
สรุปการเปลี่ยนแปลงของ Toyota C-HR 2025
-
เปิดตัวรุ่นใหม่ “High Hero”
- แทนที่รุ่น Premiere Edition
- ดีไซน์ใหม่ โดดเด่นด้วยสี Metal Oxide
- ตัวถัง bi-tone+ ให้ลุคหลังคาต่ำ เพิ่มความสปอร์ต
- ล้ออัลลอย 19 นิ้ว สีเทาด้าน
- ห้องโดยสารหรูหราด้วยสีแดง Bordeaux และวัสดุหนังกลับ
-
เปลี่ยนชื่อรุ่น “GR SPORT Premiere Edition” เป็น “GR SPORT Hero”
- ล้อใหญ่ขึ้นเป็น 20 นิ้ว
- กระจังหน้า G mesh, เบาะ GR, และตกแต่งภายใน Liquid Black
- ระบบกันสะเทือน FSC shock absorber ลดเสียงและแรงสั่นสะเทือน
-
อัปเกรดขุมพลัง
- เพิ่มตัวเลือก Hybrid 140 (1.8 ลิตร) สำหรับรุ่น High Hero
- รุ่น Plug-in Hybrid 220 (2.0 ลิตร) วิ่งไฟฟ้าได้สูงสุด 100 กม. ในเมือง
- ขุมพลังไฮบริดรุ่นที่ 5 ของโตโยต้า ให้สมดุลระหว่างพลังและความประหยัด
-
เทคโนโลยีใหม่ภายในห้องโดยสาร
- หลังคาพาโนรามา เพิ่มพื้นที่ศีรษะ +3 ซม. พร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิ
- ระบบไฟ Ambient Light 64 สี สร้างบรรยากาศและเพิ่มความปลอดภัย
- ระบบกรองอากาศ nanoeX™
-
เทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัย
- มาพร้อมระบบ Toyota T-Mate และ Toyota Safety Sense เจเนอเรชันที่ 3
- ฟีเจอร์ช่วยขับขี่และช่วยจอดอัจฉริยะ
Toyota C-HR 2025 เปิดตัวรุ่น High Hero ใหม่ โดดเด่นด้วยดีไซน์และเทคโนโลยีล้ำสมัย
- High Hero รุ่นใหม่มาแทนที่ Premiere Edition พร้อมอัปเกรดดีไซน์สุดล้ำและทางเลือกขุมพลัง Hybrid 140
- เพิ่มสี Metal Oxide ใหม่ เน้นความโดดเด่นของตัวถังแบบ bi-tone และ bi-tone+
- ขุมพลังให้เลือกทั้ง Plug-in Hybrid และ Hybrid มอบทั้งความแรงและประหยัดพลังงาน
- ผลิตในยุโรปเพื่อลูกค้าชาวยุโรป พร้อมเปิดให้สั่งจองแล้ว
Toyota C-HR 2025 ยกระดับการออกแบบที่โดดเด่นยิ่งขึ้น ด้วยการเปิดตัวรุ่น High Hero ใหม่ ที่มาพร้อมขุมพลังไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงและการออกแบบที่สะดุดตา
Toyota C-HR เป็นหนึ่งในรถที่ได้รับความนิยมสูงสุดในยุโรป ด้วยดีไซน์ที่แหวกแนว ขับสนุก และคุณภาพระดับพรีเมียม โดยมียอดขายแตะ 1 ล้านคันในช่วงปลายปี 2024
High Hero – รุ่นใหม่ที่โดดเด่นยิ่งกว่า
สำหรับปี 2025 รุ่น High Hero ได้รับการพัฒนาต่อจาก Premiere Edition โดยเน้นดีไซน์ที่ล้ำสมัย ผสมผสานความหรูหราสุดพิเศษ ตอบโจทย์ DNA ของ Toyota C-HR รุ่นที่สอง ซึ่งถูกออกแบบให้เป็น “รถคอนเซ็ปต์สำหรับท้องถนน”
ดีไซน์ของ High Hero ยกระดับความโดดเด่นด้วยตัวถังแบบ bi-tone+ ที่ใช้โทนสีดำเข้มเพิ่มความสปอร์ตและให้ลุคหลังคาที่ต่ำลงอย่างมีสไตล์ รายละเอียดอื่น ๆ ได้แก่
- กระจังหน้าและกันชนหลังที่ใช้สีเดียวกับตัวถัง
- ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว สีเทาด้าน (matt grey)
- สีพิเศษ Metal Oxide ที่ให้มิติความลึกและเปลี่ยนเฉดสีได้ตามแสง
ภายในสุดพรีเมียม สะท้อนความสปอร์ตหรูหรา
ห้องโดยสารของ High Hero ได้รับการอัปเกรดด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์และหนังกลับสี แดง Bordeaux ตัดเย็บด้วยลวดลายสวยงาม พร้อมรายละเอียดพรีเมียมอื่น ๆ เช่น
- คันเกียร์ Liquid Black
- แผงประตูหุ้มหนังกลับสุดหรู
- หลังคาพาโนรามา เพิ่มพื้นที่ศีรษะ 3 ซม. พร้อมเทคโนโลยีป้องกันความร้อนและช่วยเก็บความอบอุ่น
- ระบบไฟ Ambient Light 64 สี สร้างบรรยากาศสุดพรีเมียม พร้อมการแจ้งเตือนด้านความปลอดภัย
- เทคโนโลยีฟอกอากาศ nanoeX™
GR SPORT Hero – เสริมความสปอร์ตสุดขีด
รุ่น GR SPORT Premiere Edition ได้รับการรีแบรนด์เป็น GR SPORT Hero พร้อมอัปเกรดให้มีเอกลักษณ์ยิ่งขึ้น โดยยังคงจุดเด่นมอเตอร์สปอร์ตไว้ครบถ้วน เช่น
- ระบบกันสะเทือน FSC shock absorber ช่วยปรับการขับขี่ตามสภาพถนน
- ล้อขนาด 20 นิ้ว ดีไซน์พิเศษ
- กระจังหน้าลาย G mesh, ตราสัญลักษณ์ GR, และเบาะนั่งสปอร์ตพร้อมโลโก้ GR
- ภายในตกแต่งด้วย Liquid Black พร้อม Head-up Display และระบบเสียง JBL ระดับพรีเมียม
ขุมพลังไฟฟ้าแรงแต่ประหยัด
Toyota C-HR 2025 ใช้เทคโนโลยีไฮบริดรุ่นที่ 5 ของโตโยต้า มอบสมดุลระหว่างพละกำลังและการปล่อยมลพิษต่ำ โดยมีตัวเลือกดังนี้
- Plug-in Hybrid 220 (2.0 ลิตร) – วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน 66 กม. (WLTP) หรือสูงสุด 100 กม. ในเมือง
- Hybrid 200 (2.0 ลิตร) – ประสิทธิภาพสูง
- Hybrid 140 (1.8 ลิตร) – ตัวเลือกเพิ่มเติมในรุ่น High Hero
เทคโนโลยีความปลอดภัย Toyota T-Mate
Toyota C-HR ทุกรุ่นมาพร้อม Toyota Safety Sense รุ่นที่ 3 ซึ่งมีฟีเจอร์ช่วยขับขี่และความปลอดภัยขั้นสูง รวมถึงระบบช่วยจอดและช่วยขับขี่ในสภาพการจราจรที่หนาแน่น
Toyota C-HR 2025 พร้อมให้ลูกค้าทั่วยุโรปเป็นเจ้าของแล้ววันนี้!