Tesla ช็อกตลาด! รายได้วูบ กำไรร่วง 71% Q1 2025 Elon เตรียมแผนพลิกเกมด้วยรถ EV ราคาประหยัด

สรุปข่าวผลประกอบการ Tesla ไตรมาส 1 ปี 2025
รายได้และกำไรตกหนัก
- รายได้รวม: ลดจาก 21.3 พันล้าน หรือ 715,000 ล้านบาท → 19.3 พันล้านดอลลาร์ หรือ 648,000 ล้านบาท (-9.4%)
- รายได้จากการขายรถ: ลดจาก 17.3 พันล้าน หรือ 581,000 ล้านบาท → 13.9 พันล้านดอลลาร์ หรือ 467,000 ล้านบาท (-19.6%)
- กำไรสุทธิ: ลดฮวบจาก 1.39 พันล้านหรือ 46,723 ล้านบาท → 409 ล้านดอลลาร์ หรือ 13,748 ล้านบาท (-71%)
สาเหตุหลัก
- ยอดส่งมอบรถลดลง 13% เหลือ 336,681 คัน
- โรงงานอยู่ระหว่างปรับไลน์ผลิต Model Y รุ่นใหม่
- ราคาขายเฉลี่ยต่อคันลดลง
- ปัญหาห่วงโซ่อุปทาน + ความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้า
ข่าวดีที่ซ่อนอยู่
- เตรียมเปิดตัว “รุ่นราคาถูก” ในครึ่งแรกของปี 2025 ใช้ชิ้นส่วนร่วมกับแพลตฟอร์มปัจจุบัน
- Cybercab เริ่มผลิตปี 2026
- Roadster รุ่นใหม่ อยู่ในขั้น “ออกแบบพัฒนา” แล้ว (หลังรอมา 7.5 ปี)
Musk กลับมามีบทบาทมากขึ้น
- ลดบทบาทจาก DOGE (Department of Government Efficiency)
- หันมาทุ่มเทให้ Tesla มากขึ้น
สรุปสั้น: รายได้ร่วง กำไรหาย แต่ยังมีหวังจากรุ่นใหม่ราคาถูก + Elon กลับมาคุมเกมเต็มตัว
หลังจากไตรมาสแรกที่ไม่ค่อยสดใสนัก ซึ่งยอดขายทั่วโลกของ Tesla ลดลงอย่างชัดเจน บริษัทก็ได้รายงานผลประกอบการสำหรับช่วงเวลาเดียวกัน และก็ไม่น่าแปลกใจนักที่ผลลัพธ์ไม่สวยงาม รายได้ลดลงต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งไม่ใช่แค่ยอดขายที่ชะลอตัวเท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบจากความไม่แน่นอนในอุตสาหกรรมต่างๆ และปัญหาในห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก
แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะเลวร้ายเสียหมด เพราะ Tesla ยืนยันว่ากำลังจะเปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่ราคาจับต้องได้มากขึ้น
เริ่มต้นที่ตัวเลขกันก่อน
ในไตรมาส 1 ของปีนี้ รายได้รวมของ Tesla ลดลงเหลือ 19.3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งลดลง 9.4% จาก 21.3 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1 ปี 2024 และเมื่อเทียบกับไตรมาส 2, 3 และ 4 ของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 25.5, 25.1 และ 25.7 พันล้านดอลลาร์ตามลำดับ ก็ยิ่งเห็นความตกต่ำชัดเจนขึ้น
รายได้จากการขายรถยนต์ก็แย่ลงไปอีก โดยลดลงจาก 17.3 พันล้านดอลลาร์ใน Q1 ปีที่แล้ว เหลือ 13.9 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสนี้ หรือลดลง 19.6% หากเทียบกับช่วงพีคในไตรมาส 3 ปี 2024 ที่อยู่ที่ 20 พันล้านดอลลาร์ ถือว่าลดลงถึง 30.5%
รายได้สุทธิก็ไม่ต่างกัน
กำไรสุทธิร่วงถึง 71% เหลือเพียง 409 ล้านดอลลาร์ จาก 1.39 พันล้านดอลลาร์ใน Q1 ปี 2024 และ 2.1 พันล้านดอลลาร์ใน Q4 ปี 2024
ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์นี้?
Tesla ให้เหตุผลว่า รายได้ลดลงเพราะยอดส่งมอบรถลดลงอย่างชัดเจนในไตรมาสแรก ตามที่มีรายงานก่อนหน้านี้ว่า Tesla ส่งมอบรถได้เพียง 336,681 คัน ลดลง 13% จากปีก่อน
Tesla ยังระบุว่าสาเหตุหนึ่งเป็นเพราะการปรับปรุงโรงงานทั้ง 4 แห่งเพื่อเตรียมผลิต Model Y รุ่นใหม่ และราคาขายเฉลี่ยของรถก็ลดลงในไตรมาสที่ผ่านมา
“ความไม่แน่นอนในตลาดยานยนต์และพลังงานยังคงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่นโยบายการค้าระดับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานและต้นทุนของ Tesla และผู้เล่นรายอื่น ๆ” Tesla ระบุ “พลวัตนี้ รวมถึงทิศทางทางการเมืองที่เปลี่ยนแปลง อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่ออุปสงค์ในระยะสั้น เรายังมุ่งมั่นที่จะขยายโมเดลธุรกิจของเราด้วยการส่งมอบหุ่นยนต์อัตโนมัติในหลายรูปแบบ ซึ่งขับเคลื่อนด้วย AI ในโลกจริง เพื่อทั้งลูกค้าและใช้ในโรงงานของเราเอง”
รุ่นใหม่ราคาถูกกำลังจะมา
แม้รายได้และยอดขายจะดิ่งลง แต่ Tesla ก็มีแผนเปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่น่าจับตา โดยเฉพาะรุ่นราคาประหยัด ที่จะเริ่มผลิตในครึ่งปีแรกของปี 2025 ตามที่ Tesla เคยประกาศไว้ตั้งแต่เดือนมกราคม แม้จะมีรายงานก่อนหน้าว่าอาจล่าช้า
รายละเอียดของรุ่นราคาถูกยังมีไม่มาก แต่คาดว่าจะเป็นเวอร์ชันเรียบง่ายของ Model 3 และ Model Y โดย Tesla ระบุว่าจะใช้ทั้งชิ้นส่วนจากแพลตฟอร์มรุ่นใหม่ และของเดิม และจะผลิตในไลน์เดียวกันกับรถรุ่นปัจจุบัน
Cybercab และ Roadster ก็มา
Tesla ยังระบุว่า Cybercab จะเริ่มผลิตในปี 2026 ส่วน Roadster เจนเนอเรชันถัดไปนั้น เพิ่งขยับจาก “พัฒนา” มาอยู่ในขั้น “ออกแบบพัฒนา” เท่านั้น ยังไม่มีไทม์ไลน์ที่แน่ชัด — และต้องบอกว่า Roadster นี้เปิดตัวแนวคิดมาตั้งแต่ 7 ปีครึ่งที่แล้วแล้วนะ…
Elon Musk ถอยจาก DOGE
สุดท้าย มีข่าวเล็ก ๆ ที่อาจทำให้นักลงทุนบางคนโล่งใจ — Elon Musk จะลดบทบาทของตัวเองใน Department of Government Efficiency (DOGE) เริ่มต้นในเดือนหน้า โดยจะกลับมาโฟกัสกับ Tesla มากขึ้น หวังว่าจะสร้างเสถียรภาพให้บริษัทได้มากขึ้น …แต่ถ้ารู้จัก Elon Musk ก็คงพอเดาได้ว่า อาจยังมีเรื่องแหวกแนวตามมาอยู่ดี