TOYOTA PRIUS Plug-in Hybrid ราคาในสหรัฐฯ 1.08 ล้านบาท วิ่งไฟฟ้า 70 กม.EPA
TOYOTA PRIUS Plug-in Hybrid Electric ราคาจำหน่ายในสหรัฐฯ 3 รุ่นย่อย 32,975 – 39,670$ หรือประมาณ 1.08 – 1.31 ล้านบาท
Prius รุ่นล่าสุดก้าวไปอีกขั้นของการเดินทางนั้นด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) รุ่นล่าสุด เพื่อเสริมแนวทางหลากหลายเส้นทางของ โตโยต้า เพื่อก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ซึ่งมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 23 ล้านคันทั่วโลก โดยเฉพาะ Prius รุ่นไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริดมียอดจำหน่ายมากกว่า 5 ล้านคัน
Prius รุ่นล่าสุดที่เหนือกว่าขุมกำลังและอัตราเร่งที่คาดไม่ถึง การทรงตัวและการจัดการยังได้รับการปรับปรุงด้วยแพลตฟอร์ม GA-C เจนเนอเรชั่นที่สองของ Toyota New Global Architecture (TNGA) ซึ่งนำน้ำหนักที่ลดลงและความแข็งแกร่งที่สูงขึ้นเพื่อการนั่งที่มั่นคงยิ่งขึ้น จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำลงทำได้โดยการวางแบตเตอรี่ EV ไว้ใต้เบาะหลังและย้ายถังเชื้อเพลิงให้ต่ำลงและไปข้างหน้ามากขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ช่วยเพิ่มพลวัตและความคล่องตัวในการขับขี่
เครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริด M20A-FXS 4 สูบ 2.0 ลิตร
เครื่องยนต์เบนซิน M20A-FXS 4 สูบ 2.0 ลิตร Dynamic Force Engine ปลั๊กอินไฮบริด เครื่องยนต์ให้กำลัง 151 แรงม้า ที่ 6000 รอบต่อนาที แรงบิด 188 นิวตัน-เมตร มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว 163 แรงม้า แรงบิด 208 นิวตัน-เมตร รวมให้กำลัง 223 แรงม้า แบตเตอรี่ 13.6kWh สามารถวิ่งได้ 70 กม. EPA ส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ CVT
- ขับน้ำมันล้วน 22.1 กม./ลิตร EPA (52 MPG)
- ครอบคลุมการวิ่ง 965 กม./ถังน้ำมัน
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.7 วินาที
- ระบบจ่ายพลังงานให้อุปกรณ์ไฟฟ้า Vehicle-2-Load (V2L) 1,500W
- ระยะการขับขี่ EV สูงกว่ารุ่นก่อนหน้าประมาณ 50% ซึ่งหมายความว่าด้วยประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ที่ดีขึ้น
- Prius PHEV ใหม่ติดตั้ง Regeneration Boost ช่วยสลับระหว่างการเร่งความเร็วและการเบรกฟังก์ชันนี้จะให้แรงเบรกมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อมอบประสบการณ์ขับขี่ที่ตอบสนองในขณะที่ลดความถี่ในการสลับระหว่างคันเร่งและแป้นเบรก
- โหมดการขับขี่ Normal, Eco และ Sport Prius ใหม่ยังสามารถปรับแต่งได้ผ่านตัวเลือก Drive Mode Select บนคอนโซลกลาง ระบบส่งกำลัง ระบบบังคับเลี้ยว และการตั้งค่าระบบปรับอากาศที่ปรับแต่งได้ตามความชอบของผู้ขับขี่ สามารถบันทึกเพื่อเรียกใช้งานได้ทันทีทุกเวลา
ภายนอกมีการออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยตัวรถจากขึ้นจากแพลตฟอร์ม Toyota New Global Architecture (TNGA) เจนเนอเรชั่นที่สองของโตโยต้า มีระยะฐานล้อที่ยาวขึ้น จุดศูนย์ถ่วงต่ำลง และล้อขนาด 17 – 19 นิ้วที่ใหญ่ขึ้นเป็นมาตรฐาน ไฟหน้าLED tube แบบเดียวกับ Crown รุ่นใหม่ เน้นการออกแบบภายนอกลักษณะคล้าย ฉลามหัวฆ้อน Hammerhead shark-like design
- สีตัวถังภายนอก มีให้ลือก 8 สี รวมทั้ง 2 สีใหม่ Ash และ Mustard ที่สร้างความประทับใจแบบสปอร์ต
- ตัวถังสั้นลง 46 มม. ระยะฐานล้อยาวขึ้น 50 มม. ความกว้างเพิ่มขึ้น 22 มม. และความสูงของตัวถังลดลง 50 มม. (ขนาดตัวถัง ยาว 4600 มม. กว้าง 1780 มม. สูง 1420 มม. ฐานล้อ 2750 มม.)
ขนาดตัวถัง
- ยาว 4,600 มม.
- กว้าง 1,780 มม.
- สูง 1,430 มม.
- ระยะฐานล้อ 2,750 มม.
- ความสูงต่ำสุดของพื้นดิน 150 มม.
ภายในห้องโดยสารแตกต่างอย่างมากหากเทียบโฉมปัจจุบัน ติดตั้งหน้าจอระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 12.3 นิ้ว แผงหน้าปัดดิจิตอล 7 นิ้ว รวมถึงการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบใช้สาย เบาะหนังดำ-แดง คอนโซลหน้าดำ-แดง ช่องระบายอากาศแบบผอมแยกหน้าจอสาระบันเทิงออกจากส่วนควบคุม HVAC มีปุ่มควบคุมอุณหภูมิที่นั่งและปรับอุณหภูมิห้องโดยสาร พื้นที่เก็บสัมภาระยังเพิ่มขึ้นจาก 251 ลิตรเป็น 284 ลิตร
- Toyota Safety Sense-linked ระบบจะแจ้งเตือนผู้ขับขี่ถึงวัตถุที่ตรวจพบผ่านสัญญาณไฟกะพริบก่อนที่จะมีเสียงเตือน เพื่อสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่มั่นใจยิ่งขึ้น
ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense 3.0
- Pre-Collision System with Pedestrian Detection ระบบป้องกันการชนล่วงหน้าพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน
- Lane Departure Alert with Steering Assist ระบบเตือนการออกนอกเลนพร้อมระบบช่วยบังคับเลี้ยว
- Full-Speed Range Dynamic Radar Cruise Control ระบบควบคุมและปรับความเร็วอัตโนมัติเต็มพิกัดด้วยเรดาร์
- Lane Tracing Assist ระบบช่วยติดตามเลน
- Road Sign Assist ระบบจดจำป้ายจราจร
- Automatic High Beams ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ
- Proactive Driving Assist ระบบจะการคาดการณ์ความเสี่ยงตามสถานการณ์การขับขี่
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่และความปลอดภัย
- Toyota T-Mate เจนเนอเรชั่นล่าสุดพร้อมเทคโนโลยี Toyota Safety Sense ที่ได้รับการปรับปรุง
- ความเป็นไปได้ในการจอดรถแบบแฮนด์ฟรีและรีโมทคอนโทรลพร้อม Advanced Park System
- กล้องมอนิเตอร์คนขับใหม่
- Enhanced Road Sign Assist รวมถึงการแจ้งเตือนความเร็วเกินกำหนด
Advanced Park System แบบกึ่งอัตโนมัติช่วยให้จอดรถได้ง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้น และสามารถจดจำจุดที่ใช้งานเป็นประจำได้อย่างสะดวก เช่น ที่บ้านหรือที่ทำงาน ด้วยการใช้กล้อง Panoramic View Monitor สี่ตัวและเซ็นเซอร์อัลตราโซนิก 12 ตัว ทำให้ Prius สามารถเคลื่อนที่แบบแฮนด์ฟรีไปยังพื้นที่หนึ่งได้ โดยที่ผู้ขับขี่จะต้องตรวจสอบสภาพแวดล้อมและเปลี่ยนเกียร์เมื่อได้รับแจ้งเท่านั้น ในบางสภาวะ ยังสามารถสั่งงานด้วยรีโมตคอนโทรลได้ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถก้าวออกจากรถและจอดรถโดยใช้สมาร์ทโฟนได้
ฟังก์ชันอื่นๆ ของ T-Mate ช่วยเพิ่มการรับรู้ของผู้ขับขี่ผ่านคุณสมบัติต่างๆ เช่น Panoramic View Monitor ซึ่งให้มุมมองรอบด้านของยานพาหนะโดยรอบระหว่างการบังคับทิศทางความเร็วต่ำ Blind Spot Monitor และ Rear Cross Traffic Alert พร้อมระบบเบรกอัตโนมัติ ซึ่งจะเตือนการจราจรและอันตรายเมื่อแซงหรือถอยหลัง
Road Sign Assist (RSA) ที่ขยายเพิ่มเติมสนับสนุนการขับขี่อย่างปลอดภัยด้วยการจดจำสัญญาณบนถนนข้างหน้าและแสดงสัญลักษณ์เหล่านี้บนแผงหน้าปัด เพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับล่าสุดของสหภาพยุโรป ผู้ขับขี่จะได้รับแจ้งผ่านภาพบนหน้าจอและเสียงเตือน หากผู้ขับขี่ใช้ความเร็วเกินขีดจำกัดที่ระบุไว้หรือมองข้ามเครื่องหมาย ‘ห้ามเข้า’ ความเร็วของ Adaptive Cruiser Control (ACC) สามารถรีเซ็ตได้ด้วยการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียวเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของขีดจำกัดความเร็วที่ระบุโดย RSA ในขณะที่สามารถเลือกตัวเลือกตัวจำกัดความเร็วเพิ่มเติมเพื่อป้องกันการเร่งเกินความเร็วที่คนขับกำหนด
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ACC ได้รับการอัปเดตและตอนนี้ยังมีการตั้งค่า 4 ระยะทางการตรวจจับยานพาหนะที่ปรับปรุงใหม่ช่วยให้สามารถระบุยานพาหนะก่อนหน้าได้มากกว่าหนึ่งคัน รวมถึงรถที่อยู่ในเลนติดกัน ช่วยให้ระบบรองรับการแซงบนทางหลวงโดยปรับความเร็วให้สอดคล้องกับสภาพการจราจร โดยเฉพาะเมื่อเปลี่ยนเลน นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นใหม่เพื่อป้องกันการขับเคลื่อนโดยไม่ตั้งใจ
Lane Tracing Assist ระบบช่วยหยุดรถฉุกเฉินจะหยุดรถได้อย่างปลอดภัยหากคนขับไม่ตอบสนองด้วยการบังคับเลี้ยว เร่งความเร็ว หรือลดความเร็วภายในเวลาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
Pre-Collision System เพิ่มความสามารถในการตรวจจับรถจักรยานยนต์นอกเหนือไปจากคนเดินถนนและคนขี่จักรยาน
Proactive Driving Assist เป็นอีกหนึ่งคุณลักษณะใหม่ของ Toyota Safety System รองรับผู้ขับขี่ด้วยการเบรกเบาๆ เข้าโค้ง การบังคับเลี้ยว เพื่อรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยระหว่างรถคันข้างหน้า คนเดินถนน หรือคนขี่จักรยาน โดยใช้กล้องและเรดาร์ของรถ
ระบบช่วงล่าง
- ระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นแบบอิสระ MacPherson Strut
- ระบบกันสะเทือนด้านหลังเป็นแบบอิสระ Double Wishbone