Advertisement

Advertisement

Toyota Mirai FCV แต่งพิเศษ Modellista

Toyota Mirai FCV แต่งพิเศษ  Modellista
Spread the love

Advertisement

Advertisement

Modellista ก่อตั้งขึ้นในปี 1997 เน้นการออกแบบชุดแต่งพรีเมี่ยมให้แก่ Toyota Daihatsu kei ไปจนถึง Lexus LS และล่าสุดทางแบรนด์ได้เผยภาพชุดแต่งพิเศษสำหรับ Toyota Mirai FCV เจนที่ 2

Mirai เจนที่ 2 หรือ รถเซลล์เชื้อเพลิงที่ขับเคลื่อนด้วยไฮโดรเจน FCV พัฒนาตั้งแต่ปี 1990 ด้วยการตั้งเป้า ที่จะลดต้นทุนการผลิตไฮโดรเจนลง 90 เปอร์เซ็นต์ และมีราคาถูกกว่าก๊าซธรรมชาติ

ชุดแต่งพิเศษ Modellista สำหรับ Mirai เน้นการตกแต่งเรียบหรูสปอร์ต ด้วยชุดสเกิร์ตใหม่รอบคัน กระจกมองงข้างครอบดำ ตกแต่งโครเมี่ยม มือจับประตูภายนอกโครเมี่ยม สเกิร์ตหน้า สเกิร์ตข้าง และ สเกิร์ตหลัง



https://www.youtube.com/watch?v=tv_678sk_wg&feature=emb_title&ab_channel=%E3%83%88%E3%83%A8%E3%82%BF%E3%83%81%E3%83%A3%E3%83%B3%E3%83%8D%E3%83%AB

เปิดตัวอย่างเป็นทางการ Toyota Mirai FCV เจนที่ 2 เป็นเวอร์ชันปรับปรุงใหม่ วันที่ 9 ธันวาคม 2020

  • Toyota Mirai Concept พัฒนาบนแพล็ตฟอร์ม TNGA ที่มีความยาวความกว้างและความสูง 4,975 × 1,885 × 1,470 มม. และระยะฐานล้อ 2,920 มม.
  • ปรับปรุงเทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิงให้ช่วงที่ใหญ่กว่าถึง 30% พร้อมการเร่งความเร็วและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น

มีทั้งหมด 5 รุ่นย่อยเริ่ม 7,100,000 – 8,050,000 เยน หรือประมาณ 2.0 -2.32 ลบ. ยังไม่รวมภาษีบ้านเรา (รุ่นเริ่มต้น 750 กม./ถัง)

MIRAI ขายได้ตั้งแต่ปี 2014 ในฐานะซีดานเซลล์เชื้อเพลิงที่มีขายในท้องตลาดเป็นครั้งแรกของโตโยต้า มีการประกาศโมเดลแนวคิดใหม่ที่งานโตเกียวมอเตอร์โชว์ในปี 2019 แต่สำหรับโมเดลใหม่ใกล้จะเปิดตัวทุกที และเป็นการเปลี่ยนครั้งสำคัญครั้งแรกในรอบ 6 ปี

รุ่นต่อไปจะใช้แพลตฟอร์ม “TNGA-L” ระบบขับเคลื่อนจะเปลี่ยนจากระบบขับเคลื่อนล้อหน้าไปเป็นระบบขับเคลื่อนล้อหลังฐานล้อจะขยายจาก 2780 มม. เป็น 2920 มม. และความจุผู้โดยสารจะเปลี่ยนจาก 4 เป็น 5 คน

การเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะด้านหน้า ช่องลมบริเวณไฟตัดหมอกออกแบบใหม่ใหญ่ขึ้น นอกจากนี้ตะแกรงด้านล่างยังมีการออกแบบให้มีขนาดเล็กลงเล็กน้อยซึ่งปรับสมดุลกับ diffuser ด้านข้าง ล้ออัลลอยสีดำ 19 นิ้ว และ 20 นิ้วเป็นอุปกรณ์เสริม

ภายในห้องโดยสารมาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Android Auto ™, Apple CarPlay®และ Amazon Alexa ลำโพง JBL 14 ตัวรวมซับวูฟเฟอร์ มาตรวัดดิจิตอล TFT LCD สีขนาด 8 นิ้ว จอแสดงผลแบบสี (HUD) พร้อมมาตรวัดความเร็วและระบบนำทางระบบควบคุมสภาพอากาศอัตโนมัติแบบสามโซน กล้อง Bird’s Eye View

ระบบเซลล์เชื้อเพลิงรุ่นใหม่มาใช้และถังไฮโดรเจนได้รับการออกแบบใหม่ เพิ่มกำลังการวิ่งจาก 650 กม. เป็น 850 กม. ประกอบด้วยเซลล์เชื้อเพลิงและมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลัง 180 แรงม้า แรงบิต 300 นิวตัน-เมตร ความเร็วสูงสุด 175 กม./ชม. ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ภายในห้องโดยสารนั้นมีระบบอินโฟเทนเมนต์กว้างขนาด 12.3 นิ้ว

สำหรับอุปกรณ์ความปลอดภัยนั้นจะติดตั้ง Toyota Safety Sense 2.5+ รุ่นล่าสุดและจะเป็นรถยนต์ที่เชื่อมต่อพร้อมกับอุปกรณ์สื่อสารในรถยนต์ “DCM” (โมดูลการสื่อสารข้อมูล) เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

  • LANE DEPARTURE ALERT ระบบเตือนออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ
  • PRE-COLLISION SYSTEM ระบบความปลอดภัยก่อนการชน
  • DYNAMIC RADAR CRUISE CONTROL ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ ควบคุมความเร็วให้คงที่ พร้อมตรวจจับวัตถุหน้ารถด้วยเรดาร์
  • AUTOMATIC HIGH BEAMS ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ
  • Road sign assist หรือ RSA ระบบอ่านป้ายจราจร
  • Lane Tracing Assist (LTA) ระบบช่วยบังคับควบคุมรถให้อยู่ในเลนอัตโนมัติ

อีกหนึ่งผลงานการออกแบบ และนวัตกรรมใหม่ของโตโยต้า คงหนีไม่พ้นเจ้ารถยนต์ Toyota Mirai Concept และเป็นรถยนต์ไฟฟ้าไฮโดรเจนเซลล์ รุ่นที่ 2 ได้อวดโฉมอย่างเป็นทางการภายในงาน 2019 Tokyo Motor Show เมื่อ 23 ตุลาคม ที่ผ่านมา

  • Toyota Mirai Concept พัฒนาบนแพล็ตฟอร์ม TNGA ที่มีความยาวความกว้างและความสูง 4,975 × 1,885 × 1,470 มม. และระยะฐานล้อ 2,920 มม.
  • ปรับปรุงเทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิงให้ช่วงที่ใหญ่กว่าถึง 30% พร้อมการเร่งความเร็วและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น

Toyota Mirai Concept FCEV รุ่นที่ 2 ยังเป็นรถยนต์ต้นแบบเช่นเคย พร้อมการออกแบบใหม่ กระจังหน้าขยายใหญ่ขึ้น ชุดไฟหน้าแบบ LED คมชัดกว่าเดิม ล้ออัลอลูมิเนียมขนาดใหญ่ 20 นิ้ว และ Force Blue Multiple Layers (สีตัวถังใหม่ น้ำเงินเข้ม )

ภายในห้องโดยสารคุมโทนดำ เบาะหนังสีดำเดินด้ายทอง เดินเส้นโลหะสีทองบริเวณคอนโซล และแผงประตู พวงมาลัยสามก้าน หน้าปัดดิจิตอล 8 นิ้ว และ หน้าจอสัมผัสตรงกลางขนาด 12.3 นิ้ว

Toyota Mirai Concept FCEV ปรับปรุงระบบเซลล์ใหม่น่าจะเพิ่มความจุจัดเก็บไฮโดรเจนอีก 30% หรือมากว่ารุ่นก่อนคือ 650 กิโลเมตรต่อถัง แม้ว่าเทคโนโลยี FCEV ในบ้านเราจะอีกห่างไกล แต่เป็นอีกพลังงานทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย หากหั่นต้นทุนให้ถูกลงกว่านี้

Pressroom.toyota.com/2

Advertisement

Advertisement

ใส่ความเห็น

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้