Advertisement

Advertisement

TOYOTA ทุ่มเงินกว่า 4.4 แสนล้านบาท เพื่อพัฒนาแบตเตอรี่ไฟฟ้า พร้อมดันรถยนต์ EV ภายในปี 2030

TOYOTA ทุ่มเงินกว่า 4.4 แสนล้านบาท เพื่อพัฒนาแบตเตอรี่ไฟฟ้า พร้อมดันรถยนต์ EV ภายในปี 2030
Spread the love

Advertisement

Advertisement

โตโยต้าทุ่มเงินมากกว่า 440,000 ล้านบาท หรือ 13.5 พันล้านดอลลาร์ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2030

โตเกียว 7 ก.ย. (รอยเตอร์) – Toyota Motor Corp กล่าวเมื่อวันอังคารว่าคาดว่าจะใช้เงินมากกว่า 13.5 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030 สำหรับการพัฒนาแบตเตอรี่ไฟฟ้า เพื่อเป็นผู้นำในเทคโนโลยียานยนต์ใหม่ ในทศวรรษหน้า

เป็นที่ทราบกันมานานแล้วว่า Toyota ไม่ได้สนใจแนวคิดรถยนต์ไฟฟ้า EVs เป็นอนาคตของพวกเขา แม้ว่าปัจจุบันจะมีแบรนด์ย่อยในชื่อ bZ แต่นั้นเป็นเพียงรถต้นแบบไฟฟ้า

และ โตโยต้า ไม่เต็มใจที่จะสร้างรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่เป็นทางเลือกในอนาคต พวกเขาเป็นเพียงแบรนด์รถยนต์กระแสหลัก ไม่กี่เจ้าที่ให้ความสนใจในพลังงานเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนแก่สาธารณชน นอกจากนี้ พวกเขายังเน้นย้ำว่าต้นทุนระยะยาวของรถยนต์ไฟฟ้าสูงมาก

แต่ทั้งหมดกำลังเปลี่ยนไป หลังจากการลงทุนครั้งใหญ่ในแบตเตอรี่ไฟฟ้า โตโยต้ากล่าวว่ามีเป้าหมายลดต้นทุนของแบตเตอรี่รถยนต์ลงกว่า 30%

Masahiko Maeda ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีกล่าวในการบรรยายสรุปโดยระบุว่า รุ่นคอมแพคเอสยูวีไฟฟ้ากำลังจะมาเร็วๆนี้ แน่นอนว่าต้องเป็นซีรีย์ bZ

TOYOTA ยังคงพัฒนา และ พยายามจะเป็นผู้นำในเทคโนโลยีแบตเตอรี่โซลิดสเตต ซึ่งจะเป็นตัวเปลี่ยนเกมรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต แต่ตอนนี้ยังคงพัฒนาอีกไกล

ความพยายามในการผลิตแบตเตอรี่โซลิดสเตตจำนวนมาก ต้องสะดุดเนื่องจากมีราคาแพงในการผลิต และมีแนวโน้มที่ไม่คุ้มทุน

Volkswagen (VOWG_p.DE) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับสองของโลกกล่าวเมื่อวันอังคารว่าอาจต้องใช้เงินมากขึ้นเพื่อ การเปลี่ยนแปลงไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า EVs และระบบขับขี่อัตโนมัติ บริษัทสัญชาติเยอรมันซึ่งวางแผนจะลงทุน 150 พันล้านยูโร ในธุรกิจเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้า

โตโยต้า พยายามเพิ่มระบบส่งกำลังไฟฟ้าอย่าง PHEV และ Hybrid ในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ก่อนก้าวไปสู่การปรับโฉมไฟฟ้าแบบค่อยๆพัฒนา

สัญลักษณ์ “bZ” ซึ่งย่อมาจาก Beyond Zero อาจจะเป็นแบรนด์ย่อยใหม่ของโตโยต้า แนวคิดนี้เผยโฉมครั้งแรกในงาน Shanghai Auto Show 2021 เมื่อเมษายนที่ผ่านมา

และ แนวคิด bZ4X สำหรับเวอร์ชั่นจำหน่ายจริง ซึ่งวางจำหน่ายทั่วโลก รวมทั้งสหรัฐอเมริกาในปีหน้า จะไม่แตกต่างจากต้นแบบมากนัก

เราคาดว่า bZ4X จะวิ่งได้ไกลประมาณ 320 – 482 กม./ชาร์จ และ มีความสามารถในการชาร์จเร็ว ที่จะเทียบชั้นคู่แข่งโหดๆ อย่าง Hyundai Ioniq 5, Volkswagen ID4 และ Ford Mustang Mach-E

bZ4X จะเป็นรุ่นแรกที่ใช้แพลตฟอร์ม e-TNGA ใหม่ของโตโยต้า นอกจากนี้ยังเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรกที่ผลิตโดยการขยายความร่วมมือระหว่างโตโยต้า และ ซูบารุ เราคาดว่า SUV จะนำเสนอมอเตอร์ไฟฟ้าที่เพลาทั้งสองเพื่อรองรับความสามารถในการขับเคลื่อนทุกล้อ

แพลตฟอร์ม e-TNGA มีความยืดหยุ่นสูง สามารถรองรับรถยนต์ได้หลากหลายทั้ง ครอสโอเวอร์ขนาดเล็ก / SUV ขนาดใหญ่ / ซีดาน / MPV

ในระยะยาว TOYOTA จะนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดกว่า 15 รุ่น ภายในปี 2568 บนซีรีย์ bZ และ โตโยต้ามั่นใจว่ารถยนต์กว่า 70 รุ่นจะเป็นพลังงานไฟฟ้าทั้ง BEV , PHEV และเราคงได้เห็นกระบะไฮบริด ปลั๊กอินไฮบริด และ ไฟฟ้า ในเร็วๆนี้

https://www.car250.com/bz-toyota.html

รอยเตอร์

Advertisement

Advertisement

ใส่ความเห็น

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้