TOYOTA เครื่องยนต์เทอร์โบ 2.0 ลิตร ใหม่ อาจให้กำลังถึง 600 แรงม้า ติดตั้งใน Celica และ MR2
ตามรายงานของสื่อญี่ปุ่น Best Car อ้างแหล่งข่าวภายในว่าเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรใหม่ของ TOYOTA สามารถรีดกำลังได้ถึงระดับ 600 แรงม้ายังไม่ชัดเจนว่ารถแข่งหรือรถแข่งคันใดที่แผนกแข่งรถ Toyota GR จะใช้หน่วยส่งกำลังนี้
- โตโยต้ากำลังพัฒนาเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตรและ 2.0 ลิตรใหม่สำหรับรุ่นในอนาคต
- เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จจะให้กำลัง 395 แรงม้า และสามารถเพิ่มเป็น 592 แรงม้าในรูปแบบรถแข่ง
- ดูเหมือนว่าเครื่องยนต์นี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการกลับมาของ Celica และ MR2
นอกจากรุ่นท็อปเรซซิ่งแล้วเครื่องยนต์สมรรถนะสูงรุ่นวิ่งบนถนนนี้คาดว่าจะให้กำลัง 400 แรงม้า และแรงบิด 550 นิวตันเมตร นอกจากนี้ โตโยต้ายังจะเปิดตัวรุ่นที่ใช้พลังงานต่ำด้วยกำลังเป้าหมาย 300 แรงม้า และแรงบิด 400 นิวตันเมตร พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ
หนึ่งในรถยนต์ที่เป็นไปได้คือ Toyota MR2 ที่มีข่าวว่าจะกลับมาอีกครั้ง อาจขายในญี่ปุ่นเท่านั้นงมีรายงานอีกฉบับหนึ่งจากญี่ปุ่นที่กล่าวหาว่ารถสปอร์ตจะเปิดตัวเร็วที่สุดในช่วงปลายปี 2025 ก่อนออกสู่ตลาดขายจริงช่วงปี 2026 ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่าจะติดตั้งขุามพลังจาก GR COROLLA
- Toyota MR2 คือกลุ่มรถสปอร์ตสองที่นั่ง เครื่องวางกลาง ขับเคลื่อนล้อหลังที่ผลิตโดย Toyota ตั้งแต่ปี 1984 ถึง 2007 ในสามเจเนอเรชั่น
แม้ว่าผู้ผลิตรถยนต์จะไม่ได้ให้รายละเอียดที่ชัดเจน แต่ได้เน้นย้ำว่าเครื่องยนต์ใหม่จะมีประสิทธิภาพสูง ทรงพลัง รองรับระบบไฮบริด และเข้ากันได้กับเชื้อเพลิงทางเลือก
โตโยต้าระบุโดยเฉพาะว่าเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 2.0 ลิตรใหม่จะมีกำลังมากกว่าเครื่องยนต์เทอร์โบ 2.4 ลิตรรุ่นปัจจุบัน แต่มีขนาดเล็กลงและประหยัดน้ำมันมากขึ้น ตามที่คาดการณ์ไว้ เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรจะผ่านกฎระเบียบการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดในตลาดต่างๆ ทั่วโลก
แม้ว่าการคาดเดาเกี่ยวกับการกลับมาของ MR2 อาจดูเป็นแง่ดีมากเกินไป แต่ก็ไม่ได้ไม่มีมูลความจริงเลย ในปี 2021 โตโยต้าได้เปิดตัวแนวคิดรูปลักษณ์ที่น่าประทับใจพร้อมตราสัญลักษณ์ GR ซึ่งแสดงให้เห็นสัดส่วนที่โดดเด่นชวนให้นึกถึงรถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลาง แต่ถึงตอนนี้ยังไม่มีข่าวเพิ่มเติมแต่อย่างใด
นิตยสารแนะนำว่า MR2 อาจมีการเปิดตัวอย่างจำกัดในตลาดญี่ปุ่นโดยเฉพาะ แม้ว่าข้อมูลนี้ควรคำนึงถึงเพียงเล็กน้อยก็ตาม หาก Toyota กำลังวางแผนที่จะรื้อฟื้นป้ายชื่ออันเป็นเอกลักษณ์นี้ จำกัดเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น อาจไม่คุ้มค่าสำหรับการผลิตจำหน่ายจริงๆ ดังนั้นความเป็นไปได้มากกว่าที่จะจำหน่ายทั่วโลกอาจมีขึ้น