เตรียมเปิดขายไทยปีหน้า SUZUKI e VITARA รถยนต์ไฟฟ้า B-SUV ใหม่
ก่อนหน้านี้เมื่อต้นเดือนมิถุนายน บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จัดประชุม ดีลเลอร์ เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา พร้อมแถลงนโยบายภายใต้แผนธุรกิจระยะยาว 7 ปี นอกจากนี้พร้อมการตั้งยอดขายในปี 2024 กว่า 12,000 คัน
- เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2024 บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ประกาศปิดโรงงานภายในสิ้นปี 2025 แผนทั้งหมดยังคงเดิม โดยนำเข้ารถยนต์จากโรงงานในอาเซียนอย่างอินโดนีเซียแทน พร้อมศูนย์บริการเปิดไปตามปกติ
SUZUKI ประเทศไทย ประกาศชัดเจนเกี่ยวกับวิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจในประเทศไทย “Enhancing the Ability to Compete in the Upcoming Automotive Market เพิ่มขีดความสามารถสู่การแข่งขันในอนาคต” ที่ยังหวังความร่วมมือกับดีลเลอร์ เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคว่า ธุรกิจของซูซูกิจะสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างยั่งยืน
โดยมีการเปิดตัว SUZUKI XL7 Mild HYBRID ปลายเดือนมีนาคม 2024 ซึ่งตรงกับงาน บางกอก มอเตอร์โชว์ 2024 นอกจากนี้ทาง SUZUKI จะเปิดตัว SUV ไฟฟ้า 100% ขนาดกลางช่วงกลางปี 2025 นอกจากนี้ในแผน 5 ปียังมีรถยนตเปิดตัวอีก 3 รุ่น รวมถึงงรถยนต์นั่งไฟฟ้า 100% ขนาดเล็ก
นายทาดาโอะมิ ซูซูกิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แม้ซูซูกิจะต้องเผชิญการแข่งขันใน ตลาดที่ค่อนข้างรุนแรง รวมถึงสภาวะ การหดตัวของตลาด และความเข้มงวดของสถาบันการเงินต่างๆ แต่ยังคงรักษาระดับยอดขายรถยนต์ไว้ในในระดับที่น่าพอใจ โดยทั้งปี 2023 มียอดขาย 12,151 คัน
แน่นอนว่ารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่ทาง SUZUKI จะเอามาขายไทยคือ SUZUKI e VITARA ปัจจุบันเปิดตัวเวอร์ชั่นจำหน่ายจริงในยุโรป และพร้อมขายตลาดเอเชียพวงมาลัยขวาปีหน้า รวมทั้งในบ้านเราด้วย
SUZUKI ประเทศไทยตั้งเป้าปี 2025 หรือปีหน้า ขยายศูนย์ซ่อมตัวถังและสีครบ 50 แห่ง พร้อมเปิดตัว 2 รุ่นใหม่ พร้อมเน้นบริการขาย การตลาด และ ศูนย์บริการหลังการขาย ส่วนการผลิตยกเลิกในปีหน้า
- นายทาดาโอะมิ ซูซูกิ ประธานกรรมการบริหาร ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) หรือ Suzuki กล่าวว่า บริษัทได้ลงนามแต่งตั้งศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานซูซูกิเพิ่มเติมโดยผู้จำหน่ายอีก 5 ราย ซึ่งผ่านการรับรองมาตรฐานงานบริการจาก บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยที่ผ่านมาได้มีการแนะนำศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานซูซูกิ ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานงานบริการจาก บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ไปแล้วจำนวน 32 แห่ง
- ทั้งนี้ นอกจากการขยายศูนย์ซ่อมตัวถังและสีฯ ซูซูกิยังยกระดับไปอีกขั้นด้วยงานบริการแบบ S-Solution ซึ่งเป็นการช่วยเสริมให้ผู้บริโภคได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการแนะนำผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ที่เตรียมจะนำมาจำหน่ายในอนาคต โดยประกอบไปด้วยรถประเภทไฮบริดและรถพลังงานไฟฟ้า 100% ซึ่งเรามั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าแต่ละรุ่นจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องต่อความต้องการของลูกค้าและสามารถแข่งขันได้ในอนาคตอย่างแน่นอน
- นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ซูซูกิได้ร่วมกับผู้จำหน่ายในพิธีแต่งตั้งศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานซูซูกิอย่างเป็นทางการ จำนวน 5 ราย แบ่งออกเป็น 7 สาขา ครอบคลุมพื้นที่บริการในหลายจังหวัดมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทมีศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีที่ให้บริการทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 39 สาขา
- ทั้งนี้ Suzuki มีแผนที่จะขยายงานบริการศูนย์ซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานซูซูกิ เพิ่มเติมให้เป็น 50 แห่ง ภายในเดือนมีนาคม 2025 เพื่อรองรับการเติบโตทางธุรกิจของซูซูกิและรองรับลูกค้าพร้อมส่งมอบบริการและประสบการณ์การใช้บริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า
- นอกจากการขยายศูนย์ซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานซูซูกิ งานบริการด้านอื่นๆ ยังถูกยกระดับเพิ่มเติมขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องการพัฒนาระบบจัดการฐานข้อมูลลูกค้า (Dealer Management System หรือ DMS) ให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบเพื่อเข้าถึงข้อมูลลูกค้าได้ในแบบ Real Time ซึ่งช่วยให้ทราบถึงประวัติการเข้ารับบริการของลูกค้าและสามารถประเมินความต้องการไปจนถึงเรื่องของค่าใช้จ่ายในการเข้ารับบริการได้อย่างแม่นยำ
วันที่ 4 พฤศจิกายน 2024 บริษัทซูซูกิ มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าแบบใช้แบตเตอรี่ (BEV) รุ่นแรกที่ผลิตจำนวนมาก ซึ่งก็คือ e VITARA ในเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี โดยการผลิตจะเริ่มขึ้นที่บริษัทซูซูกิ มอเตอร์ รัฐคุชราต ในประเทศอินเดียในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2025 และคาดว่าจะเริ่มจำหน่ายในประเทศต่างๆ รวมถึงยุโรป อินเดีย และญี่ปุ่น ในช่วงฤดูร้อนปี 2025
สำหรับ SUZUKI e VITARA เป็นรถยนต์รุ่นต้นแบบที่พัฒนาต่อยอดจากรุ่น eVX ซึ่งจัดแสดงในงาน Auto Expo ที่จัดขึ้นในอินเดียเมื่อเดือนมกราคม 2023 และที่งาน JAPAN MOBILITY SHOW ในเดือนตุลาคมของปีเดียวกัน โดยถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเชิงกลยุทธ์รุ่นแรกของ Suzuki
การออกแบบภายใต้แนวคิด Emotional Versatile Cruiser e VITARA จึงมีดีไซน์ที่ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีขั้นสูงและความแข็งแกร่ง ระบบส่งกำลัง BEV ที่มอบประสบการณ์การขับขี่ที่คล่องตัวและเฉียบคม ระบบ 4WD ไฟฟ้า ALLGRIP-e ที่ไม่เพียงแต่ให้ความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรดเท่านั้นแต่ยังมีสมรรถนะอันทรงพลัง รวมถึงแพลตฟอร์ม HEARTECT-e ที่พัฒนาขึ้นใหม่สำหรับรถยนต์ BEV โดยเฉพาะ
ข้อมูลด้านเทคนิค
ขนาดตัวถัง
- ยาว 4,275 มม.
- กว้าง 1,800 มม.
- สูง 1,635 มม.
- ฐานล้อ 2,700 มม.
- รองรับ 5 ที่นั่ง
- ระยะห่่างพื้น 180 มม.
- ดิสก์เบรกหน้า-หลัง
มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวด้านหน้า
- ให้กำลัง 142 แรงม้า
- แรงบิด 189 นิวตัน-เมตร
- แบตเตอรี่ LFP 49kWh
- น้ำหนัก 1,702 กก. กก.
- ล้ออัลลอย 18 นิ้ว ยาง 225/55R18
มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวด้านหน้า
- ให้กำลัง 174 แรงม้า
- แรงบิด 189 นิวตัน-เมตร
- แบตเตอรี่ LFP 61kWh
- น้ำหนัก 1,760 – 1,799 กก. กก.
- ล้ออัลลอย 18 นิ้ว และ 20 นิ้ว ยาง 225/55R18, 225/50R19
มอเตอร์ไฟฟ้าคู่
- ให้กำลัง 181 แรงม้า
- แรงบิด 300 นิวตัน-เมตร
- แบตเตอรี่ LFP 61kWh
- น้ำหนัก 1,860 – 1,899 กก.
- ล้ออัลลอย 18 นิ้ว และ 20 นิ้ว ยาง 225/55R18, 225/50R19
เปิดตัว SUZUKI e VITARA ไฟฟ้าล้วนรุ่นแรก เตรียมขายพวงมาลัยขวาปีหน้า