TOYOTA , NISSAN , อื่นๆ ร่วมผลิตแบตเตอรี่ จากการสนับสนุนรัฐบาลญี่ปุ่น ลงทุนกว่า 235,000 ล้านบาท
วันที่ 6 กันยายน 2024 นิเคอิ เอเชีย รายงาน บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ นิสสัน มอเตอร์ และบริษัทอื่นๆ จะลงทุนรวม 1 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 235,000 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิตแบตเตอรี่สำรองในญี่ปุ่นประมาณ 50% โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล
การลงทุนดังกล่าวจะมุ่งเน้นไปที่แบตเตอรี่รถยนต์เป็นหลัก โดยจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตจาก 80 GWh เป็น 120 กิกะวัตต์ชั่วโมง
- ปัจจุบัน CATL มีกำลังการผลิตแบตเตอรี่นช่วงเดือนมกราคม-กรกฎาคมอยู่ที่ 163.3 GWh เพิ่มขึ้น 29.9 เปอร์เซ็นต์จาก 125.8 GWh ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
- ในช่วงเดือนมกราคม-กรกฎาคม การใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ทั่วโลกอยู่ที่ 434.4 กิกะวัตต์ชั่วโมง เพิ่มขึ้น 22.4 เปอร์เซ็นต์จาก 355.0 กิกะวัตต์ชั่วโมงในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ตามข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 4 กันยายนโดย SNE Research ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดของเกาหลีใต้
กระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม ซึ่งจะประกาศให้เงินช่วยเหลือสูงสุด 350,000 ล้านเยน หรือประมาณ 82,200 ล้านบาท สำหรับความพยายามดังกล่าวในเร็วๆ นี้ ตั้งเป้าที่จะบรรลุเป้าหมาย 150 กิกะวัตต์ชั่วโมงภายในปี 2030
ประเทศญี่ปุ่น พยายามสร้างหลักประกันห่วงโซ่อุปทานภายในประเทศ และ สร้างเสถียรภาพมากขึ้น ซึ่งถือว่ามีความสำคัญต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ปัจจุบันห่วงโซ่อุปทานกระจายอยู่ในหลายประเทศ รวมทั้งเกาหลีใต้และจีน ทำให้มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการหยุดชะงักจากภัยพิบัติหรือความขัดแย้ง
TOYOTA จะเร่งผลิตแบตเตอรี่ในบริษัทย่อยสองแห่ง คาดว่าจะลงทุนประมาณ 250,000 ล้านเยน หรือประมาณ 58,700 ล้านบาท แผนดังกล่าวรวมถึงโรงงานผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า แห่งใหม่ ซึ่งมีกำหนดจะเริ่มดำเนินการภายในสิ้นปี 2028 และทำหน้าที่เป็นซัพพลายเออร์หลักให้กับโรงงานประกอบ Lexus ที่อยู่ใกล้เคียง
ผู้ผลิตรถยนต์รายนี้กำลังสร้างห่วงโซ่อุปทานในประเทศโดยมุ่งเป้าไปที่เป้าหมายในการขายรถยนต์ไฟฟ้า 3.5 ล้านคันต่อปีทั่วโลกภายในปี 2030 นอกจากนี้ บริษัทยังกำลังทำงานเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีโซลิดสเตตสำหรับแบตเตอรี่รุ่นถัดไป
สำหรับบริษัท NISSAN วางแผนลงทุนประมาณ 150,000 ล้านเยน หรือประมาณ 35,200 ล้านบาท ในการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมเหล็กฟอสเฟตสำหรับยานยนต์ โดยตั้งเป้าที่จะเริ่มจัดหาให้ได้ในปี 2028 แบตเตอรี่ประเภทนี้ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่สำหรับเจเนอเรชันถัดไปที่มีแนวโน้มดี เนื่องจากไม่ใช้โลหะหายาก เช่น โคบอลต์
Panasonic Holdings จะผลิตส่วนประกอบแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนหลักสำหรับ Subaru และ Mazda Motor โดยร่วมมือกับผู้ผลิตรถยนต์ทั้งสองรายในการผลิตในญี่ปุ่น คาดว่าการลงทุนจะมีมูลค่ารวมประมาณ 550,000 ล้านเยน หรือประมาณ 129,000 ล้านบาท