TATA Motors มีลุ้นขยายธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า และ รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ในไทย

บีโอไอเดินหน้ารุกตลาดอินเดีย! เปิดโต๊ะเจรจายักษ์ใหญ่ 3 อุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง หวังดึงลงทุนปั้นไทยเป็นศูนย์กลาง Medical Hub และฐานผลิต EV-เซมิคอนดักเตอร์ในอาเซียน
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยผลการเยือนประเทศอินเดีย ระหว่างวันที่ 24 – 27 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งคณะบีโอไอได้ลงพื้นที่เจรจาธุรกิจในสองเมืองใหญ่ คือ ไฮเดอราบัด และมุมไบ โดยมีเป้าหมายหลักในการเชื่อมความร่วมมือและเชิญชวนนักลงทุนรายใหญ่ใน 3 อุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง ได้แก่ อุตสาหกรรมยาและอุปกรณ์การแพทย์, อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและพาณิชย์, และอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ รวม 15 บริษัทชั้นนำของอินเดีย
เปิดดีล “Medical Hub” – ดึงทุนผลิตยาและอุปกรณ์การแพทย์
บีโอไอได้เจรจาอย่างใกล้ชิดกับผู้นำในอุตสาหกรรมยาและอุปกรณ์การแพทย์ของอินเดีย โดยเน้นนำเสนอศักยภาพของไทยในฐานะ ศูนย์กลางด้านการแพทย์ (Medical Hub) ของภูมิภาค พร้อมมาตรการส่งเสริมและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ โดยมีความคืบหน้าสำคัญกับบริษัทชั้นนำ อาทิ
- Sahajanand Medical Technologies (SMT) ผู้ผลิตอุปกรณ์การแพทย์เพื่อรักษาโรคหัวใจอันดับ 1 ของอินเดีย เตรียมลงทุนผลิต ลิ้นหัวใจเทียมและขดลวดถ่าง (Stent) ในไทย พร้อมตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D Center)
- MSN Laboratories หนึ่งในผู้ผลิตยารายใหญ่ของโลก มีแผนตั้งศูนย์วิจัยในไทยเพื่อพัฒนายาและขยายตลาดในภูมิภาคอาเซียน
- ACG Capsules ผู้นำด้านการผลิตแคปซูลยาและเครื่องจักรบรรจุยา ลงทุนกว่า 2,100 ล้านบาท สร้างโรงงานผลิตแคปซูลเจลาตินและแคปซูลพืชในจังหวัดระยอง และเตรียมตั้งศูนย์วิจัยในไทย
- Natural Remedies บริษัทผู้ผลิตอาหารเสริมสมุนไพรสำหรับปศุสัตว์อันดับ 1 ของอินเดีย วางแผนร่วมมือวิจัยกับมหาวิทยาลัยและบริษัทผลิตเนื้อสัตว์ชั้นนำของไทย เช่น ซีพี, เบทาโกร, สหฟาร์ม เพื่อยกระดับคุณภาพและความปลอดภัยของอาหารสัตว์
ดึง TATA Motor ปั้นฐานผลิต EV-Commercial Vehicle
อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญ คือ การเจรจากับ TATA Motor ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของอินเดีย ที่กำลังมองหาโอกาสขยายการลงทุนด้าน รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และ รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ (รถบรรทุกและรถบัส) ในต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาด รถยนต์พวงมาลัยขวา ซึ่งตรงกับโครงสร้างตลาดของไทยและอาเซียน
TATA Motor ยังได้ดึงผู้บริหารอินเดียที่มีประสบการณ์บริหารงานในค่ายรถยนต์รายใหญ่ของไทย ให้กลับมาดูแลการขยายธุรกิจรถยนต์นั่งของกลุ่ม TATA ในตลาดโลกด้วย ถือเป็นสัญญาณบวกที่อาจทำให้ไทยกลายเป็น ฐานผลิต-ส่งออก EV และรถเชิงพาณิชย์ ในอนาคต
ปูทางไทยเป็น “Silicon Valley แห่งอาเซียน”
ในกลุ่ม เซมิคอนดักเตอร์ คณะบีโอไอได้หารือกับ สมาคมอิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์อินเดีย (IESA) ซึ่งมีสมาชิกกว่า 400 บริษัท พร้อมเสนอแผนจัดตั้ง Board Semiconductor Thailand และแผนพัฒนาบุคลากรด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง โดยมีแผนจัดกิจกรรม Roadshow ร่วมกันในเมือง บังกาลอร์ ศูนย์กลางเซมิคอนดักเตอร์โลก ในเดือนตุลาคมนี้
นอกจากนี้ บีโอไอยังเจรจาแผนลงทุนกับ Tessolve Semiconductor บริษัทระดับโลกที่ให้บริการออกแบบและทดสอบชิป (IC Design & Testing) โดย Tessolve มีแผนตั้ง ศูนย์ทดสอบชิป และ ศูนย์วิศวกรรม ในไทยภายในปีนี้ รองรับความต้องการของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ยุคใหม่
10 ปีที่ผ่านมา อินเดียลงทุนในไทยแล้วกว่า 13,000 ล้านบาท ข้อมูลย้อนหลังระบุว่า ในช่วงปี 2558 – 2567 นักลงทุนอินเดียยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนในไทยแล้ว 161 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 13,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่ลงทุนใน อุตสาหกรรมยา, อุปกรณ์การแพทย์, เคมีภัณฑ์ และเครื่องประดับ
นายนฤตม์ กล่าวทิ้งท้ายว่า
“อินเดียถือเป็น หนึ่งในมหาอำนาจเศรษฐกิจโลก และเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีหลายสาขา การเยือนอินเดียครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเชิญชวนนักลงทุน แต่คือการเชื่อมโยง เทคโนโลยีขั้นสูงและเงินทุน เข้ากับศักยภาพของไทย เพื่อปูทางสู่การเป็นศูนย์กลาง การผลิต วิจัย พัฒนา และโลจิสติกส์ ของภูมิภาค รวมถึงสร้างโอกาสในการพัฒนาบุคลากรและเศรษฐกิจไทยในระยะยาว”
ปัจจุบัน TATA Motors ในประเทศไทย มีการดำเนินธุรกิจผ่านบริษัท TATA Motors (Thailand) Limited เริ่มเข้ามาทำตลาดในไทยตั้งแต่ปี 2551 (2008) โดยช่วงแรกโฟกัสที่ รถกระบะเพื่อการพาณิชย์ รุ่น TATA Xenon ซึ่งเป็นกระบะราคาประหยัด แข็งแกร่ง เน้นกลุ่มลูกค้าธุรกิจและกลุ่มฟลีทรถขนส่ง
สรุปสถานะปัจจุบัน
✅ มีสำนักงานและเครือข่ายผู้จำหน่ายในไทย
✅ ขายรถเชิงพาณิชย์ขนาดเล็ก-กลาง เช่น TATA Xenon, รถบรรทุกขนาดเล็ก
✅ ยังไม่มีโรงงานผลิตในไทย — ใช้นำเข้าจากอินเดียเป็นหลัก
✅ มีฐานลูกค้าหลักเป็นกลุ่มขนส่ง, ฟลีท, ธุรกิจ SME
✅ ปัจจุบันยอดขายไม่ได้โดดเด่นมากนัก เนื่องจากแข่งขันกับเจ้าตลาดอย่าง Toyota, Isuzu, Mitsubishi
✅ เคยมีความพยายามขยายตลาดรถยนต์นั่ง แต่ยังไม่สำเร็จ
การเจรจากับ BOI ครั้งนี้ ถือเป็นสัญญาณสำคัญ ว่า TATA Motors อาจ กลับมาเล่นใหญ่ในไทยอีกครั้ง โดยเปลี่ยนเกมจาก “รถกระบะราคาประหยัด” → ไปสู่ EV และรถเชิงพาณิชย์ยุคใหม่ พร้อมตั้ง ฐานการผลิต รองรับทั้งตลาดในประเทศและส่งออกอาเซียน
เปิดราคา 734,000 – 923,000 บาทในอินเดีย TATA Curvv EV 502 – 585 กม./ชาร์จ
เปิดขายอินเดีย 713,000 บาท TATA Safari ไมเนอร์เช้นจ์ SUV 6 ที่นั่ง ดีเซลเทอร์โบ 170 แรงม้า