Advertisement

Advertisement

ไปต่อ เปิดตัวไทยปีหน้า SUZUKI SWIFT Mild HYBIRD 1.2L 24.5 กม./ลิตร คาดนำเข้าอินเดีย

ไปต่อ เปิดตัวไทยปีหน้า SUZUKI SWIFT Mild HYBIRD 1.2L 24.5 กม./ลิตร คาดนำเข้าอินเดีย
Spread the love

Advertisement

Advertisement

 

SUZUKI ประเทศไทยประกาศแผนงานจำหน่ายรถยนต์ในประเทศปีหน้า ทั้งไฮบริด และ ไฟฟ้าล้วน ด้วยการนำเข้าจากอินโดฯ และ อินเดีย สำหรับเราคาดว่าหนึ่งในนั้นคือ SUZUKI FRONX Mild HYBRID ที่กำลังจะเปิดตัวในญี่ปุ่น อินโดฯ ออสเตรเลีย นอกจากนี้ไทยเองคาดว่าได้ใช้เช่นกัน ด้วยการนำเข้าจากประเทศอินเดีย  มีจำหน่าย 2 เครื่องยนต์ได้แก 1.0T และ 1.2L ปัจจุบัน Mild Hybrid ยังไม่จำหน่ายในอินเดีย และ อื่นๆ  นอกจากนี้ยังจะมีการจำหน่าย SUZUKI SWIFT Mild HYBRID ยอดนิยมอีกหนึ่งรุ่นภายในปี 2025 สำหรับประเทศไทย

  • วันที่ 18 กรกฎาคม 2024 Suzuki Motor (ประเทศไทย) ประกาศแผนดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เตรียมนำเข้ารถยนต์รุ่นใหม่ 4 รุ่น ทั้งขุมพลัง Hybrid และขุมพลังไฟฟ้า BEV (เราคาดว่านั้นคือ Fronx Mild HYBRID , SUZUKI SWIFT Mild HYBRID , SUZUKI evX EV อีกรุ่นเดาไม่ถูก)
  • SUZUKI ประเทศไทย เตรียมขยายการรับประกันฟรีค่าแรงเช็กระยะ สูงสุด 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร ยืนยันมีอะไหล่รองรับรถยนต์ทุกรุ่นนาน 10 ปี เร่งเดินหน้าขยายศูนย์บริการให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค

Suzuki Motor Corporation เริ่มจำหน่าย Swift ในญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2023 ในประเทศญี่ปุ่น โดยมีราคาจำหน่าย 1,727,000 – 2,332,200 เยน หรือประมาณ 398,000 – 538,000 บาท มีให้เลือกทั้ง 2WD และ 4WD รวมถึงระบบไฮบริด Mild HYBIRD  พร้อมประกาศเป้าหมายยอดขายประจำปีไว้ที่ 30,000 คัน

  • XG (2WD): 1,727,000 yen หรือประมาณ 398,000 บาท
  • XG (4WD): 1,892,000 yen หรือประมาณ 436,000 บาท
  • Hybrid MX (2WD): 1,922,800 yen หรือประมาณ 443,000 บาท
  • Hybrid MX (4WD): 2,087,800 yen หรือประมาณ 482,000 บาท
  • Hybrid MZ (2WD): 2,167,000 yen หรือประมาณ 500,000 บาท
  • Hybrid MZ (4WD): 2,332,000 yen หรือประมาณ 538,000 บาท

“Swift” ใหม่ได้รับการออกแบบด้วยแนวคิด “Energetic & Light – ขนาดกะทัดรัดอัจฉริยะที่เปลี่ยนการเดินทางในแต่ละวันให้เป็นการเล่นที่สนุกสนาน” นอกเหนือจากการออกแบบและสมรรถนะการขับขี่ที่ได้รับการปลูกฝังในรุ่น Swift รุ่นต่อๆ ไป ตอนนี้ยังนำเสนอคุณสมบัติด้านความปลอดภัยและความสะดวกสบายที่ได้รับการปรับปรุงอีกด้วย นี่เป็นการเพิ่มคุณค่าใหม่ของการ “เพลิดเพลินกับชีวิตประจำวันด้วยรถยนต์” ให้กับความน่าดึงดูดใจของการออกแบบและสมรรถนะการขับขี่ของ Swift ทำให้ Swift เป็นรุ่นแฮทช์แบ็กขนาดกะทัดรัดใหม่ที่ได้รับการพัฒนา

การออกแบบได้รับการพัฒนาโดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความประทับใจที่น่าจดจำได้ในพริบตา ภายนอกมีลักษณะเป็นทรงกลมที่โอบล้อมตัวรถทั้งหมด แสดงออกถึงภาพลักษณ์ขั้นสูง และไล่ตามสไตล์ที่กระตุ้นบุคลิกภาพและสมรรถนะในการขับขี่ การออกแบบภายในเชื่อมโยงแผงหน้าปัดและขอบประตูเพื่อแสดงความสามัคคีระหว่างคนขับและตัวรถ กลุ่มสีตัวถังมีทั้งหมด 13 รูปแบบใน 9 สี รวมถึงสีใหม่ “Frontier Blue Pearl Metallic” และ “Cool Yellow Metallic”

ระบบส่งกำลังใช้เครื่องยนต์ Z12E และ CVT ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ซึ่งให้ทั้งประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงและสมรรถนะการขับขี่ ในขณะที่ยังคงการออกแบบไว้ Swift ก็ประสบความสำเร็จในด้านประสิทธิภาพตามหลักอากาศพลศาสตร์ระดับสูงสุดในระดับเดียวกัน โดยการนำสปอยเลอร์ด้านข้างประตูหลังมาใช้ การปรับสเตรคหน้า กันชนหน้า และรูปทรงล้อให้เหมาะสม ซึ่งช่วยลดแรงต้านทานอากาศได้ประมาณ 4.6% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า*1 . นอกจากนี้ การใช้แผ่นเหล็กแรงดึงสูงและกาวโครงสร้างในร่างกายที่เพิ่มขึ้นยังช่วยให้การควบคุมและความสะดวกสบายในการขับขี่โดดเด่นอีกด้วย นอกจากนี้ เสียงยังได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นโดยการเพิ่มวัสดุแผ่นกั้นและติดกาวกันกระแทกที่ข้อต่อของตัวถัง

สำหรับอุปกรณ์ด้านความปลอดภัย Dual Sensor Brake Support II ได้ถูกนำมาใช้ซึ่งรวมเอาเรดาร์คลื่นมิลลิเมตรและกล้องเข้าด้วยกัน การรวมระบบ Adaptive Cruise Control [ฟังก์ชั่นติดตามความเร็วทั้งหมดและฟังก์ชั่นหยุดนิ่ง] พร้อมฟังก์ชั่นล็อคเบรกเพิ่มเติมที่ทำให้เป็นไปได้ด้วยเบรกจอดรถแบบอิเล็กทรอนิกส์ ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ และระบบไฟสูงแบบปรับได้ ฯลฯ ช่วยลดภาระ ของการขับรถในแต่ละวัน นอกจากนี้ ระบบตรวจสอบผู้ขับขี่ซึ่งจดจำใบหน้าของผู้ขับขี่และแจ้งเตือนเมื่อมีอาการง่วงนอนหรือไม่ตั้งใจผ่านการตรวจจับกล้อง ได้ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกสำหรับซูซูกิ

ข้อมูลด้านเทคนิคของ SUZUKI SWIFT Mild HYBIRD โฉมใหม่

เครื่องยนต์เบนซิน ไฮบริด 3 สูบ 1.2 ลิตร

  • เครื่องยนต์ ไดเร็กอินเจคชั่น 4 สูบ 1.2 ลิตรแบบอินไลน์ แบบดูดอากาศตามธรรมชาติ + มอเตอร์ S-Ene Charge (มายด์ไฮบริด “SHVS”)
    • ให้กำลัง 82 แรงม้า ที่ 5,700 รอบต่อนาที
    • แรงบิด 108 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที
    • กำลังมอเตอร์ไฟฟ้า 3.1 แรงม้า ที่ 1,000 รอบต่อนาที
    • แรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้า 60  นิวตัน-เมตร ที่ 100 รอบต่อนาที่
    • ส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ CVT
    • ระบบขับเคลื่อน 2WD และ 4WD Full-Time
    • อัตราสิ้นเปลือง 24.5 กม./ลิตร WLTC (CVT) 25.5 กม./ลิตร (5MT)
  • ขนาดตัวถัง
    • ความยาว 3,860 มม.
    • กว้าง 1,695 มม.
    • ความสูง 1,500 มม.
    • ระยะฐานล้อ 2,450 มม
  • พัฒนาบนแพลตฟอร์ม HEARTECT
  • จอแสดงผลส่วนกลางขนาด 9 นิ้งรองรับการเชื่อมต่อ Suzuki Connect
  • ช่องซีดีบนคอนโซลกลางเหนือพอร์ตชาร์จ USB หลายช่อง
  • เครื่องบันทึกการขับขี่
  • ติดตั้งเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติเต็มรูปแบบพร้อม Nanoe-X
  • ทุกรุ่นมาพร้อมช่องเสียบไฟ USB [Type-C] เป็นมาตรฐาน
  • ติดตั้ง “ฟังก์ชันแนะนำด้วยเสียง”ที่จะแจ้งเตือนผู้ขับขี่เกี่ยวกับสิ่งต่างๆ เช่น “ประตูเปิดอยู่” และ “น้ำมันอยู่ในระดับต่ำ”
  • เบรกมือไฟฟ้า
  • Auto HOLD ระบบช่วยเบรกรถอัตโนมัติชั่วคราว
  • ระบบความปลอดภัย Suzuki Safey Support
    • ระบบรองรับเบรกด้วยเซ็นเซอร์คู่
    • Dual Sensor Brake Support II (DSBS II) ช่วยหลีกเลี่ยงการชนด้านหน้าหรือลดความรุนแรงของการชนหากหลีกเลี่ยงไม่ได้
    • ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับได้ ACC
    • ระบบป้องกันการออกนอกเลน
    • ระบบจดจำป้ายจราจร RSA
    • ระบบแสดงจุดบอด BSM
    • ระบบไฟสูงแบบปรับได้ AHS
    • ระบบตรวจสอบความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ DMS
    • ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEBS
    • ระบบเตือนการชนด้านหน้า
    • ระบบเบรกเตือนการชนด้านหน้า
    • ระบบช่วยเบรกเพื่อลดการชนด้านหน้า
    • ระบบเบรกอัตโนมัติ
    • ระบบเตือนออกนอกเลน Lane Departure Warning LDW
    • ระบบเรด้าร์ที่ช่วยเตือนเมื่อมีรถวิ่งผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA
    • ระบบนี้ช่วยรักษาความเร็วที่ควบคุมได้เมื่อขับลงเนินบนถนนที่ลื่นหรือชัน HDC
    • ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง TPMS
    • ระบบเปิดไฟสูงอัตโนมัติ HBA

 

 

Car.watch.impress.co.jp, Kuruma-news.jp, & Driver-web.jp / Autocar.jp

Advertisement

Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้