มีโอกาศขายไทยไหม ? NISSAN Magnite facelift 1.0 Turbo 99 แรงม้า CVT ทดแทน NISSAN MARCH
เนื่องจากมีคำถามมากมายเกี่ยวกับการเปิดตัว Nissan Magnite facelift ในประเทศไทยหรือไม่? ในอนาคตซึ่งยังไม่แน่นอน แต่เราก็ตัดไม่ได้ว่ารุ่นนี้จะไม่ขายไทยในอนาคต (เป็นการคาดเดา)
ก่อนหน้านี้วันที่ 3 สิงหาคม 2024 ประธานนิสสันคนใหม่ “โทชิฮิโระ ฟูจิกิ” ประเทศไทย ระบุว่าเตรียมลงทุนในไทยเพิ่ม 3,000 ล้านบาท พร้อมเปิดตัวรถใหม่ 3-5 ปีข้างหน้า และ ยังจะนำเข้ารถยนต์ ไฟฟ้า นอกจากนี้ยังจะมีรถยนต์ที่ไม่ใช่ e-POWER เข้ามาอีก
รถใหม่นำเข้าหรือประกอบในประเทศ ทั้งสองอย่างจะผสมผสานกับ พร้อมยืนยันว่า e-POWER จะเป็นผลิตภัณฑ์หลักของแบรนด์ แต่จะไม่จำกัดเฉพาะ e-POWER เท่านั้น (มีลุ้น Nissan Magnite facelift ซึ่งสามารถเอามาจำหน่ายทดแทน Nissan March ที่เลิกผลิตได้)
ขนาดตัวถัง Magnite
- ยาว 3,994 มม.
- กว้าง 1,758 มม.
- สูง 1,572 มม.
- ฐานล้อ 2,500 มม.
- ระยะห่างพื้น 205 มม.
ขนาดตัวถัง March
- ยาว 3,780 มม.
- กว้าง 1,665 มม.
- สูง 1,515 มม.
- ฐานล้อ 2,450 มม.
- ระยะห่างพื้น 141 มม.
นอกจากนี้ระหว่างการเปิดตัว Nissan Magnite facelift ที่ประเทศอินเดียเมื่อ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา นายแฟรงค์ ทอร์เรส รองประธานฝ่ายการเปลี่ยนแปลงธุรกิจประจำภูมิภาค AMIEO และประธานฝ่ายปฏิบัติการ Nissan India ระบุว่า การเปิดตัว Nissan Magnite ใหม่ถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายตลาดส่งออกของแบรนด์ ความต้องการและความนิยมอย่างต่อเนื่องของ Magnite รุ่น “Made in India” ในตลาดต่างประเทศทำให้บริษัทสามารถขยายฐานการส่งออกไปยังตลาดใหม่ 47 แห่ง ทำให้ฐานการส่งออกทั้งหมดครอบคลุมตลาดต่างประเทศกว่า 65 แห่ง ซึ่งปัจจุบันรวมถึงตลาดรถพวงมาลัยซ้ายด้วย
ด้วยการพัฒนาครั้งใหม่นี้ ทำให้ปัจจุบันตลาดส่งออกของ Nissan มีมากกว่า 65 ประเทศนายแฟรงค์ ทอร์เรส รองประธานฝ่ายการเปลี่ยนแปลงธุรกิจประจำภูมิภาค AMIEO และประธานฝ่ายปฏิบัติการ Nissan Indiaกล่าวในการเปิดตัวว่า“อินเดียมีบทบาทสำคัญในกลยุทธ์ระดับโลกของเรา และเรายินดีที่ได้เปิดตัว Magnite จากโรงงานในเมืองเจนไนไปยังตลาดอื่นๆ ทั่วโลก ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างเป้าหมายการส่งออกของเราเท่านั้น แต่ยังตอกย้ำปรัชญาที่เน้นลูกค้าเป็นอันดับแรกของเราอีกด้วย ความสำเร็จของ Nissan Magnite นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2020 ทั้งในอินเดียและตลาดต่างประเทศ สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าที่ยั่งยืนของปรัชญา ‘One Car, One World’ ของเรา”
ปัจจุบัน Nissan Magnite รุ่นใหญ่ โดดเด่น และสวยงามนี้ส่งออกไปยังตลาดทั่วโลกมากกว่า 17 แห่ง โดยล่าสุดได้เปิดตัวในเซเชลส์ บังกลาเทศ ยูกันดา และบรูไน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Nissan Motor India มุ่งเน้นการส่งออกไปยังประเทศในตะวันออกกลาง เช่น ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โอมาน กาตาร์ บาห์เรน และคูเวต นอกจากนี้ยังมีในอินโดนีเซีย
- รถยนต์รุ่นนี้ถูกส่งออกไปยัง ตลาดเกิดใหม่ ประเภทพวงมาลัยขวา หลาย แห่งทั่วโลก ได้แก่ อินโดนีเซีย แอฟริกาใต้ เนปาล ภูฏาน บังกลาเทศ ศรีลังกา บรูไน ยูกันดา เคนยา เซเชลส์ โมซัมบิก แซมเบีย มอริเชียส แทนซาเนีย และมาลาวี
วันที่ 4 ตุลาคม 2024 นิสสัส ประเทศอินเดีย ประกาศเปิดตัว Nissan Magnite facelift มีให้เลือกทั้งหมด 6 รุ่นย่อยราคาจำหน่าย 599,400 – 910,000 รูปีย์อินเดีย หรือประมาณ 235,000 – 358,000 บาท
- Nissan Magnite ใหม่ ผสานความโดดเด่นบนท้องถนนเข้ากับดีไซน์ภายนอกและภายในระดับพรีเมียมที่ได้รับการออกแบบใหม่ และคุณสมบัติที่เหนือชั้นกว่า 20 รายการในอินเดีย
- New Magnite ซึ่งผลิตที่โรงงาน Alliance ในเมืองเจนไน จะส่งออกไปยังตลาดมากกว่า 65 แห่งทั่วโลก ส่งผลให้อินเดียกลายเป็นศูนย์กลางการส่งออกหลักของ Nissan
- Magnite ใหม่ดึงดูดความสนใจด้วยกระจังหน้าแบบ “Honeycomb” ที่ใหญ่และโดดเด่นยิ่งขึ้น ระยะห่างจากพื้นที่สูงขึ้นทำให้รถดูโดดเด่น ขณะที่การออกแบบภายในดูหรูหราขึ้นด้วยการตกแต่งแบบหนังเทียมที่คมชัด
- คุณสมบัติทางเทคโนโลยีขั้นสูงได้รับการผสานรวมไว้ทั่วทั้ง New Magnite ซึ่งรวมถึงการสตาร์ทเครื่องยนต์ระยะไกล, ระบบตรวจสอบรอบทิศทาง Nissan (AVM) และระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสแบบลอยตัวพร้อม Android Auto และ Apple CarPlay
- Nissan Magnite ใหม่ได้รับการออกแบบมาให้ตรงตามมาตรฐานระดับโลก มอบความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นด้วยโครงสร้างตัวถังที่เสริมความแข็งแกร่ง ฟีเจอร์ความปลอดภัยมาตรฐานมากกว่า 40 รายการ รวมถึงถุงลมนิรภัย 6 ใบ ระบบควบคุมเสถียรภาพอิเล็กทรอนิกส์ ระบบควบคุมการลื่นไถล และระบบช่วยเบรกไฮดรอลิก
- มีให้เลือก 18 รุ่นใน 4 ระบบส่งกำลัง: 1.0 ลิตร เบนซิน เกียร์ธรรมดา และ EZ-Shift และ 1.0 ลิตร เบนซิน เกียร์ธรรมดา และ CVT
1.0L Petrol MT
- Visia – Rs 5,99,400
- Visia+ – Rs 6,49,400
- Acenta – Rs 7,14,000
- N-Connecta – Rs 7,86,000
- Tekna – Rs 8,75,000
- Tekna+ – Rs 9,10,000
1.0L Petrol AMT
- Visia – Rs 6,59,900
- Acenta – Rs 7,64,000
- N-Connecta – Rs 8,36,000
- Tekna – Rs 9,25,000
- Tekna+ – Rs 9,60,000
1.0L Turbo Petrol MT
- N-Connecta – Rs 9,19,000
- Tekna – Rs 9,99,000
- Tekna+ – Rs 10,35,000
1.0L Turbo Petrol CVT
- Acenta – Rs 9,79,000
- N-Connecta – Rs 10,34,000
- Tekna – Rs 11,14,000
- Tekna+ – Rs 11,50,000
การเปิดตัว Nissan Magnite ใหม่ถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายตลาดส่งออกของแบรนด์ ความต้องการและความนิยมอย่างต่อเนื่องของ Magnite รุ่น “Made in India” ในตลาดต่างประเทศทำให้บริษัทสามารถขยายฐานการส่งออกไปยังตลาดใหม่ 47 แห่ง ทำให้ฐานการส่งออกทั้งหมดครอบคลุมตลาดต่างประเทศกว่า 65 แห่ง ซึ่งปัจจุบันรวมถึงตลาดรถพวงมาลัยซ้ายด้วย
Nissan Magnite ใหม่นี้ได้รับการพัฒนาต่อยอดจากความสำเร็จครั้งก่อน โดยเป็นรถที่มีรูปลักษณ์ภายนอกที่แข็งแกร่ง ดุดัน ซึ่งทำให้รถดูโดดเด่นบนท้องถนน Magnite พร้อมไฟหน้า LED ไฟเลี้ยวแบบดาบเลเซอร์ ไฟท้าย LED ที่ดีที่สุดในรุ่นพร้อมลาย “รังผึ้ง” แบบไล่เฉดสี 3 มิติ และไฟวิ่งกลางวัน (DRL) ทรงตัว L อันเป็นเอกลักษณ์ของ Magnite
นอกจากนี้ รุ่นใหม่นี้ยังมีแผ่นกันกระแทกแบบยกลอยที่ด้านหน้า กระจังหน้าใหม่ที่ใหญ่และโดดเด่นกว่ารุ่นก่อน ล้ออัลลอยด์ R16 Diamond Cut แบบทูโทนใหม่หมด ราวหลังคาที่ใช้งานได้จริง (รับน้ำหนักได้ 50 กก.) และระยะห่างจากพื้นที่ดีที่สุดในกลุ่ม 205 มม. ส่งผลให้การออกแบบมีความโดดเด่นแตกต่าง
เพื่อรองรับทุกความชอบและความต้องการของลูกค้า Nissan Magnite ใหม่มีสีตัวถังให้เลือก 11 สี มีสีโทนเดียว 6 สีและสีทูโทน 5 สี ซึ่งทั้งหมดได้รับการออกแบบและประดิษฐ์อย่างเชี่ยวชาญเพื่อให้เหมาะกับรสนิยมของลูกค้า และเพื่อให้แน่ใจว่ารถยนต์ของพวกเขามีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างแท้จริง
ขนาดตัวถัง
- ยาว 3,994 มม.
- กว้าง 1,758 มม.
- สูง 1,572 มม.
- ฐานล้อ 2,500 มม.
- ระยะห่างพื้น 205 มม.
- ภายในรองรับ 5 ที่นั่ง
- ความจุสัมภาระท้าย 336 ลิตร พับเบาะหลัง 540 ลิตร
- ขนาดถังน้ำมัน 40 ลิตร
ภายใน Magnite facelift มาพร้อมกับสีทูโทนทองแดงและสีดำ พวงมาลัย 3 ก้านตกแต่งด้วยแถบสีดำ ส่วนเบาะนั่งหุ้มด้วยผ้าทูโทน ระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว จับคู่กับระบบเสียง Arkamys 6 ลำโพง แผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติพร้อมช่องระบายอากาศด้านหลัง เครื่องชาร์จไร้สาย I-Key ใหม่ และกล้อง 360 องศา นอกจากนี้ SUV ขนาดกะทัดรัดยังมาพร้อมกับไฟหน้าอัตโนมัติ IRVM แบบหรี่แสงอัตโนมัติ และพอร์ตชาร์จ USB Type-C
อุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งขณะนี้มีให้เลือกติดตั้งแบบ STANDAD ในทุกรุ่น
- Nissan Magnite ใหม่จึงได้พัฒนาระบบความปลอดภัยให้เหนือชั้นยิ่งขึ้นด้วยคุณสมบัติมาตรฐานด้านความปลอดภัยและแอคทีฟมากกว่า 40 รายการ และระบบความปลอดภัยทั้งหมดมากกว่า 55 รายการ ซึ่งได้แก่
- ถุงลมนิรภัย 6 ใบ (ถุงลมนิรภัยด้านหน้า 2 ใบ/ถุงลมนิรภัยด้านข้าง 2 ใบ/ถุงลมนิรภัยด้านข้าง 2 ใบ)
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (VDC)
- ระบบควบคุมการลื่นไถล (TCS)
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HAS)
- ระบบช่วยเบรกไฮดรอลิก (HBA)
- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS)
- ระบบกระจายแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์ (EBD)
- ระบบตรวจสอบความดันลมยาง (TPMS)
- นเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุดสำหรับทุกที่นั่ง
- ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยสำหรับทุกที่นั่ง
- ระบบล็อกเด็ก จุดยึดเบาะเด็ก ISOFIX
- เซ็นเซอร์ที่จอดด้านหลัง
- ชุดความปลอดภัยที่ครอบคลุมนี้ได้รับการเสริมด้วยโครงสร้างตัวถังที่ได้รับการปรับปรุงใหม่โดยใช้เหล็กกล้าที่มีความต้านแรงดึงสูงขั้นสูง 67%
เครื่องยนต์ให้เลือก 2 แบบได้แก่
- เครื่องยนต์เบนซิน 1.0 ลิตร ให้กำลัง 71 แรงม้า แรงบิด 96 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และ เกียร์อัตโนมัติ AMT 5 สปีด
- ะเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.0 ลิตร ให้กำลัง 99 แรงม้า แรงบิด 160 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และ เกียร์อัตโนมัติ CVT