เปิดตัว TOYOTA PRIUS HEV Nightshade รุ่นพิเศษ ในสหรัฐฯ ราคา 1.12 ล้านบาท ประหยัด 24.2 กม./ลิตร EPA
โตโยต้า พรีอุส 2025 รุ่น Nightshade และการปรับราคาใหม่ ในสหรัฐฯ
โตโยต้าได้เปิดตัวการอัปเดตสำหรับ Toyota Prius 2025 โดยเพิ่มรุ่นใหม่ที่ชื่อว่า Nightshade Edition พร้อมการปรับราคาขึ้นเล็กน้อยในทุกเกรด แม้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางเทคนิค แต่ Prius ยังคงความเป็นรถไฮบริดที่มีประสิทธิภาพสูง และเพิ่มตัวเลือกที่โดดเด่นสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความสปอร์ตและหรูหรา ทำให้ราคาจำหน่าย $28,350 – 36,765 หรือประมาณ 975,000 – 1,265,000 บาท
ราคาของแต่ละรุ่นในปี 2025
- Prius LE (เริ่มต้น): ราคาเริ่มต้นที่ 28,350 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 27,950 ดอลลาร์ในปี 2024
- Prius Limited AWD (ท็อปสุด): ราคาเริ่มต้นที่ 36,765 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 400 ดอลลาร์จากปี 2024
- Nightshade Edition:
- อยู่ระหว่างเกรด XLE และ Limited
- ราคาเริ่มต้น 32,795 ดอลลาร์ (FWD) หรือประมาณ 1.12 ล้านบาท และ 33,895 ดอลลาร์ (AWD) ประมาณ 1.16 ล้านบาท
- มาพร้อมดีไซน์และฟีเจอร์สุดพิเศษ (ดูรายละเอียดด้านล่าง)
Nightshade Edition มีพื้นฐานมาจากรุ่น XLE แต่เพิ่มความพิเศษด้วย
- ล้ออัลลอยสีดำขนาด 19 นิ้ว
- การตกแต่งสีดำ เช่น โลโก้, มือจับประตูหน้า, เสาอากาศแบบครีบฉลาม, และกันชน
- ภายในเบาะหุ้มด้วย SofTex สีดำ ที่ปรับได้ 8 ทิศทาง พร้อมรายละเอียดลายคาร์บอนไฟเบอร์บนแผงหน้าปัด
- สีตัวถังที่โดดเด่น Karashi Yellow (สีเหลืองสว่างพิเศษ) และสีทางเลือกอย่าง Midnight Black Metallic และ Wind Chill Pearl
Model | MSRP |
Prius LE | $28,350 |
Prius XLE | $31,795 |
Prius Nightshade | $32,495 |
Prius Limited | $35,365 |
Prius LE AWD | $29,750 |
Prius XLE AWD | $33,195 |
Prius Nightshade AWD | $33,895 |
Prius Limited AWD | $36,765 |
รายละเอียดเกรดต่างๆ
- LE: ล้ออัลลอย 17 นิ้ว, เบาะผ้าปรับได้ 6 ทิศทาง, หน้าจอ 8 นิ้ว
- XLE: ล้ออัลลอย 19 นิ้ว, เบาะ SofTex® ปรับได้ 8 ทิศทาง, ที่ชาร์จไร้สาย
- Nightshade: เพิ่มดีไซน์สีดำ เช่น ล้อ, เสาอากาศ, กันชน พร้อมคาร์บอนไฟเบอร์ตกแต่ง
- Limited: เบาะอุ่นและระบายอากาศ, หน้าจอ 12.3 นิ้ว, ระบบเสียง JBL®
ภายนอกมีการออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยตัวรถจากขึ้นจากแพลตฟอร์ม Toyota New Global Architecture (TNGA) เจนเนอเรชั่นที่สองของโตโยต้า มีระยะฐานล้อที่ยาวขึ้น จุดศูนย์ถ่วงต่ำลง และล้อขนาด 17 – 19 นิ้วที่ใหญ่ขึ้นเป็นมาตรฐาน ไฟหน้า LED tube แบบเดียวกับ Crown รุ่นใหม่ เน้นการออกแบบภายนอกลักษณะคล้าย ฉลามหัวฆ้อน Hammerhead shark-like design
- สีตัวถังภายนอก มีให้ลือก 8 สี รวมทั้ง 2 สีใหม่ Ash และ Mustard ที่สร้างความประทับใจแบบสปอร์ต
- ตัวถังสั้นลง 46 มม. ระยะฐานล้อยาวขึ้น 50 มม. ความกว้างเพิ่มขึ้น 22 มม. และความสูงของตัวถังลดลง 50 มม. (ขนาดตัวถัง ยาว 4600 มม. กว้าง 1780 มม. สูง 1420 มม. ฐานล้อ 2750 มม.)
ขนาดตัวถัง
- ยาว 4600 มม.
- กว้าง 1780 มม.
- สูง 1430 มม.
- ระยะฐานล้อ 2750 มม.
- ความสูงต่ำสุดของพื้นดิน 150 มม.
ภายในห้องโดยสารแตกต่างอย่างมากหากเทียบโฉมปัจจุบัน ติดตั้งหน้าจอระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ ฮอตสปอต Wi-Fi และ Apple Music และ Amazon Music แผงหน้าปัดดิจิตอล เบาะหนังดำ-แดง คอนโซลหน้าดำ-แดง ช่องระบายอากาศแบบผอมแยกหน้าจอสาระบันเทิงออกจากส่วนควบคุม HVAC มีปุ่มควบคุมอุณหภูมิที่นั่งและปรับอุณหภูมิห้องโดยสาร
- Prius มาพร้อมหน้าจอสัมผัสระบบมัลติมีเดียขนาด 8 นิ้วในเกรด LE และ XLE และหน้าจอขนาด 12.3 นิ้วในเกรด Nightshade และ Limited โดยรองรับ Apple CarPlay® และ Android Auto™ แบบไร้สาย รวมถึงการอัปเดตซอฟต์แวร์ผ่านระบบ Over-the-Air (OTA)
- ระบบเสียงระดับพรีเมียมจาก JBL® พร้อมลำโพง 8 ตัวมีให้ในเกรด Limited และ Prius ทุกรุ่นยังมีพอร์ต USB-C 6 พอร์ต รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi สำหรับอุปกรณ์ 5 เครื่อง พร้อมการทดลองใช้งาน 1 เดือน
Parallel Hybrid 2.0 ลิตร
- เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 1,986 ซีซี รหัส M20A-FXS 4 สูบ ให้กำลัง 152 แรงม้า ที่ 6000 รอบต่อนาที แรงบิด 188 นิวตัน-เมตร ที่ 4400 – 5200 รอบต่อนาที ส่งกำลังเกียร์ไฟฟ้า
- มอเตอร์ไฟหน้า รหัส 1VM ให้กำลัง 113 แรงม้า แรงบิด 206 นิวตัน-เมตร
- มอเตอร์ไฟฟ้าหลัง รหัส 1WM ให้กำลัง 41 แรงม้า แรงบิด 84 นิวตัน-เมตร
- รวมกำลังทั้งระบบ 194 แรงม้า (FWD) 196 แรงม้า (AWD)
- Lithium-ion battery ขนาด 4.08Ah
- ขนาดถังน้ำมัน 43 ลิตร
- อัตราความประหยัดน้ำมัน 2WD
- อัตราประหยัดเฉลี่ย 24.2 กม/ลิตร EPA
- ในเมือง 24.2 กม./ลิตร EPA
- บนทางหลวง 23.8 กม./ลิตร EPA
- อัตราความประหยัดน้ำมัน 4WD
- อัตราประหยัดเฉลี่ย 22.9 กม./ลิตร EPA
- ในเมือง 22.5 กม./ลิตร EPA
- บนทางหลวง 22..9 กม./ลิตร EPA
- Prius ยังมีโหมดการขับขี่ที่ปรับได้ 3 แบบ ได้แก่
- NORMAL: ช่วยให้ได้สมดุลระหว่างการประหยัดน้ำมันและสมรรถนะการขับขี่
- ECO: เพิ่มประสิทธิภาพระบบไฮบริดด้วยการจำกัดการใช้พลังงาน
- SPORT: เพิ่มสมรรถนะการขับขี่และการเร่งความเร็ว
ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อไฟฟ้า (Electronic On-Demand AWD)
ระบบ AWD ที่มีให้เลือกช่วยเพิ่มการยึดเกาะและความมั่นคงในการขับขี่ โดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหลัง ซึ่งจะทำงานเมื่อต้องการ เช่น ขณะออกตัว หรือขณะเลี้ยวในสภาพถนนลื่น ระบบนี้ช่วยลดการลื่นไถลของล้อและเพิ่มความมั่นคงในโค้ง
ระบบช่วงล่าง
- ระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นแบบอิสระ MacPherson Strut
- ระบบกันสะเทือนด้านหลังเป็นแบบอิสระ Double Wishbone
ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense 3.0
- ระบบป้องกันการชนพร้อมตรวจจับคนเดินถนน
- ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันตามรถคันหน้า
- ระบบเตือนการออกนอกเลนพร้อมช่วยปรับพวงมาลัย
- ระบบช่วยรักษาเลน
- ระบบอ่านป้ายจราจร
- ไฟสูงอัตโนมัติ
ขอบคุณ Motor1 ที่ได้รวบรวมข้อมูลสำหรับ 10 รถยนตืไฮบริด ที่ประหยัดน้ำมันที่สุดในสหรัฐอเมริกา ตามมาตรฐานการวัดระยะเชื้อเพลิง EPA ที่ดีที่สุด (ไม่รวมปลั๊กอินไฮบริด)
-
-
- Toyota Prius : 24.23 กม./ลิตร EPA
- Hyundai Elantra Hybrid Blue : 22.96 กม./ลิตร EPA
- Kia Niro : 22.53 กม./ลิตร EPA
- Toyota Camry Hybrid : 22.11 กม./ลิตร EPA
- Toyota Corolla Hybrid : 21.26 กม./ลิตร EPA
- Honda Accord Hybrid : 20.41 กม./ลิตร EPA
- Hyundai Sonata Hybrid : 19.98 กม./ลิตร EPA
- Lexus ES 300h : 18.71 กม./ลิตร EPA
- Kia Sportage Hybrid : 18.28 กม./ลิตร EPA
- Toyota Corolla Cross Hybrid : 17.89 กม./ลิตร EPA
-
ปลั๊กอินไฮบริด PHEV
ไฮบริด HEV
TOYOTA Prius PHEV
Toyota Prius Hybrid