All-NEW TOYOTA COROLLA ใหม่ ปลั๊กอินไฮบริด เตรียมเปิดตัวในอีกไม่กี่ปี * ภาพในจินตนาการ

All-NEW TOYOTA COROLLA ใหม่ ปลั๊กอินไฮบริด เตรียมเปิดตัวในอีกไม่กี่ปี * ภาพในจินตนาการ
Spread the love

Advertisement

Advertisement

behance

Whichcar.com.au

 

 

โตโยต้าเตรียมเปิดตัวโคโรลลารุ่นที่ 13 ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026 หรืออาจเป็นรุ่น 2027 ในตลาดอเมริกาเหนือ โดยมีการอัปเกรดหลายอย่างที่น่าตื่นเต้น รวมถึงการเพิ่มตัวเลือกเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของโคโรลลา

ในส่วนของเครื่องยนต์ใหม่ คาดว่าโคโรลลารุ่นใหม่จะใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตรในหลายรูปแบบ โดยเครื่องยนต์ที่ไม่มีระบบอัดอากาศจะสามารถให้กำลังได้ประมาณ 128 แรงม้า ส่วนเครื่องยนต์ที่ใช้เทอร์โบอาจให้กำลังสูงสุดถึง 178 แรงม้า นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่าอาจมีตัวเลือก GR Corolla ที่มีกำลังสูงถึง 400 แรงม้า จากเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ซึ่งยังไม่ยืนยันจากโตโยต้า แต่ก็มีความเป็นไปได้สูง

ดีไซน์ของโคโรลลารุ่นใหม่จะมีลักษณะที่ทันสมัย โดยได้รับแรงบันดาลใจจากการออกแบบที่โดดเด่นของโตโยต้า เช่น กระจังหน้ารูปแบบ “hammerhead” ที่ยาวขึ้น, ไฟหน้าทรงแหลม, และการออกแบบกันชนหน้าให้ดูสปอร์ตมากขึ้น ในด้านหลังจะมีการออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจจาก Toyota Crown เช่น ไฟท้ายแบบกว้างเต็มหน้ากระโปรงท้าย (full-width taillights) และดีไซน์ของฝากหลังที่มีความโค้งมน แม้ว่าภาพเรนเดอร์ที่มีการเผยแพร่ในตอนนี้จะใช้ที่จับประตูแบบดั้งเดิม แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่โตโยต้าอาจใช้ตัวเลือกที่จับประตูที่มีการออกแบบอากาศพลศาสตร์มากขึ้น ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก Toyota C-HR

ในส่วนของภายในห้องโดยสาร คาดว่าโคโรลลาจะได้รับการปรับปรุงให้มีจอแสดงผลขนาดใหญ่ขึ้นและการเชื่อมต่อที่ดีขึ้น พร้อมกับระบบช่วยขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ที่อาจจะเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น

รถยนต์โคโรลลารุ่นใหม่จะยังคงใช้แพลตฟอร์ม TNGA-C ซึ่งใช้ร่วมกับรุ่นอื่นๆ เช่น C-HR, Corolla Cross และ Prius โดยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือการเพิ่มตัวเลือกเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ซึ่งจะเป็นครั้งแรกของรุ่นโคโรลลา

สำหรับการเปิดตัวนั้น โคโรลลารุ่นที่ 12 ซึ่งเปิดตัวในปี 2018 และได้รับการปรับโฉมเล็กน้อยในปี 2022 จะมีระยะเวลาการผลิตค่อนข้างยาว ดังนั้นโคโรลลารุ่นที่ 13 อาจจะเปิดตัวในปี 2026 โดยจะเป็นหนึ่งในรุ่นที่โตโยต้าจะนำเสนอในตลาดทั่วโลก และอาจจะมีการเปิดตัวพร้อมกับการเผยโฉม RAV4 ใหม่ในปีนี้ ซึ่งอาจเป็นการบ่งชี้ทิศทางการออกแบบของโตโยต้าในอนาคต

เจเนอเรชันของ Toyota Corolla

  • รุ่นที่ 1 (E10): 1966–1970
  • รุ่นที่ 2 (E20): 1970–1974
  • รุ่นที่ 3 (E30, E40, E50, E60): 1974–1979
  • รุ่นที่ 4 (E70): 1979–1983
  • รุ่นที่ 5 (E80): 1983–1987
  • รุ่นที่ 6 (E90): 1987–1991
  • รุ่นที่ 7 (E100): 1991–1995
  • รุ่นที่ 8 (E110): 1995–2000
  • รุ่นที่ 9 (E120, E130): 2000–2006
  • รุ่นที่ 10 (E140, E150): 2006–2012
  • รุ่นที่ 11 (E160, E170, E180): 2012–2019
  • รุ่นที่ 12 (E210): 2018–ปัจจุบัน

รอบการปรับโฉมครั้งสำคัญของ toyota Corolla Altis เจนที่ 12 ไปเป็นเจนที่ 13 กำลังมาถึง หลังจากเปิดตัวตั้งแต่ปี 2018 – ปัจจุบันระยะเวลากว่า 6 ปีและจะเข้าปีที่ 7 แน่นอนว่าการปรับโฉมในปีนี้จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนสำหรับรถยนต์ยอดนิยมอย่าง Corolla

  • รอบการปรับโฉมของ Corolla ประมาณ 5 – 6 ปี

ระบบความปลอดภัย TSS 3.0 Intelligent Driving Safety Assist 

  • Pre-Collision System (PCS) ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนและช่วยเบรกอัตโนมัติ ทำงานโดยใช้กล้องและเรดาร์ที่ด้านหน้ารถ เพื่อตรวจจับวัตถุที่อาจชนกับรถ หากระบบตรวจพบวัตถุที่อาจชน ระบบจะส่งสัญญาณเตือนให้คนขับทราบ และหากคนขับไม่ตอบสนอง ระบบจะทำการเบรกอัตโนมัติเพื่อลดความรุนแรงของการชน
  • Dynamic Radar Cruise Control (DRCC) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันตามระยะห่าง ทำงานโดยใช้เรดาร์ที่ด้านหน้ารถ เพื่อตรวจจับรถคันหน้า หากระบบตรวจพบรถคันหน้า ระบบจะปรับความเร็วของรถให้คงระยะห่างที่ปลอดภัย
  • Lane Departure Alert with Steering Assist (LDA with SA)** ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมช่วยบังคับพวงมาลัย ทำงานโดยใช้กล้องที่ด้านหน้ารถ เพื่อตรวจจับเส้นแบ่งเลน หากระบบตรวจพบว่ารถกำลังออกนอกเลน ระบบจะส่งสัญญาณเตือนให้คนขับทราบ และหากคนขับไม่ตอบสนอง ระบบจะทำการบังคับพวงมาลัยเพื่อนำรถกลับเข้าเลน
  • Automatic High Beam (AHB)** ระบบไฟสูงอัตโนมัติ ทำงานโดยใช้กล้องที่ด้านหน้ารถ เพื่อตรวจจับแสงของรถคันหน้า หากระบบตรวจพบว่ารถคันหน้ากำลังมีไฟสูง ระบบจะปรับไฟหน้าของรถจากไฟสูงเป็นไฟต่ำโดยอัตโนมัติ
  • Lane Tracing Assist (LTA)** ระบบควบคุมรถให้วิ่งตามแนวเส้นแบ่งเลน ทำงานโดยใช้กล้องที่ด้านหน้ารถ และเซ็นเซอร์เรดาร์ที่ด้านข้างรถ เพื่อตรวจจับเส้นแบ่งเลน หากระบบตรวจพบว่ารถกำลังวิ่งออกนอกเลน ระบบจะทำการบังคับพวงมาลัยเพื่อนำรถกลับเข้าเลน
  • Blind Spot Monitor (BSM)** ระบบเตือนจุดอับสายตา ทำงานโดยใช้เซ็นเซอร์เรดาร์ที่ด้านข้างรถ เพื่อตรวจจับรถที่อยู่ด้านข้างหรือด้านหลังรถ หากระบบตรวจพบรถที่อยู่ในจุดอับสายตา ระบบจะส่งสัญญาณเตือนให้คนขับทราบ
  • Rear Cross Traffic Alert (RCTA)** ระบบเตือนเมื่อมีรถวิ่งผ่านด้านหลังขณะถอยรถ ทำงานโดยใช้เซ็นเซอร์เรดาร์ที่ด้านหลังรถ เพื่อตรวจจับรถที่กำลังวิ่งผ่านด้านหลังรถ หากระบบตรวจพบรถที่กำลังวิ่งผ่านด้านหลังรถ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนให้คนขับทราบ
  • Automatic Emergency Braking (AEB)** ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ทำงานโดยใช้กล้องและเรดาร์ที่ด้านหน้ารถ เพื่อตรวจจับวัตถุที่อาจชนกับรถ หากระบบตรวจพบวัตถุที่อาจชน ระบบจะทำการเบรกอัตโนมัติเพื่อลดความรุนแรงของการชน

Carscoop

burlappcar

Advertisement

Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้