Nissan Titan Warrior Concept Full Size กระบะในสหรัฐฯ
Nissan Titan Warrior (นิสสัน ไททัน วอร์ริเออร์) ผลงานการออกแบบของ Nissan Design America (NDA) รถยนต์กระบะต้นแบบโดยนำพื้นฐานจาก Nissan Titan XD มาปรับแต่งออฟโรตมากขึ้น
Nissan Titan Warrior พร้อมการตกแต่งกระจังหน้าสีดำเงา ไฟหน้าแบบ LED ใหม่ กันกระแทกหน้าขนาดใหญ่เสริมด้วยกรอบสีส้ม กรอบไฟตัดหมอกสีส้ม (สีส้ม แม็กม่า ออเรนจ์ และสีดำ) ตัดกับตัวถังเทาด้าน ช่วงล่างตั้งแต่โช๊คอัพ, กันโคลง, ball joint, และ ปีกนกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง นั้นล้วนได้รับการปรับแต่งใหม่
ล้อลูมิเนียมขนาด 18 นิ้วพร้อมยางออฟโรดขนาด 37 นิ้ว กันชนหลังใหม่ครอบด้วยสีส้ม พร้อมท่อคู่ 2 ข้าง ครอบกระบะท้ายสีดำเงา
Nissan Titan Warrior เน้นการออกแบบภายในที่สปอร์ตมากใช้โทนดำแซมด้วยสีส้ม มาตรวัดเรืองแสง แผงหน้าปัดร่วมกับวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ผสานเข้ากับหนังอย่างลงตัว เบาะหุ้มด้วยหนังสีดำเดินตะเข็บด้วยด้ายสีส้มพร้อมติดสัญลักษณ์ T สีเงินที่พนักพิง
ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ V8 5.0 ลิตร ให้กำลัง 313 แรงม้า ที่ 3,200 รอบ/ นาที แรงบิต 752 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 รอบ/ นาที ส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
ขอบุคณ Nissan
นิสสัน สหรัฐอเมริกา เปิดตัวกระบะยักษ์เจนใหม่ Nissan Titan 2020 ในงาน State Fair Of Texas 2019 Fair Park, แดลลัส, เทกซัส สหรัฐอเมริกา รอบสื่อมวลชนวันที่ 26 กันยาน 2019 หรือเมื่อวาน แสดงให้เห็นภาพลักษณ์การออกแบบที่โด่ดเด่นและบึกบึนมากขึ้นของกระบะ Titan ใหม่
ราคาเริ่มต้นรุ่น Crew Cab S 2WD $36,680 – Crew Cab Platinum Reserve 4WD $57,840 หรือประมาณ 1,105,000 – 1,743,000 บาท
รุ่น XD Crew Cab S 4WD $41,430 – Diesel Crew Cab Platinum Reserve 4WD $65,410 หรือประมาณ 1,248,000 – 1,971,000 บาท
- Crew Cab คือรุ่น 4 ประตู
รุ่นท๊อป Diesel Crew Cab Platinum Reserve 4WD
การออกแบบ Nissan Titan ด้านหน้าชัดเจนมากขึ้นบนตัวถังสีดำเข้ม กระจังหน้าสีดำลายตาข่ายสวยงาม พร้อมกันชนหน้าสีดำ พร้อมแผงกันกระแทกหน้า-หลัง ไฟตัดหมอกแบบ LED ไฟหน้าแบบ LED ทรงตัว C ให้ความสปอร์ตมาก ไฟท้ายแบบ LED ปรับปรุงใหม่ ฝาครอบท้ายรมดำ กันชนท้ายรมดำ ไฟเบรกดวงที่สาม ล้ออัลลอยลายใหม่ยางจาก GENERAL หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา
ภายในห้องโดยสารเน้นการตกแต่งโทนดำ / สีน้ำตาลในบางรุ่น เดินด้วยด้ายแดง บริเวณคอนโซลหน้า พวงมาลัย เบาะนั่งออกแบบพิเศษ หน้าจอแดชบอร์ดหน้าขนาด 9 นิ้ว รองรับ Android Auto และ Apple CarPlay เครื่องเสียงลำโพงจาก Fender 10 – 12 ตำแหน่ง แอมป์ขยายเสียงเก้าแชลแนล และซัฟวูฟเฟอร์ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ กระจกปรับไฟฟ้าทั้ง 4 บาน
เครื่องยนต์เบนซิน V8 5.6 ลิตรของรถบรรทุกที่ผลิตแรงม้า 400 แรงม้าและแรงบิด 559 นิวตัน-เมตร (413 ปอนด์) – ม้าเพิ่มอีก 10 ตัว และ แรงบิดเพิ่มขึ้น 25 นิวตัน-เมตร (19 ปอนด์) ส่งเกียร์อัตโนมัติเก้าสปีดใหม่ พร้อมระบบ Off-Road Gauge ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อใหม่
ระบบความปลอดภัย Safety Shield 360 suite ได้แก่ ถุงลมนิรภัย 8 ตำแหน่ง ระบบป้องกันการชนด้านหน้าพร้อมตรวจจับคนเดินถนน, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ระบบเตือนรถเคลื่อนผ่านขณะถอยหลัง, ไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบเตือนมุมอับสายตา และระบบป้องกันการถอยชนท้าย กล้องรอบทิศทาง 360 องศา และระบบจดจำเครื่องหมายจราจร
แน่นอนว่ามันจะเป็นคู่แข่งสำคัญของวงการกระบะยักษ์ในสหรัฐอเมริกาที่มีเจ้าตลาดอย่าง Chevrolet Silverado 1500, Ford F-150 และ Ram 1500
