ยืนยันเลิกผลิตสิ้นปี 2024 NISSAN TITAN ในสหรัฐฯ ยอดขายลดลง 20%
NISSAN ยืนยันว่าจะเลิกผลิต Titan สิ้นปี 2024 โดยไม่มีแผนผลิตรุ่นต่อจากนี้ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า Nissan จะยุติการผลิตรถกระบะขนาดใหญ่ โดยเหลือเพียง Ford F-150, Chevy Silverado, GMC Sierra, Ram 1500 และ Toyota Tundra ที่ต้องแข่งขันกัน บันทึกภายในระบุว่าจะไม่มีการเลิกจ้างพนักงานที่โรงงาน Dechard และ Canton ที่เกี่ยวข้องกับการผลิต Titan
- รายงานยอดขายล่าสุดระหว่าง มกราคม – กันยายน 2024 ยอดขาย TITAN เพียง 12,185 คัน ลดลง 20.9% เมื่อเทียบรายปี
ก่อนหน้านี้ “การผลิต Nissan Titan มีกำหนดสิ้นสุดในฤดูร้อนปี 2024 ที่โรงงาน Canton ใน Mississippi” Nissan กล่าวในแถลงการณ์ต่อ Carscoops “ภายใต้วิสัยทัศน์ Ambition 2030 ของ Nissan เกี่ยวกับอนาคตที่ใช้พลังงานไฟฟ้า เรากำลังเร่งกระบวนการเปลี่ยนโฉมโรงงาน Canton ด้วยเทคโนโลยีการผลิต EV ล่าสุด สิ่งนี้จะสนับสนุนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ทั้งหมดสองคัน จะไม่มีการลดจำนวนพนักงานสำหรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
- แม้ว่าข่าวดังกล่าวจะได้รับความกังวลจากคนงานทั้งที่โรงงาน Canton และ Decherd, TN ซึ่งเป็นโรงงานที่ผลิตเครื่องยนต์สำหรับ Titan แต่เอกสารต้นฉบับที่ รั่วไหลออกมาของ Nissanยังย้ำจุดยืนอย่างเป็นทางการว่า “จะไม่มีการลดงาน”
Nissan Titan และ Titan XD ปี 2024 ไม่ได้รับการอัปเดตที่สำคัญใดๆ ในสหรัฐอเมริกา นอกจากการปรับราคาจำหน่ายรุ่นเริ่มต้นเป็น SV ทำให้แพงขึ้น มีราคาจำหน่ายเพิ่มขึ้นประมาณ 5,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 167,000 บาท ในเกรดเริ่มต้น SV
- ทำให้ราคาจำหน่ายปัจจุบันเริ่มต้นที่ $47,665 – 67,735 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.59 – 2.26 ล้านบาท
- ผู้ผลิตรถยนต์รายนี้ได้ยกเลิกการตกแต่งรุ่น S ระดับเริ่มต้นในปี 2024 ทำให้ราคาเริ่มต้นเพิ่มขึ้นมากกว่า 5,000 ดอลลาร์ Titan King Cab S 4×2 ปี 2023 เริ่มต้นที่ 42,245 ดอลลาร์ ขณะที่ Titan Crew Cab S 4×2 ปี 2023 เริ่มต้นที่ 44,035 ดอลลาร์
- Titan XD Crew Cab S ก็หายไปเช่นกัน ซึ่งมีราคาเริ่มต้นที่ 49,885 ดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว
- และเกรดอื่นๆ ราคาเพิ่มเพียง $120 เมื่อเทียบกับปี 2023
การออกแบบ Nissan Titan ด้านหน้าชัดเจนมากขึ้นบนตัวถังสีดำเข้ม กระจังหน้าสีดำลายตาข่ายสวยงาม พร้อมกันชนหน้าสีดำ พร้อมแผงกันกระแทกหน้า-หลัง ไฟตัดหมอกแบบ LED ไฟหน้าแบบ LED ทรงตัว C ให้ความสปอร์ตมาก ไฟท้ายแบบ LED ปรับปรุงใหม่ ฝาครอบท้ายรมดำ กันชนท้ายรมดำ ไฟเบรกดวงที่สาม ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้ว ยางจาก GENERAL ยางขนาด 70R18 (TITAN XD PRO-4X: 65R18) หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา
- แพ็คเกจ SV Bronze Edition ใหม่พร้อมให้ใช้งานในปี 2024 การอัพเกรดนี้เพิ่มล้อสีบรอนซ์ขนาด 20 นิ้ว กระจังหน้าสีดำเงา กันชนหน้าสีดำ ป้ายภายนอกสีดำ สปอร์ตบาร์ และกระจกมองข้างสีดำ ภายในห้องโดยสารตกแต่งสีดำ และ สีบอรนซ์ พรมปูพื้นพิเศษ Bronze Edition ชุดไฟหน้าแบบ Full LED ราคา 2,980 ดอลลาร์
- เกรด Titan Pro-4X มาพร้อมยโช้คอัพ Bilstein และแผ่นกันกระแทก Platinum Reserve เบาะนั่งด้านหน้าแบบระบายอากาศ ตกแต่งภายนอกด้วยโครเมียมซาติน ล้อขนาด 20 นิ้ว และระบบเสียง Fender Premium ลำโพง 12 ตัว
ขนาดตัวถัง
- ยาว 5,829 มม.
- กว้าง 2,049 มม.
- สูง 1,960 มม.
- ฐานล้อ 3,550 มม.
- ความสามารถในการลากจูงสูงสุด 4,177 กก.
- น้ำหนักบรรทุกสูงสุด 748 กก.
- น้ำหนักรวม 3,311 กก.
ภายในห้องโดยสารเน้นการตกแต่งโทนดำ / สีน้ำตาลในบางรุ่น เดินด้วยด้ายแดง บริเวณคอนโซลหน้า พวงมาลัย เบาะนั่งออกแบบพิเศษ พร้แมปักโลโก้ PRO-4X หน้าจอแดชบอร์ดหน้าขนาด 9 นิ้ว รองรับ Android Auto และ Apple CarPlay เครื่องเสียงลำโพงจาก Fender 10 – 12 ตำแหน่ง แอมป์ขยายเสียงเก้าแชลแนล และซัฟวูฟเฟอร์ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ กระจกปรับไฟฟ้าทั้ง 4 บาน
เครื่องยนต์เบนซิน V8 5.6 ลิตร ให้กำลังแรงม้า 400 แรงม้า ที่ 5,800 รอบต่อนาที แรงบิด 559 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมระบบ Off-Road Gauge ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อใหม่+ ส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีต
-
TITAN Lineup PRO-4X โช๊ค Bilstein®
ระบบความปลอดภัย Safety Shield 360 suite ได้แก่ ถุงลมนิรภัย 8 ตำแหน่ง ระบบป้องกันการชนด้านหน้าพร้อมตรวจจับคนเดินถนน, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ระบบเตือนรถเคลื่อนผ่านขณะถอยหลัง, ไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบเตือนมุมอับสายตา และระบบป้องกันการถอยชนท้าย กล้องรอบทิศทาง 360 องศา และระบบจดจำเครื่องหมายจราจร
/ Carscoop