Advertisement

Advertisement

วิ่งไฟฟ้าได้ไม่ถึง 50% ของตัวเลข TOYOTA bZ4X จากการทดสอบของต่างประเทศ

วิ่งไฟฟ้าได้ไม่ถึง 50% ของตัวเลข TOYOTA bZ4X จากการทดสอบของต่างประเทศ
Spread the love

Advertisement

Advertisement

 

TOYOTA bZ4X ครอสโอเวอร์ไฟฟ้าใหม่ ล่าสุดมีประเด็นสำหรับระยะการขับขี่ที่วัดได้น้อยกว่า 49% สำหรับการทดสอบในยุโรป การทดสอบโดยนักข่าวชาวสแกนดิเนเวีย

นักข่าวชาวสแกนดิเนเวียนิตยสาร FDM ของเดนมาร์ก ทำการทดสอบ Toyota SUV ไฟฟ้ารุ่นขับเคลื่อนสองล้อและขับเคลื่อนสี่ล้อ สำหรับรุ่นขับเคลื่อนสองล้อจะวิ่งได้ 504 กิโลเมตรต่อชาร์จ แต่สามารถเดินทางได้ 246 กม. หรือเพียง 49% ของระยะที่อ้าง

โดยรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อยิ่งแย่กว่านั้นสามารถวิ่งได้ 215 กม. (ระยะโฆษณา 461 กม.) ซึ่งเท่ากับน้อยกว่า 47% การทดสอบได้ดำเนินการในสแกนดิเนเวียในฤดูหนาว จึงแทบไม่เป็นสภาวะที่เหมาะสำหรับแบตเตอรี่ แต่เราไม่ได้ใช้อุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์ เพียง 4 องศา

ที่สำคัญกว่านั้น TOYOTA ทำช่วงไฟฟ้าได้แย่หากเทียบกับรถยนต์ที่ทางนิตยสารทดสอบ เช่น Tesla Model Y Long Range วัดได้ที่ 355 กม. เทียบกับตัวเลขอย่างเป็นทางการ 507 กม. ซึ่งหมายความว่าบรรลุ 70 เปอร์เซ็นต์ของระยะ WLTP / Mercedes EQA / Volkswagen ID.4 ก็ตามหลังอยู่ไม่ไกลนัก โดยอยู่ที่รุ่นละ 67 เปอร์เซ็นต์

Toyota GB บอกกับ Carscoops ว่า Toyota Europe และ Toyota HQ ในญี่ปุ่นกำลังดำเนินการตรวจสอบสิ่งดังกล่าว ซึ่งไม่ใช่ตัวเลขเดี่ยวๆ ซึ่งต้องรวมนับรวมกับตัวเลขจากสื่อนอร์เวย์และสวีเดน จากลูกค้าชาวนอร์เวย์  

Carscoop

Toyota bZ4X GR RENDER เปิดตัวในสหราชอาณาจักรในราคาเริ่มต้นที่ 41,950 ปอนด์ หรือประมาณ 1.79 ล้านบาท

“โตโยต้าออสเตรเลีย ออกมายืนยันว่า ความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก มีมากอย่างไม่เคยมีมาก่อน ทำให้การเปิดตัว bZ4x ในออสเตรเลียต้องเลื่อนออกไปจนถึงปี 2023” โฆษกของโตโยต้า ยืนยันกับ CarExpert

ก่อนหน้านี้ TOYOTA bZ4X ได้รับการจัดสรรในตลาดออสเตรเลีย และ พร้อมเปิดตัวช่วงปลายปี 2022 โดยตั้งเป้าแข่งขันกับ Hyundai Ioniq 5, Kia EV6 และ Tesla Model Y

สำหรับประเทศไทย ยังไม่มีข่าวออกมายืนยันว่าจะเลื่อนหรือไม่ ? เพราะบ้านเราใช้พวงมาลัยขวาเหมือนออสเตรเลีย แต่เดิมประเทศไทยจะเปิดตัวไล่เลี่ยกับ ทางออสเตรเลีย ช่วงปลายปีนี้ ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท

รุ่น FWD version มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว

  • สามารถวิ่งได้ 504 กม./ชาร์จ WLTP
  • แบตเตอรี่ Lithium-ion Battery 71.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง
  • ให้กำลังสูงสุด 201 แรงม้า
  • แรงบิตสูงสุด 266 นิวตัน-เมตร
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7.5 วินาที
  • ความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม.
  • รองรับ การชาร์จไฟ AC เครื่องชาร์จแบบเฟสเดียวขนาด 6.6 กิโลวัตต์
  • การชาร์จ DC อย่างรวดเร็ว สูงถึง 0 – 80% SOC ในเวลาประมาณ 30 นาที (โดยใช้เครื่องชาร์จ 150 kW)
  • รองรับ Voltage 355V
  • น้ำหนักตัวถัง 2,195 กก.
  • การอัปเดตซอฟต์แวร์แบบ Over-the-air (OTA)
  • แพลตฟอร์ม e-TNGA

รุ่น AWD มอเตอร์ไฟฟ้าคู่

  • วิ่งได้สูงสุด 446 กม./ชาร์จ WLTP
  • แบตเตอรี่ Lithium-ion Battery 71.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง
  • มอเตอร์ไฟฟ้า 80 กิโลวัตต์ 2 ตัว ให้กำลังสูงสุด 214 แรงม้า
  • แรงบิตสูงสุด 337 นิวตัน-เมตร
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 6.9 วินาที
  • ความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม.
  • รองรับ การชาร์จไฟ AC เครื่องชาร์จแบบเฟสเดียวขนาด 6.6 กิโลวัตต์
  • การชาร์จ DC อย่างรวดเร็ว สูงถึง 0 – 80% SOC ในเวลาประมาณ 30 นาที (โดยใช้เครื่องชาร์จ 150 kW)
  • รองรับ Voltage 355V
  • น้ำหนักตัวถัง 2,285 กก.
  • การอัปเดตซอฟต์แวร์แบบ Over-the-air (OTA)
  • แพลตฟอร์ม e-TNGA

ระบบช่วงล่าง

  • ระบบช่วงล่าง หน้า : Strut – Type Coil Spring
  • ระบบช่วงล่าง หลัง : Double Wishbone – Type Coil Spring
  • ดิส์กเบรก หน้า – หลัง

bZ4X จะเป็นรุ่นแรกที่ใช้แพลตฟอร์ม e-TNGA ใหม่ของโตโยต้า นอกจากนี้ยังเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรกที่ผลิตโดยการขยายความร่วมมือระหว่างโตโยต้า และ ซูบารุ เราคาดว่า SUV จะนำเสนอมอเตอร์ไฟฟ้าที่เพลาทั้งสองเพื่อรองรับความสามารถในการขับเคลื่อนทุกล้อ พร้อมล้ออัลลอยขนาด 18-20 นิ้ว

ขนาดตัวถัง

  • ยาว 4690 มม.
  • กว้าง 1860 มม.
  • สูง 1650 มม.
  • ฐานล้อ 2850 มม.

ภายในห้องโดยสารมาพร้อมหน้าจอสัมผัสส่วนกลางขนาดใหญ่ พร้อมระบบ Audio Multimedia เหมือนกับ 2022 Tundra รองรับระบบนำทางบนคลาวด์ และการอัปเดตแบบ over-the-air แผงหน้าปัดแบบลอย พวงมาลัย 3 ก้าน หลังคาซันรูฟขนาดใหญ่

ภายในห้องโดยสาร ภายใต้แนวคิด ” hands on the wheel, eyes on the road ” เน้นสีการออกแบบสบายตา วัสดุนุ่มเน้นการสัมผัสที่ดี ติดตั้งหน้าจอดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว ระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 12 นิ้วพร้อมคำสั่งเสียง มีพื้นที่จัดเก็บสัมภาระ 452 ลิตร

ระบบความปลอดภัย ติดตั้ง Toyota Safety Sense เจนที่ 3 พร้อม ระบบเรดาร์กับกล้อง รวมทั้ง Pre-Collision System ระบบช่วยตรวจจับรถยนต์ หรือ ยานยนต์ที่กำลังปาดหน้าอย่างรวดเร็ว ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ

ระบบช่วงล่าง ระบบกันสะเทือน ด้านหน้าเป็นแบบอิสระ Strut-type Coil Spring ด้านหลังเป็นแบบอิสระ Double Wishbone-type Coil Spring และ ระบบห้ามล้อเป็นดิสก์เบรกแบบมีครีบระบายความร้อน (Ventilated Disc) ทั้ง 4 ล้อ

ระบบบังคับเลี้ยวแบบ One Motion Grip หรือพวงมาลัยไฟฟ้า Steering by Wire สามารถลดองศาพวงมาลัยเหลือเพียง 150 องศา ทำให้เลี้ยวได้สุด lock-to-lock

วิ่งในอุณหภูมิ -10°C

City – Cold Weather * 375 km
Highway – Cold Weather * 265 km
Combined – Cold Weather * 320 km

‘กรณีที่ดีที่สุด’ ที่อุณหภูมิ 23°C และไม่มีการใช้เครื่องปรับอากาศ ระยะจริงจะขึ้นอยู่กับความเร็ว ลักษณะการขับขี่ สภาพอากาศ และสภาพเส้นทาง

between 265 – 550 km

City – Mild Weather * 550 km
Highway – Mild Weather * 340 km
Combined – Mild Weather * 425 km

TopElectricSUV , BZForums , CarExpert , นิตยสารโตโยต้า

Advertisement

Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้