Nissan-Renault-Mitsubishi จับมือแน่น รัดเข็มขัด ลดการลงทุนทุกรูปบบ 40%
- Renault-Nissan-Mitsubishi จุดแข็งที่ร่วมกันคือ พวกเขาสามารถลดต้นทุนในการพัฒนาและการผลิต ด้วยการใช้แพล็ตฟอร์มร่วมกัน และเทคโนโลยีร่วมกันได้ แต่หากมาลดต้นทุก และงานวิจัยเพิ่มอีก ลำบากมากกว่าเดิม ความเป็นพันธมิตรจะโดนท้าทายอย่างมาก พันธมิตรต้องคิดมากกว่าเดิมอีกมากจริงๆ
- การลดต้นทุนทุกรูปแบบจะทำให้บริษัทประหยัดงบได้ถึง 40% แสดงให้เห็นว่าพวกเขารัดเข็มขัดอย่างมาก ใช้สิ่งที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ท่ามกลางสถานการณ์ COVID-19 ทำให้ค่ายรถยนต์หลายค่ายมียอดขายที่ตกลงทั่วโลก แน่ 3 พันธมิตร เป็นข่าวมากที่สุดในช่วงที่ผ่านมา ด้วยสภาพการเงินแต่ละค่ายไม่ค่อยจะสู้ดีนัก ล่าสุดทาง Nissan-Renault-Mitsubishi เผยขั้นตอนการลดต้นทุน และ ความสัมพันธ์ระหว่างพันธมิตรที่แน่นมากขึ้น
เรโนลต์ SA และหุ้นส่วนญี่ปุ่น บริษัท นิสสันมอเตอร์ และ มิตซูบิชิมอเตอร์สคอร์ป วันพุธที่ 27 พฤษภาคม 2020 เปิดเผยขั้นตอนในการสร้างมาตรฐาน เพิ่มเติมและผลักดันให้มีการจัดซื้อร่วมกันมากขึ้น เพื่อลดต้นทุนโดยแต่ละบริษัท จะให้ความสำคัญกับจุดแข็งของตัวเอง
มาตรการดังกล่าว จะสามารถลดต้นทุนทุกรูปแบบสำหรับรถยนต์ที่พัฒนาร่วมกัน และทำให้ประหยัดงบประมาณได้ถึง 40%
Nissan จะมุ่งเน้นไปที่การขับแบบอิสระ Renault จะเน้นรถยนต์ไฟฟ้าระบบส่งกำลังไฟฟ้า Mitsubishi จะเน้นระบบปลั๊กอินไฮบริด
Nissan-Renault-Mitsubishi ต้องพึ่งพากันมากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะช่วงไวรัส COVID-19 ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกต้องประสบปัญหายอดขายตก โรงงานปิด โชว์รูมปิด รวมถึงเมื่อปัญหาไวรัสเบาบางลง ต้องมาเจอปัญหาความต้องการที่ลดลง
Jean-Dominique Senard ประธานคณะกรรมการปฏิบัติการพันธมิตรและเรโนลต์กล่าวในการแถลงข่าวออนไลน์ โมเดลการร่วมมือใหม่ จะมุ่งเน้นไปที่ประสิทธิภาพ และความสามารถในการแข่งขันมากกว่าในเชิงปริมาณ
Nissan จะมุ้งเน้นไปที่ตลาดจีน และญี่ปุ่น ขณะที่ Renault จะมุ่งเน้นที่ตลาดยุโรป อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ แอฟริกาเหนือ Mitsubishi ยังคงแข็งแกร่งในตลาดภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
การกำหนดผู้นำในกลุ่มพันธมิตรที่เต็มไปด้วยปัญหาในอดีต การต่อสู้แย่งชิงอำนาจระหว่างทีมวิศวกรฝรั่งเศสและญี่ปุ่น เป้าหมายคือมีรถยนต์ครึ่งหนึ่งในพันธมิตรที่ผลิตภายใต้โมเดลปฏิบัติการใหม่พวกเขา ทำให้สภาพของพันธมิตรหมดความแข็งแกร่ง และดูอ่อนด้อยไปอย่างมาก ซึ่งล้วนมาจากปัญหาภายใน
นิสสันมีกำหนดจะประกาศแผนการปรับโครงสร้างของตัวเองในวันพฤหัสบดีที่จะลดค่าใช้จ่ายลง¥ 300 พันล้านเหรียญ (2.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ) ประมาณ 89,200 ล้านบาท และยกเลิกแบรนด์ Datsun
Nissan คาดว่าจะมีการขาดทุนในรอบปีบัญชีล่าสุดจนถึงเดือนมีนาคมปี 2564 บริษัท ในโยโกฮาม่ายังวางแผนที่จะปิดสายการผลิตหนึ่งสาย และพึ่งเปิดสายผลิตในอินโดนีเซีย เพื่อให้บรรลุการลดค่าใช้จ่ายในปีนี้ รวมถึงลดการตลาดการวิจัยและต้นทุนอื่น ๆ
แม้ว่านิสสันคาดการณ์ว่ายอดขายจะลดลง 12% หรือ 10.2 ล้านล้านเยน ประมาณ 3 ล้านล้านบาท สำหรับปีงบการเงินที่เพิ่งสิ้นสุดลง แต่แผนระยะกลางฉบับใหม่เรียกร้องให้กลับมามีรายรับ 11.5 ล้านล้านเยน ประมาณ 3.4 ล้านล้านบาท ภายใน 3 ปี