NIO เปิดตัวสมาร์ทโฟนครั้งแรก ราคา 32,000 บาท พร้อมวางขาย 50,000 เครื่องในจีน
เมื่อวันที่ 21 กันยายน งาน “NIO IN 2023 NIO Innovation and Technology Day” จัดขึ้นที่เซี่ยงไฮ้ NIO นำเสนอรูปแบบนวัตกรรมทางเทคโนโลยีอย่างเต็มรูปแบบในทุกสาขา – “NIO Full Stack” และเปิดตัวผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีใหม่ – NIO Phone
- รายงานเผย Nio phone วางจำหน่ายเครื่องแรกเพียง 50,000 เครื่อง
ข้อมูลเบื้องต้นของ สมาร์ทโฟน NIO
- อุปกรณ์ใช้หน้าจอโค้ง 6.81 นิ้วของ Samsung หน้าจอมีความละเอียด 3,088*1,440 พร้อมความสว่างสูงสุด 1,750 nits และรองรับอัตราการรีเฟรชแบบปรับได้ที่ 1-120 Hz
- ชิปพลังจาก Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 Soc
- มี RAM สูงสุด 8GB / 12GB / 16 GB
- CPU 8-core ประกอบด้วยคอร์ขนาดใหญ่พิเศษ 1 X3 + คอร์ขนาดใหญ่ A715 2 คอร์ + คอร์ขนาดใหญ่ A710 2 คอร์ + คอร์ขนาดเล็ก A510 3 คอร์ GPU คือ Andreno 740 เมื่อเทียบกับรุ่นมาตรฐาน รุ่นชั้นนำจะเพิ่มความถี่คอร์ขนาดใหญ่พิเศษจาก 3.2GHz เป็น 3.36GHz และความถี่ GPU จาก 680MHz เป็น 719MHz
- พื้นที่เก็บข้อมูล 256G, 512G และ 1TB
- พร้อมกล้อง 3 ตัว กล้องหลัก เลนส์มุมกว้างพิเศษ และเลนส์เทเลโฟโต้ปริทรรศน์ล้วนมีความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ส่วนหลัก พื้นที่เซ็นเซอร์ของกล้องคือ 1/1.28 นิ้ว เลนส์มุมกว้างและเทเลโฟโต้ใช้เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.56 นิ้ว และกล้องทั้งสามตัวสามารถใช้เป็นกล้องหลักได้
- แบตเตอรี่ 5,200 mAh
- รองรับการชาร์จเร็วแบบมีสาย 66 W
- การชาร์จเร็วไร้สาย 50 W
- การชาร์จแบบย้อนกลับ 10 W
- โทรศัพท์ Nio เริ่มต้นที่ 6,499 หยวน หรือประมาณ 32,100 บาท
เมื่อกลางปีที่แล้ว William Li ซีอีโอกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ Sina ซึ่งเป็นสำนักของจีนที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ เขาระบุว่า ลูกค้าต้องการโทรศัพท์ ในการเชื่อมต่อรถยนต์ NIO อย่างรวดเร็ว และ มีคุณภาพ William Li กล่าวว่า เห็นชัดการผลิตโทรศัพท์ อาจไม่ทำเงินให้กับ NIO หรือแข่งขันโดยตรงกับผู้ผลิตโทรศัพท์แบบดั้งเดิม แต่สิ่งนี้จะช่วยให้ลูกค้า ขยายการทำงานได้ดีขึ้น เมื่อใช้งานโทรศัพท์ของผู้ผลิตรถยนต์
“การผลิตโทรศัพท์เป็นเรื่องง่าย แต่การสร้างโทรศัพท์ที่ดีเป็นสิ่งที่ท้าทาย” เห็นว่า Nio พัฒนาระบบนิเวศของผลิตภัณฑ์และบริการที่คล้ายกับ Apple ซึ่งเขามองว่าเป็นคู่แข่งในอนาคต
Nio ปัจจุบันจำหน่ายในเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า และ กำลังขยายไปยังโครงสร้างพื้นฐาน สถานีสลับเปลี่ยนแบตเตอรี่ ทั้งในประเทศจีน ยุโรป แม้ว่าบริษัทจะดูเหมือนยกเลิกแผนการขายรถยนต์ในสหรัฐอเมริกา
แน่นอนว่า Apple Car ที่มีข่าวลือมายาวนาน เกี่ยวกับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งๆที่พวกเขามีความถนัดในเรื่องของสมาร์ทโฟน นาฬิกา แท็บเล็ต และแล็ปท็อป
ไม่ใช่ทุกแบรนด์จะทำรถยนต์ และ สมาร์ทโฟนไปพร้อมๆกัน แล้วจะประสบความสำคัญ ตัวอย่างบริษัท ซัมซุง เริ่มแผนกรถยนต์ของต้นในปี 1990 และสุดท้ายก็ขายให้กับ เรโนลต์
ไม่นานมานี้ Sony ได้เข้าสู่ธุรกิจ EV โดยให้ทาง Honda ในการพัฒนา ดังนั้นบางทีผู้ผลิตรถยนต์ที่เข้าสู่ธุรกิจสมาร์ทโฟนอาจไม่ใช่แนวคิดที่คิดไกลเกินเอื้อมเช่นกัน โดยเฉพาะหากนำมาใช้กับรถยนต์ของตนเอง