Advertisement

Advertisement

10 รถยนต์ขายดีในไทย ครึ่งปีแรก ระหว่างมกราคม – มิถุนายน 2566

10 รถยนต์ขายดีในไทย ครึ่งปีแรก  ระหว่างมกราคม – มิถุนายน 2566
Spread the love

Advertisement

Advertisement
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรม   แห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยตัวเลขประมาณการการผลิตรถยนต์ของสมาชิกกลุ่มฯ ในปี พ.ศ.2566 (ใหม่) ปรับเป้าผลิตรถยนต์ปี 2566 จาก 1,950,000 คันเป็น 1,900,000 คัน ลดลง 50,000 คัน โดยปรับเป้าเฉพาะผลิตขายในประเทศลดลงจาก 900,000 คันเป็น 850,000 คัน
เดือนมกราคม – มิถุนายน 2566 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 481,784.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 8.99 ปรับเป้าการผลิตรถยนต์ ปี 2566 จาก 1,950,000 คันเป็น 1,900,000 คัน

ปัจจัยของการปรับยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศลดลง

  • สถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อรถยนต์จากหนี้ครัวเรือนที่สูงถึงร้อยละ 90.6 ของ GDP
  • ส่งออกสินค้าอื่นๆของประเทศลดลงติดต่อกันหลายเดือน    ทำให้หลายอุตสาหกรรมลดกะการทำงานและลดการทำงานล่วงเวลา คนทำงานขาดรายได้ อำนาจซื้อลดลง
  • ดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้นรวมทั้งค่าครองชีพสูงขึ้น ผู้มีหนี้และประชาชนต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้น จึงระวังการใช้จ่าย ทำให้อำนาจซื้อลดลง ธุรกิจหลายสาขาชะลอตัวลง เช่น วัสดุก่อสร้าง ร้านสะดวกสบาย supermarket ฯลฯ
  • รถยนต์ไฟฟ้ามีส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ที่ใช้น้ำมันมากกว่าร้อยละ 5 โดยรถยนต์ไฟฟ้าเป็นรถยนต์นำเข้า ไม่ได้ผลิตในประเทศ จึงลดเป้าการผลิตเพื่อขายในประเทศลงประมาณร้อยละห้าของเป้าเดิม

การผลิต

  • จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนมิถุนายน 2566 มีทั้งสิ้น 145,557 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 1.78 เพราะผลิตขายในประเทศลดลง ร้อยละ 2.01 แต่ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2566 ร้อยละ 3.30
  • จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม – มิถุนายน 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 921,512 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มิถุนายน 2565 ร้อยละ 5.91
  • รถยนต์นั่ง เดือนมิถุนายน 2566 ผลิตได้ 50,300 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 14.83
  • ยอดผลิตของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม – มิถุนายน 2566 มีจำนวน 321,061 คัน เท่ากับร้อยละ 34.84 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มิถุนายน 2565 ร้อยละ 24.96
  • รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนมิถุนายน 2566 ผลิตได้ 16 คันเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 700 รวมเดือนมกราคม – มิถุนายน 2566 ผลิตได้ 78 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 3,800
  • รถยนต์บรรทุก เดือนมิถุนายน 2566 ผลิตได้ทั้งหมด 95,241 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 4 และตั้งแต่เดือนมกราคม – มิถุนายน 2566 ผลิตได้ทั้งสิ้น 600,373 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – มิถุนายน 2565 ร้อยละ 2.09
  • รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมิถุนายน 2566 ผลิตได้ทั้งหมด 91,737 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 3.94 และตั้งแต่เดือนมกราคม – มิถุนายน 2566 ผลิตได้ทั้งสิ้น 583,867 คัน เท่ากับร้อยละ 63.36 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – มิถุนายน 2565 ร้อยละ 1.61 โดยแบ่งเป็น
    • รถกระบะบรรทุก 105,451 คัน   ลดลงจากเดือนมกราคม – มิถุนายน 2565 ร้อยละ 32.83
    • รถกระบะดับเบิลแค็บ 385,570 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มิถุนายน 2565 ร้อยละ 5.05
    • รถกระบะ PPV 92,846 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มิถุนายน 2565 ร้อยละ 33.86
รถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน – มากกว่า 10 ตัน เดือนมิถุนายน 2566 ผลิตได้ 3,504 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 5.63 รวมเดือนมกราคม – มิถุนายน 2566 ผลิตได้ 16,506 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – มิถุนายน 2565 ร้อยละ 16.50
ผลิตเพื่อส่งออก
  • เดือนมิถุนายน 2566 ผลิตได้ 84,909 คัน เท่ากับร้อยละ 58.33 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 4.66 ส่วนเดือนมกราคม – มิถุนายน 2566 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 530,655 คัน เท่ากับร้อยละ 57.59 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 12.09
  • รถยนต์นั่ง เดือนมิถุนายน 2566 ผลิตเพื่อการส่งออก 23,069 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 12.03 และตั้งแต่เดือนมกราคม – มิถุนายน 2566 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 147,073 คัน เท่ากับร้อยละ 45.81 ของยอดผลิตรถยนต์นั่ง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มิถุนายน 2565 ร้อยละ 29.42
  • รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมิถุนายน 2566 มียอดการผลิตเพื่อการส่งออก 61,840 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 2.15 และตั้งแต่เดือนมกราคม – มิถุนายน 2566 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 383,582 คัน เท่ากับร้อยละ 65.70 ของยอดการผลิตรถกระบะ เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มิถุนายน 2565 ร้อยละ 6.62 โดยแบ่งเป็น
    • รถกระบะบรรทุก   39,883  คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 13.65
    • รถกระบะดับเบิลแค็บ 294,283 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 7.40
    • รถกระบะ PPV  49,416 คัน    เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 24.90

ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ

  • เดือนมิถุนายน 2566 ผลิตได้ 60,648 คัน เท่ากับร้อยละ 41.67 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 2.01 และเดือนมกราคม – มิถุนายน 2565 ผลิตได้ 390,857 คัน เท่ากับ ร้อยละ 42.41 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – มิถุนายน 2565 ร้อยละ 1.48
  • รถยนต์นั่ง เดือนมิถุนายน 2566 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 27,231 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 17.30 และตั้งแต่เดือนมกราคม – มิถุนายน 2565 ผลิตได้ 173,988 คัน เท่ากับร้อยละ 54.19 ของยอดการผลิตรถยนต์นั่ง โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม – มิถุนายน 2565 แล้ว เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.42
  • รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมิถุนายน 2566 มียอดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 29,897 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 14.48 และตั้งแต่เดือนมกราคม – มิถุนายน 2566 ผลิตได้ทั้งสิ้น 200,285 คัน เท่ากับร้อยละ 34.30 ของยอดการผลิตรถกระบะ แต่ลดลงจากเดือนมกราคม – มิถุนายน 2565 ร้อยละ 14.28 ซึ่งแบ่งเป็น
    • รถกระบะบรรทุก 65,568 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 40.83
    • รถกระบะดับเบิลแค็บ 91,287 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 1.89
    • รถกระบะ PPV 43,430 คัน  เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ร้อยละ 45.75
10 รถยนต์ขายดีในประเทศไทย ครึ่งปีแรก 2023 ระหว่างมกราคม – มิถุนายน 2566
  • อันดับ 1 ISUZU D-MAX : 66,680
  • อันดับ 2 TOYOTA HILUX REVO : 58,782 คัน
  • อันดับ 3 TOYOTA YARIS ATIV : 28,319 คัน
  • อันดับ 4 FORD RANGER : 13,830 คัน
  • อันดับ 5 HONDA HR-V : 12,483 คัน
  • อันดับ 6 ISUZU MU-X : 11,953 คัน
  • อันดับ 7  TOYOTA FORTUNER : 11,762 คัน
  • อันดับ 8 HONDA CITY Hatchback : 11,383 คัน
  • อันดับ 9  TOYOTA COROLLA CROSS : 10,203 คัน
  • อันดับ 10  HONDA CITY SEDAN : 9,513 คัน

https://www.car250.com/isuzu-d-max-2023.html

รวมราคา TOYOTA Hilux Revo ไฮลักซ์ รีโว้ ใหม่ 2021-2022 ตารางผ่อนดาวน์

เปิดขายในไทย TOYOTA YARIS ATIV 1.2L 94 แรงม้า พร้อมส่งมอบ

ขายไทยราคา 1,264,000 บาท FORD RANGER รุ่น Storm Track ใหม่ เน้นการตกแต่งสปอร์ตเอาใจสายลุย

HONDA HR-V e:HEV ราคา 990,000 – 1,200,000 บาท ตารางผ่อนดาวน์ ใหม่ 2022-2023

https://www.car250.com/isuzu-mu-x-my2023.html

https://www.car250.com/fortuner-2022-new.html

เพิ่มเงิน 10,000 บาท Honda CITY Hatchback สี Premium Sunlight ในเกรด SV และ RS ราคา 685,000 – 759,000 บาท

Toyota Corolla Cross โตโยต้า โคโรลล่า ครอส ราคาตารางผ่อนดาวน์ 2022-2023

HONDA CITY Sedan ฮอนด้า ซิตี้ 4 ประตู ราคาผ่อนดาวน์ 2021-2022

เครดิตข้อมูล  Fti.or.th / Headlightmag.com

Advertisement

Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้