TOYOTA และ PACCAR ขยายความร่วมมือพัฒนารถบรรทุกเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน ในสหรัฐฯ

วันที่ 2 พฤษภาคม 2023 PACCAR และ Toyota Motor North America, Inc. (Toyota) ประกาศในวันนี้ถึงการขยายความพยายามร่วมกันในการพัฒนาและผลิตเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน (FCEV) ซึ่งจะช่วยให้ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์

การขยายความร่วมมือดังกล่าวจะพัฒฯารถบรรทุก Kenworth และ Peterbilt ขับเคลื่อนด้วยโมดูลเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนเจเนอเรชันถัดไปของ Toyota ข้อตกลงที่ขยายออกไปนี้สนับสนุนการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

Kenworth T680 และ Peterbilt 579 เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนจะสามารถผลิตเชิงพาณิชย์ได้ ภายใต้การพัฒนาระบบ FCEV ของโตโยต้า สำหรับกำหนดการส่งมอบจะมีขึ้นในช่วงปี 2024

PACCAR และ Toyota ได้ร่วมมือกันในการพัฒนารถบรรทุก FCEV ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รวมถึงโครงการนำร่องที่ประสบความสำเร็จซึ่งติดตั้งรถบรรทุก Kenworth T680 FCEV จำนวน 10 คันที่ท่าเรือลอสแองเจลิส

โตโยต้า มีความตั้งใจที่จะเสนอพลังงานเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน โดยเฉพาะในรถบรรทุก ดังนั้น Kenworth จึงเหมาะสมในการใช้พลังงานดังกล่าว Toyota ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและระยะของยานพาหนะให้ดียิ่งขึ้น ออกแบบมาเพื่อใช้ในรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ที่ใช้งานหนัก ชุดระบบส่งกำลังไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิงสำหรับงานหนักของโตโยต้าเพิ่งได้รับการรับรองระบบส่งกำลังที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์จาก California Air Resources Board (CARB) โตโยต้าจะเริ่มประกอบโมดูลในสหรัฐอเมริกาช่วงปลายปี 2023

John Rich ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ PACCAR แสดงความคิดเห็นว่า “หลังจากทำงานอย่างครอบคลุมกับทีม Toyota เรามั่นใจว่าความพยายามร่วมกันของเราสามารถส่งมอบรถบรรทุก FCEV ชั้นนำของอุตสาหกรรมด้วยคุณภาพ ความน่าเชื่อถือ และการสนับสนุนหลังการขายทั้งหมดที่ลูกค้าของ Kenworth และ Peterbilt ไว้วางใจ ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ชั้นนำในอุตสาหกรรมของ PACCAR ในด้านยานพาหนะที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของลูกค้าและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม”

คริสโตเฟอร์ หยาง รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจของ TMNA ​​Group กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับ PACCAR เพื่อตระหนักถึงอนาคตที่เทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนชั้นนำของอุตสาหกรรมของโตโยต้าสามารถให้พลังงานแก่รถบรรทุกขนาดใหญ่ที่จะเดินทางข้ามทางหลวงทั่วสหรัฐอเมริกาโดยไม่มีการปล่อยมลพิษ”  “เทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้ช่วยให้เราสามารถจัดหาทางเลือกคาร์บอนที่เป็นกลางให้กับลูกค้าเชิงพาณิชย์ของเราเพื่อต่อยอดธุรกิจของพวกเขา ในขณะเดียวกันก็สนับสนุนพันธกิจของโตโยต้าในการลดและกำจัดคาร์บอนจากสิ่งแวดล้อมในท้ายที่สุด”