Nissan Teana เลิกขายไทยอย่างเป็นทางการ
หลังจากมีการเอาชื่อ Nissan x trail และ Teana ออกจากเว็บ Nissan.co.th แสดงว่านิสสัน เลิกผลิตทั้งสองรุ่นอย่างเป็นทางการในไทยโดยปริยาย
ล่าสุดนิสสัน ประเทศไทย ประกาศชัดเจน ต่อตัวแทนจำหน่าย ยกเลิกการวางจำหน่ายรถยนต์ 3 รุ่น ได้แก่ Nissan Sylphy , Teana และ X-Trail พร้อมดูแลลูกค้าต่อไป
แล้วทำไมต้องยกเลิกจำหน่าย จากการคาดเดา Nissan Teana รถยนต์นั่งขนาดกลางที่พร้อมจะอำลานิสสัน ประเทศไทยทุกที รุ่นนี้ไม่แปลกใจที่ไปต่อบ้านเราไม่ได้ เพราะตลาดรถยนต์ซีดานหดตัวทุกปี ขนาด Nissan sylphy รุ่นน้องที่มีข่าวจะเปิดตัว ไปๆมาๆ ยังไม่เปิดตัวและยกเลิกการเปิดตัวไปที่สุด ล่าสุดยุติการจำหน่ายเช่นกัน
นิสสัน เทียน่า เป็นรถยนต์นั่งขนาดกลางของบริษัทนิสสัน เริ่มมีการผลิตครั้งแรกในปี พ.ศ. 2546 ปัจจุบันบ้านเราคือเจนที่ 3 สำหรับเจนที่ 4 ผลิตในชื่อ Nissan Altima รหัสตัวถัง L34 ขายในต่างประเทศยกเว้นไทย
แต่น่าเสียดายที่ นิสสัน ประเทศไทย ยกเลิกจำหน่ายรถยนต์ซีดานทั้งหมด รวมถึง เทียน่า เพราะแผนใหม่ที่รัดกุม ควบคุมรายจ่าย ทำให้นิสสัน ต้องยอมตัดใจ
Nissan Altima
Nissan Altima เปิดตัวในงาน 2018 กวางโจม มอเตอร์โชว์ การออกแบบภายนอกไม่ได้แตกต่างเวอร์ชั่นสหรัฐอเมริกามาก แต่เป็นครั้งแรกที่ Altima ใหม่มารุกตลาดเอเชีย และสำหรับเมืองจีน Altima จะมาแทนชื่อ Teana พร้อมการออกแบบ V-Motion2.0 ติดตั้ง ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัตโนมัติ ProPILOT L2 “ICC Intelligent Adaptive Cruise, LKA Lane Keeping Assist System, TJP Traffic Congestion Assist System”
ราคา Altima ในรุ่นท๊อป 2.0T XV AD1 ราคา 179,800 – 269,800 หยวน หรือประมาณ 824,000 – 1,157,000 บาทยังไม่รวมภาษีบ้านเรา
Nissan Altima |
ความยาว×กว้าง×สูง 4901 × 1850 × 1447 มม. |
ระยะฐานล้อ 2825 มม. |
Nissan Altima |
เครื่องยนต์ รหัส KR20 Dual C-VTC 2.0 ลิตรเป็นเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ แบบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร 1,997 ซีซี. |
ให้กำลัง 185 แรงม้าที่ 5600 รอบต่อนาที |
แรงบิต 380 นิวตัน-เมตรที่ 4000 รอบต่อนาที |
เกียร์อัตโนมัติ XTRONIC CVT 8 สปีต |
อัตราสิ้นเปลืองประมาณ 14.9 กม./ลิตร |
All NEW Nissan Teana/Altima เวอร์ชั่นจีนไม่ได้แตกต่างจากเวอร์ชั่น USA เลยตั้งแต่หน้าจรดท้าย จึงไม่น่าแปลกใจอะไรมาก แต่ที่น่าสนใจคือเป็นการนำเวอร์ชั่นมะกันมาจำหน่ายในเอเชีย และแน่นอนว่าอนาคตจะมีการเปิดตัวหลายรุ่นตามมา
ภายในห้องโดยสารได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างมากเช่นกัน ด้วยแนวคิดการออกแบบสปอร์ตผสานความหรูหรา ด้วยวัสดุคุณภาพ ภายในสีเบจ ประดับลายไม้ชวนนึกถึงอารมณ์เดียวกับ Nissan Teana J31 – J32 พร้อมหน้าจอ Advanced Drive Assist Display แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว และ หน้าจอสัมผัสกลางแผงคอนโซลขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto , เบาะนั่ง Zero Gravity ลำโพงจาก BOSE 9 ตำแหน่ง ซันรูฟแบบพาโนรามา EYE MAX
2.0 VC-Turbo
- เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ รหัส KR20 Dual C-VTC 2.0 ลิตร 1,997 ซีซี. ให้กำลัง 248 แรงม้าที่ 5600 รอบต่อนาที แรงบิต 380 นิวตัน-เมตรที่ 4000 รอบต่อนาที ส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ XTRONIC CVT 8 สปีต ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองประมาณ 14.9 กม./ลิตร
2.0 VC
- เครื่องยนต์ รหัส MR20 4 สูบ Dual C-VTC 2.0 ลิตร 1,997 ซีซี ให้กำลัง 156 แรงม้า ที่ 6000 รอบต่อนาที แรงบิต 208 นิวตัน-เมตรที่ 4400 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ XTRONIC CVT ความเร็วสูงสุด 200 กม./ลิตร อัตราสิ้นเปลือง 16.9 กม./ลิตร
ระบบความปลอดภัย
- ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัตโนมัติ ProPILOT L2
- ICC Intelligent Adaptive Cruise
- เบรกอัจฉริยะ IEB ③
- IFCW คำเตือนก่อนการชน
- ระบบเตือนออกนอกเลน LDW
- ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา BSW
- กล้องแบบพาโนรามา AVM
- IPA Intelligent Parking Assistant
- IDA Fatigue Intelligence
- การเชื่อมต่อโครงข่ายอัจฉริยะ
- ABS + EBD
- HBA + HBB + HBC ระบบช่วยเบรก
- ระบบควบคุมยานพาหนะ VDC แบบไดนามิก + ระบบควบคุมแรงฉุด TCS
- ระบบช่วยเหลือบนทางลาดชัน HSA
- เรดาร์ 8 ตำแหน่ง
- ระบบเตือนเบรกฉุกเฉิน ESS
- ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง TPMS (พร้อมจอแสดงผลตัวเลข)
จากแผน NISSAN NEXT ทำให้นิสสันทั่วโลกต้องลดต้นทุนอย่างมหาศาล และลดจำนวนรถยนต์หลายรุ่น ซึ่งแผนดังกล่าวหันความสนใจไปในตัวครอสโอเวอร์ SUV และ กระบะมากกว่า รถยนต์ซีดานจะไม่เป็นที่คาดหวังของนิสสัน สักเท่าไหร่
แต่เราสงสัยว่า ทำไม X-Trail โดนบีบออก มีอยู่สองอย่างที่เป็นข้อสังเกต คือ 1. นิสสัน ประเทศไทยเตรียมเปิดตัวรุ่นไมเนอร์เช้นจ์ที่กำลังจำหน่ายในตลาดโลก 2. นิสสันเลิกผลิตจริงๆสำหรับ X-Trail แต่ความเป็นไปได้ที่ X-trail ได้ไปต่อมีค่อนข้างมากกว่า Teana ด้วยซ้ำ
ตอนนี้ NISSAN ประเทศไทยมีรถมากกว่า 10 รุ่นมีรุ่นเปิดตัวใหม่ในปีนี้เพียงรุ่นเดียวคือ Nissan Kicks แม้ว่าเริ่มส่งมอบเดือนสิงหาคมนี้ แต่การเปิดตัวมาก่อนแล้วช่วงพฤษภาคม หรือช้ากว่า 2 เดือนนิดๆ อย่างไรนิสสัน ประเทศไทยยังคงต้องรอสู้อีกมากมาย เพื่อความอยู่รอด และรถยนต์รุ่นใหม่ๆจะมีการเปิดตัวในไทย อีกมากพอสมควร
แผน NISSAN NEXT
1) กระบวนการทำให้เกิดประสิทธภาพ: แนวทางปฏิบัติเพื่อปรับโครงสร้าง ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
แผนงาน
- ปรับอัตราการผลิตของนิสสันลงร้อยละ 20 ให้เหลือเพียง 5.4 ล้านคันต่อปี ภายใต้การปฏิบัติงานตามช่วงเวลาการทำงานตามมาตรฐานปกติ
- เพิ่มอัตราการใช้กำลังการผลิตให้ได้มากกว่าร้อยละ 80 เพื่อเพิ่มผลกำไร
- ลดจำนวนรุ่นรถยนต์ทั่วโลกลงร้อยละ 20 (ให้เหลือเพียง 55 รุ่น จากเดิม 69 รุ่น)
- ลดต้นทุนแบบคงที่ลงประมาณ 3 แสนล้านเยน
- ยุติการดำเนินงานของโรงงาน ณ บาร์เซโลน่า ในภูมิภาคยุโรปตะวันตก
- ควบรวมการผลิตของรถยนต์รุ่นสำคัญต่าง ๆ ในอเมริกาเหนือ
- ยุติการดำเนินงานของโรงงานในประเทศอินโดนีเซีย และมุ่งให้ความสำคัญกับโรงงานในประเทศไทย ซึ่งเป็นฐานการผลิตแห่งเดียวในอาเซียน
- ร่วมมือบริษัทในกลุ่มพันธมิตรในการใช้ทรัพยากร เช่น การผลิต รุ่นรถยนต์ และเทคโนโลยีต่าง ๆ ร่วมกัน
2) การให้ความสำคัญกับตลาดหลักและรถยนต์รุ่นสำคัญ
แผนงาน
- มุ่งเน้นธุรกิจของนิสสันในประเทศญี่ปุ่น จีน และทวีปอเมริกาเหนือ
- ใช้ประโยชน์จากความร่วมมือของกลุ่มพันธมิตร เพื่อรักษาฐานทางธุรกิจของนิสสัน ในอเมริกาใต้อาเซียน และยุโรป
- ยุติการการดำเนินงานในประเทศเกาหลีใต้ ยุติการดำเนินธุรกิจของดัทสันในรัสเซีย รวมถึงปรับแผนการดำเนินธุรกิจของบางประเทศในอาเซียน
- ให้ความสำคัญกับรถยนต์รุ่นหลักในกลุ่ม C และ D Segment รวมถึงรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และรถสปอร์ต
- เดินหน้าเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ 12 รุ่น ในอีก 18 เดือนข้างหน้า
- เพิ่มจำนวนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า รวมถึง เทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ โดยตั้งเป้าจำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 1 ล้านคัน ภายในสิ้นปีงบประมาณ 2566
- ในประเทศญี่ปุ่น นิสสันจะเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 2 รุ่น และรถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีอี-พาวเวอร์ จำนวน 4 รุ่น เพื่อเพิ่มสัดส่วนของยอดขายของรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ถึงร้อยละ 60 ของยอดขายทั้งหมด
- นำระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ ProPILOT มาใช้ในรถยนต์มากกว่า 20 รุ่นที่วางขายใน 20 ประเทศ โดยตั้งเป้าว่าจะมีรถยนต์จำนวนกว่า 1.5 ล้านคัน ที่ใช้ระบบ ProPILOT ภายในสิ้นปี พ.ศ. 2566