแหน่ง
  • ที่ชาร์จ USB 6 ตำแหน่ง
  • ระบบชาร์จมือถือแบบไร้สาย

เบาะนั่ง 4 แถว 11 ่ที่นั่ง

  • เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง สีน้ำตาล Saddle Brown สลับด้วย สีดำ
  • เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง
  • เบาะนั่งคนขับปรับดันหลังด้วยไฟฟ้า 4 ทิศทาง Lumbar Support
  • ระบบบันทึกความจำตำแหน่ง Memory Seat เบาะนั่งคนขับ
  • ระบบบันทึกความจำตำแหน่ง กระจกมองข้าง
  • เบาะนั่งคู่หน้า พร้อมระบบอุ่น Heated Seat เป่าลม 
  • เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง
  • สวิตซ์ปรับเลื่อนตำแหน่งเบาะผู้โดยสารตอนหน้า ด้านข้างเบาะ
  • จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX เบาะนั่งแถวที่ 2
  • เบาะนั่งแถวที่ 4 พับเก็บแบบ Pop-up Sinking เรียบไปกับพื้นรถ

ระบบความปลอดภัย

  • ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง
  • ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
  • ระบบกระจายแรงเบรก EBD
  • ระบบเสริมแรงเบรก BAS
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESC
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Auto High Beam
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control
    • พร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go
  • ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาบนหน้าจอ Blind-Spot View Monitor (BVM)
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง Blind Spot Collision Avoidance Assist
  • ระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Collision Avoidance
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางช่องจราจร Lane Following Assist
  • ระบบช่วยควบคุมรถใหอยู่ในช่องจราจร Lane Keeping Assist
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้า Forward Collision Avoidance Assist
  • ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีผู้โดยสารอยู่ด้านหลัง Rear Occupant Alert
  • ระบบป้องกันการออกจากรถขณะมีรถวิ่งผ่าน Safe Exit Assist
  • ระบบล็อคประตูอัตโนมัติตามความเร็วรถที่ตั้งไว้ Auto Door Lock by Speed
  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB
  • ฟังก์ชั่น Auto Brake Hold
  • ระบบล็อคพวงมาลัยไฟฟ้า
  • เซนเซอร์ปลดล็อคเมื่อเกิดการชน
  • ระบบกุญแจ Immobilizer
  • ระบบสัญญาณกันขโมย
  • กล้อง 360 องศา
  • เซนเซอร์หน้า-หลัง

 

 

(กรุงเทพฯ, 17 มีนาคม 2566) บริษัท ยนตรกิจ เกีย มอเตอร์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์เกีย ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เร่งขยายฐานกลุ่มลูกค้า ด้วยการเพิ่มรุ่นเริ่มต้นใหม่ของยนตรกรรมอเนกประสงค์ระดับพรีเมียม รุ่นเรือธงอย่าง “เกีย คาร์นิวัล” เจเนอเรชันที่ 4 โดยนำมาจัดแสดงให้ผู้สนใจสัมผัสอย่างใกล้ชิด  พร้อมข้อเสนอพิเศษภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ณ บูธเกีย B1 ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1 – 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 22 มีนาคม – 2 เมษายน 2566 พร้อมเดินหน้ารุกตลาดอย่างต่อเนื่องด้วยการขยายเครือข่ายโชว์รูม และศูนย์บริการมาตรฐาน เพื่ออำนวยความสะดวกและรองรับการบริการลูกค้าให้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค

นางสาวฬสนันท์ ภูนิธิพันธุ์กุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ยนตรกิจ เกีย มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “สำหรับเกีย คาร์นิวัล เจเนอเรชันที่ 4 เป็นรถยนต์รุ่นเรือธงของ เกีย ในประเทศไทย ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการและเริ่มส่งมอบตั้งแต่ช่วงประมาณต้นปี 2564 ด้วยดีไซน์ใหม่ที่โฉบเฉี่ยว ทันสมัย มีพื้นที่ภายในที่กว้างขวางและปรับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ พร้อมด้วยระบบอำนวยความสะดวกที่ครบครัน จึงสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคชาวไทยได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัวยุคใหม่ พิสูจน์ได้จากยอดส่งมอบในประเทศไทยแล้วร่วม 3,000 คัน นับตั้งแต่เปิดตัว และในโอกาสนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายในวงกว้างมากยิ่งขึ้น เกียได้มีการเพิ่มทางเลือกด้วยรุ่นเริ่มต้น เกีย คาร์นิวัล LX โดยมาพร้อมเครื่องยนต์สมาร์ทสตรีม ดีเซล เทอร์โบ ขนาด 2.2 ลิตร มาตรฐานยูโร 5 ให้กำลังสูงสุด 202 แรงม้าที่ 3,800 รอบต่อนาที พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ที่ยังคงให้สมรรถนะการขับขี่ที่โดดเด่น ดีไซน์ภายนอกและภายในที่ทันสมัย พร้อมด้วยระบบความปลอดภัยที่ครบครัน และมีรถพร้อมส่งมอบในทันทีสำหรับล็อตแรก”

สำหรับ เกีย คาร์นิวัล LX มาพร้อมการปรับฟีเจอร์ให้เหมาะสมและตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าในวงกว้างมากยิ่งขึ้น โดยจะยังคงสมรรถะการขับขี่ที่โดดเด่นของเกีย คาร์นิวัล ด้วยเครื่องยนต์สมาร์ทสตรีม ดีเซล เทอร์โบ ขนาด 2.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 202 แรงม้าที่ 3,800 รอบต่อนาที ระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ เบรกมือไฟฟ้าพร้อมด้วยระบบ Auto Brake Hold และโหมดการขับขี่ที่หลากหลายที่ช่วยเพิ่มความสนุกสนานและความสปอร์ตในการขับขี่ ดีไซน์ภายนอกมาพร้อมกับกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ไฟหน้าแบบ LED และ Daytime Running Right ผสานดีไซน์ภายในที่หรูหราและทันสมัยด้วยหน้าจอ Infotainment ขนาด 8 นิ้ว พร้อมระบบวิทยุที่สามารถเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนผ่าน Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย อีกทั้งยังมีห้องโดยสารภายในที่กว้างขวางด้วยที่นั่งจำนวน 11 ที่นั่งที่สามารถปรับพับเบาะได้หลากหลายรูปแบบ สะดวกสบายด้วยที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Wireless Charger) พร้อมที่ชาร์จ USB รอบคันจำนวน 6 จุด และกระจกมองข้างพับเก็บอัตโนมัติ ทั้งยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยครบครัน อาทิ ถุงลงนิรภัยและม่านถุงลมนิรภัยรอบคัน ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESC) ระบบรักษาความเร็วคงที่ (Cruise Control) พร้อมด้วยกล้องมองหลัง (Rear View Monitor) และเซ็นเซอร์การถอยจอดด้านหลัง

 “นอกจากกลยุทธ์การขยายฐานลูกค้าของเกียแล้ว อีกหนึ่งเป้าหมายหลักของเราในปี 2566 คือ การเร่งขยายโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการเกียมาตรฐานให้ครอบคลุมทั่วภูมิภาคมากยิ่งขึ้น รวมถึงเร่งปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของโชว์รูมและศูนย์บริการให้สอดคล้องกับภาพลักษณ์แบรนด์และโลโก้ใหม่ของของ เกีย ประเทศเกาหลีใต้ ภายใต้แนวคิด The Opposite United  โดยในปัจจุบันเรามีโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการ 18 แห่งทั่วประเทศ และมีแผนจะขยายเพิ่มเติมอีก 2 แห่งภายในปีนี้ ได้แก่ เชียงใหม่ และ พิษณุโลก ทั้งนี้ เกียยังได้เพิ่มช่องทางการต่อต่อสื่อสาร ‘Kia Connect’ ซึ่งเป็นระบบจองคิวนัดหมายรับบริการที่ศูนย์เกียทุกแห่งในประเทศไทย ผ่าน Line Official Account : Kia Thailand เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้กับลูกค้าในการรับบริการต่างๆ อาทิ การเช็กระยะ การแจ้งซ่อมทั่วไป การขอเคลมประกันภัย หรือเคลมวารันตี เป็นต้น  และยังเป็นช่องทางในการรับข้อมูลข่าวสารต่างๆ ของเกียอีกด้วย โดยระบบ ‘Kia Connect’ พร้อมให้บริการกับลูกค้าเกียทุกท่านแล้ววันนี้” นางสาวฬสนันท์ กล่าวเพิ่มเติม 

 

รุ่น LX ราคา 1,892,000 บาท (NEW 2023)

  • Tiger Nose ใหม่ ที่สอดรับกับไฟหน้า LED แบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ พร้อมไฟ Daytime-Running Light ดีไซน์ใหม่ที่เชื่อมกันอย่างลงตัว เสริมภาพลักษณ์สมาร์ทให้ครอบครัว
  • เครื่องยนต์ Smartstream Diesel 2.2 ให้กำลังสูงสุด 202 แรงม้า มาตรฐาน EURO 5 ขับสนุก เคลื่อนตัวเต็มสูบ ประสิทธิภาพเกินร้อย
  • เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ 
  • เบรกมือไฟฟ้าเมื่อถึงที่หมาย หรือจอดรถทิ้งระยะ
  • ระบบ Auto-Brake Hold ที่ช่วยเบรกชั่วคราวให้ ขับได้ง่ายขึ้นเยอะ
  • ม่านถุงลมนิรภัยรอบคัน ที่จะช่วยเสริมความปลอดภัย ให้อุ่นใจในยามฉุกเฉิน
  • รองรับการเชื่อมต่อ Apple Carplay และ Android Auto แบบไร้สาย ด้วยการทำงานบนแผงหน้าจอ Infotainment ขนาด 8 นิ้ว 

รุ่น EX (MY22): ราคา 2,234,000 บาท 

  • มาพร้อมโลโก้ Kia ใหม่
  • มีฟีเจอร์ที่เพิ่มเติมจากรุ่น EX เดิม ดังนี้
    • ระบบที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Wireless Charger)
    • ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ (Rain Sensor)

รุ่น SXL (MY22): ราคา 2,594,000 บาท 

  • มาพร้อมโลโก้ Kia ใหม่
  • มีฟีเจอร์ที่เพิ่มเติมจากรุ่น SXL เดิม ดังนี้
    • ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ (Rain Sensor)
    • หน้าจอแบบ Panoramic Display ที่มาพร้อมกับหน้าจอเรือนใหม่ดิจิตอล Digital Instrument Cluster ขนาด 12.3 นิ้ว
    • ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาบนหน้าจอ Blind-Spot View Monitor (BVM)

Advertisement

Advertisement

ใส่ความเห็น

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้