TOYOTA RAV4 HYBRID มีโอกาศเปิดตัวในไทย ?

Spread the love

เครดิตภาพ Manop Sukpascharoen
เครดิตภาพ Manop Sukpascharoen

Toyota RAV4 Hybrid XLE Premium ได้ทำการทดสอบวิ่งในบ้านเรา โดยภาพดังกล่าวถูกจับได้บริเวณ สุขุมวิท 101/1 เผยแพร่โดยคุณ Nipon Ngao-sri ป้ายทะเบียนทดสอบวิ่ง TC

ป้ายทะเบียน TC เป็นป้ายสำหรับรถต้นแบบของค่ายรถต่างๆ ที่ต้องนำออกมาขับเพื่อทดสอบสมรรถนะ ประสิทธิภาพ ระบบการทำงาน ก่อนผลิตจริง จึงจำเป็นต้องมีป้ายทะเบียนเฉพาะ เพื่อให้แยกรถทดสอบเหล่านี้ออกจากรถของประชาชนทั่วไปได้อย่างชัดเจน

ขนาดตัวถัง	RAV4	Honda CR-V	Harrier	Fortuner
ยาว (มม.)	4610	4571	4740	4795
กว้าง (มม.)	1865	1855	1855	1855
สูง (มม.)	1690	1679	1660	1835
ฐานล้อ (มม.)	2690	2662	2690	2750

ณ ปัจจุบัน ยอดขายของ Toyota Fortuner สามารถครองตลาด SUV ได้อย่างงดงามในประเทศไทย จึงไม่จำเป็นที่จะต้องมี SUV อีกรุ่น แต่ในทางกลับกัน หากโตโยต้าเปิดตัว Toyota RAV4 ในบ้านเราอีกครั้ง มันอาจจะเป็นความเสี่ยง แต่ความเสี่ยงที่น่าสนใจมากๆ

มันมีความเป็นไปได้ ที่จะเปิดตัวในบ้านเรา แต่ต้องดูฝั่งของญิ่ปุ่นก่อนเพราะพึ่งเปิดตัว Toyota RAV4 เพียงเดือนเดียวมียอดจอง 24,000 คัน โอกาศเปิดตัวในบ้านเราก็มี แต่คาดว่ายังไม่จำหน่ายในเร็วๆนี้ โตโยต้าคงต้องศึกษาตลาด และความคุ้มค่าให้ดีก่อน

การเปิดตัวสำหรับ RAV4 ล่าสุดในประเทศมาเลเซียเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

เป็นเพียงการทดสอบวิ่ง ยังไม่ได้ยืนยันจะทำตลาดบ้านเราจริงๆไม่เปล่า สำหรับ Toyota RAV4 มีตัวเลือกทั้งเบนซิน , ไฮบริด , และ ปลั๊กอินไฮบริด ในปี 2564-2565 มีข่าวจะเปิดตัวรุ่นไฟฟ้า EV

แต่สิ่งที่น่าหนักใจคือ ขนาด Toyota Harrier ยังนำเข้ามาจำหน่ายโดยผ่านตัวแทนจำหน่ายอิสระ และอาจจะเป็นเรื่องยากที่ Toyota RAV4 จะขายในไทย แต่จะมาในรูปแบบนำเข้าอิสระมากกว่า

ทั้งหมดเป็นเพียงการคาดเดา ตอนนี้ โตโยต้า ประเทศไทย ยังไม่มีการยืนยันอย่างชัดเจน ในการเปิดตัว มีเพียงรถทดสอบวิ่งในท้องถนนเมืองไทยเท่านั้น

Toyota RAV4 Hybrid XLE Premium

Toyota RAV4 Hybrid XLE Premium ช่วยเติมเต็มช่องว่างระหว่างรุ่น Hybrid XLE และ Hybrid XSE ในรุ่น XLE Hybrid เริ่มต้นที่ 30,970 ดอลลาร์ ประมาณ 964,000 บาท XSE Hybrid เริ่มต้นที่ 35,625 ดอลลาร์ ประมาณ 1.10 ล้านบาท ส่วนรุ่น เริ่มต้น XLE Premium ใหม่ 33,675 ดอลลาร์ ประมาณ 1.04 ล้านบาท

ภายนอกติดตั้งล้ออัลลอยซูเปอร์โครเมี่ยมแบบห้าก้านขนาด 18 นิ้ว ไฟหน้าแบบ LED โปรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างกลางวันแบบ LED และไฟตัดหมอกหน้า

ภายในห้องโดยสารออกแบบทันสมัยโด่ดเด่นด้วย เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะผู้โดยสารหน้าปรับ 4 ทิศทาง พวงมาลบัยหุ้มหนัง หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบบันเทิง Entune 3.0 multimedia system รองรับ Apple CarPlay เชื่อมต่อ WiFi connectivityและ Android Auto ลำโพงคุณภาพจาก JBL ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ มาตราวัดเรืองแสง ภายในมีพื้นที่บรรจุสัมภาระ 580 ลิตร

พร้อมติดตั้งเครื่องยนต์ไฮบริดใหม่ 2.5 ลิตร ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนล้อหน้าที่ให้กำลังสูงสุดถึง 215 แรงม้า และขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้กำลังสูงสุด 219 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม ภายใน 8.1 วินาที 4 ลิตร/ 100 กิโลเมตร และ 100 กรัมต่อกิโลเมตร ของ CO2 ภายใต้ WLTP

พร้อมติดตั้งระบบความปลอดภัย Toyota’s Safety Sense system

ระบบเตือนผู้ขับขี่พร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติก่อนจะเกิดการชน Pre-Collision System autonomous braking with pedestrian and cyclist detection
ระบบระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ full-speed Dynamic Radar Cruise Control (DRCC)
ระบบเตือนเมื่อรถและหน่วงพวงมาลัยเมื่อออกนอกเลน Lane Departure Alert (LDA) with steering assist
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beam (AHB)
ระบบควบคุมรถบนเส้นทางไร้เส้นแบ่งเลนถนน Lane Tracing Assist (LTA)
ระบบควบคุมเฟืองท้ายอัตโนมัติ Trail Mode เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการยึดเกาะถนนและสามารถควบคุมรถยนต์ได้ดีในขณะที่วิ่งอยู่บนพื้นถนนที่ลื่น

Motor1.com/

Toyota RAV4 PHEV

ตัวอย่าง ในรถเก๋ง
ตัวอย่าง ในรถกระบะ

ข้อมูลดังกล่าวได้รับการเผยแพร่โดย Autoevolution.com ได้ระบุว่าทางโตโยต้า เผยข้อมูลตัวเลข WLTP CO2 เพียง 29 กรัม / กม. ซึ่งหากแปลงเป็นอัตราประหยัดน้ำมันจะได้ถึงระดับ 1.25 ลิตร ต่อ 100 กม./ลิตร หรือ 80 กม./ลิตร (มากถึง 188 MPG) ในโหมดไฟฟ้า

และแบตเตอรี่ของ RAV4 Plug-in Hybrid สามารถขับด้วยไฟฟ้าอย่างเดียวได้ถึง 65 กม. (40 ไมล์) ตัวเลขเหล่านี้อาจเกินจริง แน่นอนว่ามันเยอะเกินไปมาก แต่รถรุ่นสเปคยุโรป ปล่อย CO2 22 กรัมต่อกิโลเมตร (WLTP) นั่นแสดงว่าจะมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเพียง 1 ลิตรต่อ 100 กม. (มากกว่า 235 mpg) ยิ่งไปกว่านั้นระยะการขับขี่ไฟฟ้าของแบตเตอรี่ที่ชาร์จ ถึง 75 กม./ครั้งในโหมดไฟฟ้า

อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 6.2 วินาที ให้โหมด EV ใช้เวลา 10 วินาที

ข้อมูลดังกล่าวเป็นเพียงค่าการปล่อย CO2 29 กรัม/กม. เอามาคำนวนอัตราประหยัดน้ำมันเท่านั้น แต่ตอนนี้ยังไม่ทราบว่ารถดังกล่าวสามารทำอัตราประหยัดน้ำมันจริงๆ เท่าไหร่ ? แต่ถึงอย่างไร โตโยต้ายืนยันว่า RAV4 Plug-in Hybrid เป็นรุ่นที่ประหยัดน้ำมันที่สุดในซีรีย์ RAV4

เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด+มอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวม 306 แรงม้า อัตราความเร็ว 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 6.2 วินาที ปล่อย CO2 เฉลี่ยน้อยกว่า 29g / k ติดตั้ง AWD-i มาตรฐาน (ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อไฟฟ้าอัจฉริยะ) แบตเตอรี่มาตรฐาน WLTP ระบุว่าสามารถวิ่งได้ 65 กม. สามารถเข้าถึงความเร็วสูงสุดที่ 135 กม. / ชม. โดยใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว

Autoevolution.com

https://www.youtube.com/watch?v=h95yHP7atOw&feature=emb_title

เป็นการทดลองขับ Toyota RAV4 Prime Plug in Hybrid ครั้งแรกของโลก แสดงให้เห็นการออกแบบ ทั้งภายนอก และภายในห้องโดยสาร และ สมรรถนะในการขับเคลื่อนผ่่าน VDO ช่อง youtube : CAR Droid นักวิจารณ์รถยนต์ในญี่ปุ่น

Toyota RAV4 Prime ราคาเริ่มต้น 38,100$ ประมาณ 1.2 ล้านบาท ซึ่งไม่รวมค่าสิทธิประโยชน์จากรัฐบาลกลาง 1,120$

ราคาสูงกว่า Mitsubishi Outlander PHEV เริ่ม 1.09 ล้านบาท

การออกแบบของ RAV4 ไฮบริดมีการปรับแต่งเล็กน้อย ไฟหน้า LED แบบ Bi-Beam กระจังหน้าตาข่ายสีดำเงา พร้อมตัวถังสีใหม่ Supersonic Red ล้อโครเมี่ยมหลังคาดำ ล้ออัลลอย 18 – 19 นิ้วแล้วแต่รุ่น

สามารถเลือกซื้อ RAV4 Prime XSE ไฟส่องสว่างกลางวันแนวตั้ง และล้ออัลลอย 19 นิ้วทูโทน ยังสามารถติดตั้งหลังคาสีดำได้อีกด้วย

ภายในห้องโดยสาร วัสดุหุ้มหนังดำเดินด้ายแดง และ โครเมี่ยม เบาะหนังสีดำคาดแดงพร้อมเดินด้ายแดง ทั้งคอนโซลหน้า คอนโซลกลาง พวงมาลัย และแผงข้างประตู ติดตั้งหน้าจอควบคุมเครื่องเสียงแบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay® และ Android Auto, HUD หรือ Head-up Display ระบบอุ่นเบาะด้านหน้าและหลัง ประตูท้ายแบบพาวเวอร์ หลังคาพาโฯรามา ความจุสัมภาระคือ 520 ลิตร (18.3 ลูกบาศ์กฟุต) พื้นที่แบตเตอรี่ 60 ลิตร

สำหรับ $ 1,665 ประมาณ 52,900 บาท เพิ่มเติมลูกค้าสามารถรับแพ็คเกจ Weather & Moonroof พวงมาลัยระบบอุ่นด้านหลัง ที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ และ Moonroof
แพ็คเกจ Weather and Audio ราคา $ 2,435 ประมาณ 77,400 บาท ประกอบด้วยอุปกรณ์ดังกล่าวทั้งหมดรวมถึงระบบเครื่องเสียง JBL พรีเมียมระบบนำทางแบบไดนามิก ฟรี 3 ปี และ ระบบช่วยเหลือปลายทาง ฟรี 1 ปี
แพ็คเกจ Weather with Audio and Premium” ซึ่งมีราคา 5,760 ดอลลาร์ ประมาณ 183,000 บาท มีทั้งสองแพ็คเก็จดังกล่าว แต่เพิ่มเติม ระบบระบายความร้อน / ระบายอากาศที่นั่งผู้โดยสารแบบสี่ทิศทาง หลังคาพาโนรามา จอแสดงผลแบบ head-up, กระจกมองหลังแบบดิจิตอล, ประตูท้ายเปิดด้วยระบบสัมผัส กล้องรอบทิศ และ เต้าเสียบ 120V บริเวณพื้นที่เก็บสัมภาระ

ระบบความปลอดภัย Toyota’s Safety Sense system

ระบบเตือนผู้ขับขี่พร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติก่อนจะเกิดการชน Pre-Collision System autonomous braking with pedestrian and cyclist detection
ระบบระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ full-speed Dynamic Radar Cruise Control (DRCC)
ระบบเตือนเมื่อรถและหน่วงพวงมาลัยเมื่อออกนอกเลน Lane Departure Alert (LDA) with steering assist
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beam (AHB)
ระบบควบคุมรถบนเส้นทางไร้เส้นแบ่งเลนถนน Lane Tracing Assist (LTA)
ระบบควบคุมเฟืองท้ายอัตโนมัติ Trail Mode เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการยึดเกาะถนนและสามารถควบคุมรถยนต์ได้ดีในขณะที่วิ่งอยู่บนพื้นถนนที่ลื่น