เปิดราคา 1.09 ล้านบาทในอินโดฯ OMODA E5 EV 505 กม./ชาร์จ NEDC
Chery อินโดนีเซีย ประกาศราคาจำหน่าย OMODA E5 EV IDR 488,800,000 หรือประมาณ 1.09 ล้านบาท สเปคเดียวกับประเทศไทย
มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวด้านหน้า FWD
- ให้กำลัง 204 แรงม้า
- แรงบิต 340 นิวตัน-เมตร
- แบตเตอรี่ขนาด 61.06kWh
- สามารถวิ่งได้ 505 กม./ชาร์จ NEDC
- ชาร์จช้า AC 11kW 5 ชั่วโมง
- ชาร์จเร็ว DC 30 – 80% SOC 110KW ภายใน 30 นาที
- อัตราการใช้ไฟฟ้า 129 วัตต์/กม.
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.6 วินาที
- ความเร็วสูงสุด 172 กม./ชม.
- ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน cd = 0.29
OMODA C5 EV
- ยาว 4,400 มม.
- กว้าง 1,824 มม.
- สูง 1,588 มม.
- ฐานล้อ 2,630 มม.
- ระยะห่างพื้น 165 มม.
- พื้นที่สัมภาระท้าย 380 – 1,075 มม.
ขนาดตัวถัง BYD ATTO3
- ความยาว 4,455 มม.
- ความกว้าง 1,875 มม.
- ความสูง 1,615 มม.
- ระยะฐานล้อ 2,720 มม.
OMODA C5 EV ถูกออกแบบมาให้ตรงตามมาตรฐานการชนระดับสากลรวม 5 รายการ อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนและรูปแบบการขับขี่หลากหลายประเภท ซึ่งรวมถึงพลังงานรูปแบบใหม่ ๆ นอกจากนี้ Chery ยังได้วางระบบบริหารจัดการการผลิตรวมที่เป็นมาตรฐานในระดับสากลอย่าง CPS (Chery Production System) และได้กระชับความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับบรรดาซัพพลายเออร์ระดับโลก เพื่อยกระดับสมรรถนะยานยนต์ทั้งกระบวนการให้ดีขึ้นกว่าเดิม
OMODA C5 EV ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีอัจฉริยะของระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ตอกย้ำความทันสมัยด้วยคอนเซ็ปต์การออกแบบใหม่ล่าสุด ช่วยลดแรงต้านของรถบนถนน ทำให้ความเร็วสูงสุดของรถและประสิทธภาพในการขับขี่เพิ่มขึ้น
คอนเซ็ปต์การออกแบบ Art in Motion ของ Chery ได้นำเทคโนโลยีล้ำสมัยผสานเข้ากับการเปลี่ยนรูปลักษณ์ที่ทำให้คล่องตัวและทรงพลังมากขึ้น โดยอาศัยการสร้างสรรค์จากความสมดุลของแสงและเงาเป็นหลัก
ด้านหน้าของตัวรถยนต์ OMODA C5 EV ถูกออกแบบด้วยโครงสร้างไร้ขอบที่ผสานลงตัวกับกระจังหน้าทรงเพชร เพิ่มการมองเห็นที่เด่นชัดมากขึ้น นับเป็นดีไซน์ที่ลงตัวอย่างชาญฉลาด ขอบโครงรถเชื่อมระหว่างตัวถังส่วนหน้าและหลังคารถเข้าด้วยกันอย่างไร้ที่ติ นอกจากนี้ สปอยเลอร์ปีกหลังของรถถูกออกแบบสองชั้นอย่างล้ำยุคเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการขับขี่และช่วยในการระบายอากาศของรถยนต์รุ่นนี้โดยเฉพาะ
การออกแบบคัลเลอร์บล็อกกิ้ง (color-blocking) หรือการเลือกสีที่ตัดกันอย่างสุดขั้วมาแมชกันเกิดลุคใหม่ที่แปลกตาทั้งภายนอกและภายใน ไฟหน้าแบบแยกกัน โดยใช้ไฟ LED ทรงตัว T สำหรับวิ่งกลางวัน ส่วนไฟท้ายรถใช้หลอดไฟ LED แบบ urban ที่จะช่วยเสริมความโดดเด่นและแตกต่างจากไฟหน้า นอกจากนี้ ยังใช้ล้อแม็กซ์สีตัดกันขนาด 18 นิ้ว
Ricผard ผู้ออกแบบ OMODA C5 EV กล่าวว่า “EV มีภาษาการออกแบบใหม่ล่าสุด – Light of Movement ซึ่งเป็นความต่อเนื่องของ Art in Motion รุ่นก่อนหน้า โดยได้รับแรงบันดาลใจจากแสงแบบไดนามิกและเงาของฟ้าผ่าในธรรมชาติ” นักออกแบบได้จับภาพความงามแบบไดนามิกของสายฟ้าที่ตัดผ่านท้องฟ้ายามค่ำคืนในธรรมชาติ และรวมไว้เป็นแรงบันดาลใจในรูปทรงของรถใหม่ ซึ่งมีความคมชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านการเปลี่ยนแปลงแบบไดนามิกของแสงและเงา นำเสนอสุนทรียภาพที่ทันสมัยซึ่งอยู่เหนือความสมจริงและเป็นปรากฏการณ์อันน่าอัศจรรย์
ในฐานะที่เป็นรุ่นไฟฟ้าล้วน OMODA C5 EV แสดงรูปลักษณ์ที่โดดเด่นด้วยกระจังหน้ารูปตัว “X” แบบสปอร์ตและประสิทธิภาพการต้านลมที่ดี ในขณะเดียวกัน รูปทรงของไฟหน้าก็ได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดจากรุ่นน้ำมันเช่นกัน ด้วยการรวมแถบไฟวิ่งกลางวันแบบ LED และแถบคิ้วชุบโครเมียมที่กว้างขึ้น นอกจากนี้ไฟตัดหมอกรวมถึงสไตล์ของล้อและกันชนหน้าและหลังได้ทำการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเพื่อนำเสนอความสวยงามของเส้นสายในการไหลเวียนของอากาศ ทำให้โดยรวมแสดงถึงความรู้สึกพรีเมียมมากขึ้น
เส้นสายตัวถังของ OMODA C5 EV นั้นเฉียบคมและไดนามิก ด้วยพื้นผิวตัวถังแบบ 3 มิติที่ไม่เหมือนใครและการรักษาเงาซึ่งรักษาสมดุลของเส้นตัวถังแนวนอนและแนวตั้ง จึงมีพลังที่แข็งแกร่งและไดนามิก ไฟที่ปีกด้านข้างสามารถขับเน้นพื้นผิวที่เฉียบคมและเป็นเหลี่ยมมุมของตัวรถ ทำให้มีรูปลักษณ์สปอร์ตที่ปราดเปรียวและดูอ่อนเยาว์ซึ่งเข้ากันได้กับกลุ่มลูกค้าเจเนอเรชั่นใหม่
ด้านหลังของรถออกแบบให้สโลบลง เน้นความไดนามิก ซึ่งปรับให้เหมาะกับความอ่อนเยาว์และความสวยงามแบบสปอร์ต ด้านท้ายของ OMODA 5 EV แสดงสไตล์ที่โฉบเฉี่ยวและสปอร์ตด้วยแถบแนวตั้งบางๆ ที่ฝังอยู่ในไฟท้ายด้านหลัง สปอยเลอร์หลังสไตล์สปอร์ตสอดคล้องกับหลักอากาศพลศาสตร์ ซึ่งสามารถยกระดับความเร็วของรถไปสู่ระดับใหม่เพื่อสร้างแรงกระตุ้นทางสายตาและการแสดงออกทางสัญลักษณ์ที่ดูอ่อนเยาว์ รองรับคนรุ่นใหม่ที่มีใจรักในการแข่งรถ เช่นเดียวกับประสบการณ์การดริฟท์ในการขับขี่
OMODA C5 EV มาพร้อมกับการกำหนดค่าทางเทคโนโลยีอัจฉริยะที่หลากหลาย ในแง่ของเทคโนโลยีการมองเห็น มีหน้าจอโค้งขนาดใหญ่พิเศษ 12.3 นิ้ว ซึ่งให้คำแนะนำการเดินทางอัจฉริยะแก่ผู้ใช้ การโต้ตอบด้วยภาพ HMI5.0 และการวางตำแหน่งเพื่อให้ใช้งานง่าย หน้าจอดิจิทัลตอบสนองใกล้เคียงความเป็นมนุษย์มอบประสบการณ์ทางเทคโนโลยีที่ดื่มด่ำสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ในแง่ของเทคโนโลยีการขับขี่ ฟังก์ชั่นตรวจสอบความล้าช่วยให้มั่นใจในความปลอดภัยในการขับขี่ รถยนต์ยังมีโหมดการขับขี่ 10 โหมด ได้แก่ การตั้งแคมป์ การประหยัดพลังงาน การมีสติ การอุ่นเครื่อง การทำความเย็น การต้อนรับ การร้องคาราโอเกะ หมอกควัน สัตว์เลี้ยง และการสตาร์ท ซึ่งทำให้การขับขี่ชาญฉลาดและสะดวกยิ่งขึ้น
OMODA C5 EV ซึ่งเป็นรถ CROSSOVER คันแรกคันใหม่ของแบรนด์ OMODA ที่มีเป้าหมายเพื่ออนาคตของสิ่งแวดล้อม ได้รับภารกิจหลักสำหรับแนวคิดสีเขียวระดับโลกของแบรนด์ OMODA ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ทั่วโลกสำหรับโหมดการเดินทางที่ใช้พลังงานสะอาด และสร้างไลฟ์สไตล์ใหม่สำหรับผู้บริโภคทั่วโลกด้วยความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมของเทคโนโลยีแห่งอนาคต