เปิดราคาเริ่ม 974,000 บาทในเกาหลีใต้ NEW KIA EV4 วิ่งได้ 382 – 533 กม./ชาร์จ

Kia เปิดรับคำสั่งซื้อ EV4 ในเกาหลีใต้แล้ว ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 41.92 ล้านวอน (ประมาณ 974,000 บาท) ก่อนทยอยวางจำหน่ายในตลาดโลก นอกจากนี้ EV4 ยังเป็นรถยนต์ไฟฟ้าจากกลุ่ม Hyundai Motor Group ที่มีระยะทางขับขี่ไกลที่สุด ด้วยระยะสูงสุดกว่า 533 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม
Kia EV4 เปิดจองในเกาหลีใต้ ราคาเริ่มต้นต่ำกว่า ล้านบาทในเกาหลีใต้
ตั้งแต่เปิดตัวในรูปแบบคอนเซ็ปต์เมื่อเดือนตุลาคม 2023 Kia EV4 กลายเป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่มีคนรอคอยมากที่สุด ล่าสุด Kia ได้เผยโฉมเวอร์ชันผลิตจริงในงาน Kia EV Day 2024 ซึ่งจัดแสดงทั้งหมด 4 รุ่นย่อย แบ่งเป็น ซีดาน 2 รุ่น และแฮทช์แบ็ก 2 รุ่น
EV4 เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ “EVs for all” ของ Kia ที่ต้องการให้รถยนต์ไฟฟ้าเข้าถึงคนหมู่มาก โดยมีช่วงราคาตั้งแต่ประมาณ $30,000 (1 ล้านบาท) จนถึง $80,000 (2.7 ล้านบาท) หลังจากที่ Kia เปิดตัว EV5 และ EV3 ซึ่งเป็น SUV แล้ว EV4 จะช่วยขยายตลาดไปสู่กลุ่มซีดาน
Kia เปิดให้จอง EV4 ในเกาหลีใต้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 41.92 ล้านวอน (ประมาณ 974,000 บาท) และหากรวมสิทธิประโยชน์จากรัฐบาลเกาหลี Kia คาดว่าราคาซื้อจริงจะอยู่ที่ 34 ล้านวอน (790,000 บาท)
EV4 มี 2 รุ่นหลัก: มาตรฐานและระยะไกล
- รุ่นมาตรฐาน ใช้แบตเตอรี่ขนาด 58.3 kWh วิ่งได้ไกลสุด 382 กม. ต่อการชาร์จเต็ม
- รุ่นระยะไกล (Long Range) ใช้แบตเตอรี่ขนาด 81.4 kWh วิ่งได้ไกลสุด 533 กม.
ราคาจำหน่าย Kia EV4 ในเกาหลีใต้
รุ่น | ราคา (วอน) | ราคา (บาท) โดยประมาณ |
---|---|---|
EV4 Standard Air | 41.92 ล้านวอน | 974,000 บาท |
EV4 Standard Earth | 46.69 ล้านวอน | 1,085,000 บาท |
EV4 Standard GT-Line | 47.83 ล้านวอน | 1,111,000 บาท |
EV4 Long Range Air | 46.29 ล้านวอน | 1,076,000 บาท |
EV4 Long Range Earth | 51.04 ล้านวอน | 1,186,000 บาท |
EV4 Long Range GT-Line | 51.04 ล้านวอน | 1,186,000 บาท |
ดีไซน์โฉบเฉี่ยวที่สุดของ Kia
EV4 เป็นรถที่ออกแบบให้มี ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำสุดที่ 0.23 ซึ่งช่วยให้วิ่งได้ไกลขึ้น ตัวรถมีดีไซน์ทรงสปอร์ต พร้อมสปอยเลอร์ท้าย ซึ่ง Kia เรียกมันว่า “ดีไซน์ซีดานสำหรับยุคไฟฟ้า”
ภายในห้องโดยสาร มาพร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์ ccNC ใหม่ล่าสุด ใช้หน้าจอคู่ขนาด 12.3 นิ้ว สำหรับมาตรวัดและระบบนำทาง และมีโหมดปรับการใช้งานห้องโดยสารใหม่ ที่ช่วยเพิ่มพื้นที่และเปลี่ยนบรรยากาศภายในได้ง่ายขึ้น
EV4 สามารถชาร์จเร็วเพียง 31 นาที
- ใช้หัวชาร์จ 350 kW
- ชาร์จจาก 10% – 80% ได้ภายใน 31 นาที สำหรับรุ่นระยะไกล
- รุ่นมาตรฐานใช้เวลา 29 นาที
Kia ตั้งเป้าขยายตลาด EV4 ไปยังสหรัฐฯ และยุโรปเร็วๆ นี้
Won-Jeong Jeong รองประธานและหัวหน้าฝ่ายธุรกิจในประเทศของ Kia กล่าวว่า EV4 จะเป็นรถที่พลิกโฉมตลาด EV ซีดานในเกาหลีใต้ ซึ่งที่ผ่านมาตลาดรถไฟฟ้าส่วนใหญ่มักอยู่ในกลุ่ม SUV
แต่คำถามคือ EV4 จะสามารถดึงดูดลูกค้าในตลาดสหรัฐฯ และยุโรปได้มากแค่ไหน? Kia เตรียมเปิดตัวในตลาดโลกภายในปีนี้
Kia EV4 – รถยนต์ไฟฟ้าซีดานและแฮทช์แบ็กรุ่นแรกของแบรนด์
Kia EV4 เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่มาในตัวถังซีดาน (4 ประตู) และแฮทช์แบ็ก (5 ประตู) โดยมุ่งเน้นการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการรถยนต์ที่สามารถใช้งานในเมืองและเดินทางระยะไกลได้อย่างสะดวกสบาย
ข้อมูลด้านเทคนิค
Kia EV4 มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่
-
มอเตอร์แบบ Standard Range
- กำลังสูงสุด: 150 kW (ประมาณ 201 แรงม้า)
- แรงบิดสูงสุด: 283 Nm
- ล้อขับเคลื่อน: ขับเคลื่อนล้อหน้า (2WD)
- Standard Range: 58.3 kWh 382 – 404 กม./ชาร์จ
- อัตราสิ้นเปลืองพลังงาน (kWh/km) 17 นิ้ว (Long Range): 5.8 km/kWh
-
มอเตอร์แบบ Long Range
- กำลังสูงสุด: 150 kW (ประมาณ 201 แรงม้า)
- แรงบิดสูงสุด: 283 Nm
- ล้อขับเคลื่อน: ขับเคลื่อนล้อหน้า (2WD)
- Long Range: 81.4 kWh 533 กม./ชาร์จ ล้อ 17 นิ้ว
- อัตราสิ้นเปลืองพลังงาน (kWh/km) 19 นิ้ว (Long Range): 5.5 km/kWh
Kia EV4 รองรับการชาร์จทั้ง แบบปกติ (AC) และชาร์จเร็ว (DC Fast Charging)
-
ชาร์จเร็ว DC (350 kW)
- ชาร์จจาก 10% → 80% ใช้เวลาเพียง 31 นาที
- เหมาะสำหรับสถานีชาร์จความเร็วสูง เช่น E-pit, Ionity, Tesla Supercharger (บางสถานี)
-
ชาร์จ AC (Wallbox 11 kW)
- ชาร์จเต็ม (0-100%) ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง
- ใช้ได้กับแท่นชาร์จที่บ้านหรือสถานีชาร์จทั่วไป
-
ระบบ Plug & Charge (PnC)
- รองรับระบบชาร์จอัตโนมัติที่สามารถเสียบปลั๊กแล้วชาร์จได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้แอปหรือบัตร
-
แบตเตอรี่มีระบบวิเคราะห์การใช้งาน
- ช่วยปรับรูปแบบการชาร์จเพื่อ ยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่
เทคโนโลยีเพิ่มเติมเกี่ยวกับแบตเตอรี่
✔ i-PEDAL 3.0
- ควบคุมอัตราเร่ง-เบรก-หยุดรถได้โดยใช้คันเร่งเดียว
- มีฟังก์ชัน จดจำค่าการตั้งค่า (Memory Function)
✔ Vehicle-to-Load (V2L)
- ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่รถเพื่อจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าภายนอก
- มีทั้ง V2L ภายในรถ (ปลั๊ก 220V ใต้เบาะหลัง) และ V2L ภายนอก
✔ ระบบปรับอุณหภูมิแบตเตอรี่อัจฉริยะ
- เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแบตเตอรี่ในสภาพอากาศร้อนและเย็น
การออกแบบภายนอก
ดีไซน์หน้าและไฟส่องสว่าง
- กระจังหน้า Tiger Face อันโดดเด่น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Kia พร้อมเส้นสายที่เฉียบคม
- ไฟหน้า Small Cube Projection LED ช่วยเพิ่มความสว่างและมิติให้กับตัวรถ
- Dynamic Welcome & Escort Light ระบบไฟต้อนรับที่ส่องสว่างเมื่อเข้าใกล้หรือออกจากรถ
- Intelligent Headlamp System (IFS) ระบบไฟหน้าอัจฉริยะที่ช่วยลดแสงแยงตาให้กับรถที่สวนทางมา
รูปทรงและโครงสร้างตัวถัง
- ตัวรถมีเส้นสายที่โฉบเฉี่ยวและลื่นไหล ช่วยลดแรงต้านอากาศ (Aerodynamic)
- Dual Roof Spoiler สปอยเลอร์คู่หลัง เพิ่มความสปอร์ตและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัว
- Wheel Arch Molding เสริมความแข็งแกร่งและสไตล์ SUV
ล้อและอุปกรณ์เสริมภายนอก
- มีขนาดล้อให้เลือก 17 นิ้ว และ 19 นิ้ว (รวมถึงรุ่นพิเศษ GT-Line)
- Auto Flush Door Handle มือจับประตูที่พับเก็บอัตโนมัติ เพิ่มความล้ำสมัยและลดแรงเสียดทานอากาศ
- Surround View Monitor ระบบกล้องรอบคันช่วยในการจอดรถได้อย่างแม่นยำ
สีตัวถังที่มีให้เลือก
- Snow White Pearl (SWP)
- Magma Red (OVR)
- Morning Haze (ACW)
- Ivory Silver (ISG)
- Shale Gray (EBD)
- Aurora Black Pearl (ABP)
- Yacht Matte Blue (ACY)
- Ivory Matte Silver (ISM)
การออกแบบภายในห้องโดยสาร ความสะดวกสบาย
ดีไซน์ภายในและวัสดุตกแต่ง
- แนวคิดการออกแบบมินิมอลและกว้างขวาง ทำให้ภายในห้องโดยสารรู้สึกโปร่งโล่ง
- ใช้วัสดุเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเน้นพื้นผิวสัมผัสที่พรีเมียม
- โทนสีภายในที่หรูหราและเลือกได้หลายแบบ
- Black Interior (Onyx Black & Human Gray)
- Gray Interior (Misty Gray & Nougat Brown)
- Brown Interior (Espresso Brown & Onyx Black)
- GT-Line Interior (Onyx Black & Off-White)
ระบบปรับแต่งบรรยากาศภายใน (Interior Mode)
- สามารถควบคุมแสงไฟ, อุณหภูมิ และองศาของเบาะที่นั่งได้ง่ายผ่านปุ่มเดียว
- เหมาะสำหรับการพักผ่อนหรือชมภาพยนตร์ระหว่างรอ
ที่นั่ง และพื้นที่จัดเก็บสัมภาระ
- Relaxation Comfort Seat เบาะนั่งปรับเอนอัตโนมัติ รองรับสรีระได้ดีเยี่ยม
- เบาะผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าแบบ Zero Gravity ช่วยลดแรงกดทับและให้ความสบายสูงสุด
- Sliding Console Table & Rotating Armrest คอนโซลกลางแบบเลื่อนและที่พักแขนหมุนได้
- Rear Seat V2L Outlet มีปลั๊ก 220V ใต้เบาะหลังสำหรับชาร์จอุปกรณ์ไฟฟ้า
เทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบาย
- จอแสดงผลดิจิทัล (Digital Cluster): 12.3 นิ้ว
- หน้าจออินโฟเทนเมนต์ (Infotainment Display): 12.3 นิ้ว
- รวมขนาดหน้าจอทั้งหมด: ประมาณ 24.6 นิ้ว (เมื่อนำสองจอมาต่อกันแบบพาโนรามา)
- Kia AI Assistant ช่วยควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ด้วยคำสั่งเสียง
- Steering Wheel Grip Sensor ตรวจจับแรงจับของมือบนพวงมาลัยเพื่อเพิ่มความปลอดภัย
- Wireless Smartphone Charging รองรับการชาร์จไร้สายสำหรับสมาร์ทโฟน
- 100W USB Type-C Charging รองรับการชาร์จเร็วของอุปกรณ์พกพา
ระบบเสียงและความบันเทิง
- Harman Kardon Premium Sound System ให้คุณภาพเสียงระดับพรีเมียม
- ลำโพง 9 ตัว พร้อมซับวูฟเฟอร์ ให้พลังเสียงที่หนักแน่น
- ระบบ Clari-Fi Sound Processing ช่วยเพิ่มคุณภาพเสียงจากไฟล์บีบอัด เช่น MP3
- ระบบเสียงรอบทิศทาง Surround Sound Effect ทำให้เสียงกระจายได้สมจริงมากขึ้น
- ออกแบบมาเพื่อให้เสียงที่คมชัดทั้ง เสียงเบส กลาง และแหลม
- Customizable Display Theme สามารถตั้งค่าธีมหน้าจอเป็นโลโก้และสีของทีมโปรดใน KBO และ NBA
ฟังก์ชันเสริมเพิ่มความสะดวก
- Remote Smart Parking Assist ควบคุมการจอดจากภายนอกรถผ่านรีโมท
- Digital Key 2 ใช้สมาร์ทโฟนแทนกุญแจรถ
- Kia Connect App ควบคุมรถผ่านแอป เช่น สั่งเปิดแอร์, ตรวจสอบแบตเตอรี่ หรืออัปเดตซอฟต์แวร์จากระยะไกล
ระบบแสงสว่างภายใน (Dynamic Ambient Light)
- มีการออกแบบไฟภายในให้สามารถปรับเปลี่ยนสีและเอฟเฟกต์ต่างๆ ได้
- เพิ่มอารมณ์ความรู้สึกและความหรูหราให้กับห้องโดยสาร
ระบบความปลอดภัย
ระบบช่วยขับขี่และป้องกันอุบัติเหตุ (Driver Assistance & Collision Prevention System)
- Highway Driving Assist 2 (HDA 2) – ระบบช่วยขับขี่บนทางหลวง 2
- Forward Collision Avoidance Assist (FCA) – ระบบช่วยป้องกันการชนด้านหน้า
- Lane Keeping Assist (LKA) – ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน
- Lane Following Assist (LFA) – ระบบช่วยติดตามเลน
- Blind Spot Collision Avoidance Assist (BCA) – ระบบเตือนจุดอับสายตาและช่วยเบรก
- Rear Cross-Traffic Collision Avoidance Assist (RCCA) – ระบบเตือนและช่วยเบรกขณะถอยหลัง
- Intelligent Speed Limit Assist (ISLA) – ระบบช่วยปรับความเร็วอัตโนมัติ
ระบบช่วยจอดและควบคุมรถระยะไกล (Parking & Remote Control System)
- Remote Smart Parking Assist (RSPA) – ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ
- Surround View Monitor (SVM) – กล้องรอบทิศทาง 360°
- Reverse Parking Collision-Avoidance Assist (PCA-R) – ระบบช่วยป้องกันการชนขณะถอยจอด
- Safe Exit Assist (SEA) – ระบบเตือนการเปิดประตูเมื่อมีรถสวนมา
ระบบความปลอดภัยเชิงโครงสร้างและถุงลมนิรภัย (Structural Safety & Airbags)
- High-Strength Steel Frame – โครงสร้างตัวถังเหล็กกล้าความแข็งแรงสูง
- 9 Airbags – ถุงลมนิรภัย 9 จุด
- Electronic Stability Control (ESC) – ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่
- Hill Start Assist Control (HAC) – ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน
- Vehicle Stability Management (VSM) – ระบบจัดการเสถียรภาพของรถ
- Anti-Lock Braking System (ABS) – ระบบป้องกันล้อล็อก
- Battery Safety Certification – ระบบรับรองความปลอดภัยของแบตเตอรี่
ระบบช่วยเตือนและป้องกันอุบัติเหตุ (Warning & Preventive Safety System)
- Driver Attention Warning (DAW) – ระบบเตือนความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่
- Intelligent Front View Camera – กล้องตรวจจับพฤติกรรมผู้ขับขี่
- Emergency Stop Signal (ESS) – ระบบไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ
- Rear Occupant Alert (ROA) – ระบบเตือนผู้โดยสารด้านหลัง
เทคโนโลยีช่วยการขับขี่ของ Kia EV4 (Driving Assistance Technologies)
- ระบบช่วยขับขี่บนทางหลวง (Highway Driving Assist 2 – HDA 2)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Smart Cruise Control – SCC)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (Lane Keeping Assist – LKA & Lane Following Assist – LFA)
- ระบบช่วยเตือนและป้องกันการชนด้านหน้า (Forward Collision-Avoidance Assist – FCA)
- ระบบช่วยเตือนและป้องกันการชนขณะเปลี่ยนเลน (Blind Spot Collision-Avoidance Assist – BCA)
- ระบบช่วยจอดและควบคุมรถจากระยะไกล (Remote Smart Parking Assist – RSPA)
- ระบบช่วยเตือนและป้องกันการชนขณะถอยหลัง (Rear Cross-Traffic Collision Avoidance Assist – RCCA)
- ระบบช่วยปรับไฟสูงอัจฉริยะ (Intelligent Headlamp System – IFS)
- ระบบช่วยเตือนผู้ขับขี่ (Driver Attention Warning – DAW)
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist Control – HAC)
- ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (Vehicle Stability Management – VSM & Electronic Stability Control – ESC)
- ระบบเบรกอัตโนมัติฉุกเฉิน (Emergency Stop Signal – ESS)