TOYOTA RAV4 PHEV ทดสอบเลี้ยว MOOSE แย่มาก
Toyota RAV4 Plug-in Hybrid ทำการทดสอบหักเลี้ยวเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางด้วยความเร็วปานกลาง
- การทดสอบการหักเลี้ยวหลบอย่างรวดเร็วหรือ moose test ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในประเทศสวีเดน สื่อยานยนต์สวีดิชอย่าง Teknikens Varld เป็นหัวหอกหลักในการเผยแพร่การทดสอบประเภทนี้ที่มุ่งวัดศักยภาพการหักเลี้ยวของรถยนต์รุ่นใหม่
จากการประเมินของ TeknikensVarld พบว่า RAV4 Plug-in Hybrid ซึ่งจำหน่ายในอเมริกาเหนือในชื่อ RAV4 Prime พบว่า RAV4 PHEV ทำงานได้ค่อนข้างอันตรายในการทดสอบ Moose
- ใช้ขวดบรรจุน้ำขนาด 25 ลิตร (6.6 แกลลอน) ถ่วงห้องเก็บสัมภาระท้าย
- ทดสอบรถยนต์ 3 รุ่น Toyota RAV4 Plug-in Hybrid, Mitsubishi Outlander Plug-in Hybrid และ Volvo XC40 Recharge T4
VDO ดังกล่าวแสดงให้เห็นชัดเจนว่า RAV4 Plug-in Hybrid ทำความเร็ว 68 กม./ชม.ผ่านกรวยความเร็วตามลำดับ (67, 66, 65 และ 64 กม. / ชม.) แม้จะเปลี่ยนคนขับก็ตามและแทบจะไม่สามารถวิ่งจนจบเส้นทางที่ 63 กม./ชม.
รายงาน TeknikensVarld ตั้งคำถามว่า ระบบควบคุมเสถียรภาพอิเล็กทรอนิกส์ดูเหมือนจะไม่มีช่วยอะไรเลยในการทดสอบ
เพื่อให้ชัดเจนมากขึ้น หน่วยงานในยุโรปของ Toyota จึงนำ RAV4 Plug-in Hybrid ไปทดสอบแบบเดียวกัน และได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกัน
ในขณะที่ RAV4 PHEV รุ่น Euro-spec จะปลอดภัยกว่า แต่ก็ยังไม่ทราบว่า บริษัท จะใช้มาตรการเดียวกันสำหรับเวอร์ชันสหรัฐอเมริกาหรือไม่ อย่างไรก็ตามไม่มีทางทราบได้ว่า VSC (หรือที่เรียกว่าระบบควบคุมเสถียรภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์) ได้รับการตั้งค่าที่แตกต่างกันไปในแต่ละตลาดหรือการสอบเทียบเหมือนกัน หรือไม่
ข้อมูลดังกล่าวได้รับการเผยแพร่โดย Autoevolution.com ได้ระบุว่าทางโตโยต้า เผยข้อมูลตัวเลข WLTP CO2 เพียง 29 กรัม / กม. ซึ่งหากแปลงเป็นอัตราประหยัดน้ำมันจะได้ถึงระดับ 1.25 ลิตร ต่อ 100 กม./ลิตร หรือ 80 กม./ลิตร (มากถึง 188 MPG) ในโหมดไฟฟ้า
และแบตเตอรี่ของ RAV4 Plug-in Hybrid สามารถขับด้วยไฟฟ้าอย่างเดียวได้ถึง 65 กม. (40 ไมล์) ตัวเลขเหล่านี้อาจเกินจริง แน่นอนว่ามันเยอะเกินไปมาก แต่รถรุ่นสเปคยุโรป ปล่อย CO2 22 กรัมต่อกิโลเมตร (WLTP) นั่นแสดงว่าจะมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเพียง 1 ลิตรต่อ 100 กม. (มากกว่า 235 mpg) ยิ่งไปกว่านั้นระยะการขับขี่ไฟฟ้าของแบตเตอรี่ที่ชาร์จ ถึง 75 กม./ครั้งในโหมดไฟฟ้า
- อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 6.2 วินาที ให้โหมด EV ใช้เวลา 10 วินาที
ข้อมูลดังกล่าวเป็นเพียงค่าการปล่อย CO2 29 กรัม/กม. เอามาคำนวนอัตราประหยัดน้ำมันเท่านั้น แต่ตอนนี้ยังไม่ทราบว่ารถดังกล่าวสามารทำอัตราประหยัดน้ำมันจริงๆ เท่าไหร่ ? แต่ถึงอย่างไร โตโยต้ายืนยันว่า RAV4 Plug-in Hybrid เป็นรุ่นที่ประหยัดน้ำมันที่สุดในซีรีย์ RAV4
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด+มอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวม 306 แรงม้า อัตราความเร็ว 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 6.2 วินาที ปล่อย CO2 เฉลี่ยน้อยกว่า 29g / k ติดตั้ง AWD-i มาตรฐาน (ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อไฟฟ้าอัจฉริยะ) แบตเตอรี่มาตรฐาน WLTP ระบุว่าสามารถวิ่งได้ 65 กม. สามารถเข้าถึงความเร็วสูงสุดที่ 135 กม. / ชม. โดยใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว
เป็นการทดลองขับ Toyota RAV4 Prime Plug in Hybrid ครั้งแรกของโลก แสดงให้เห็นการออกแบบ ทั้งภายนอก และภายในห้องโดยสาร และ สมรรถนะในการขับเคลื่อนผ่่าน VDO ช่อง youtube : CAR Droid นักวิจารณ์รถยนต์ในญี่ปุ่น
Toyota RAV4 Prime ราคาเริ่มต้น 38,100$ ประมาณ 1.2 ล้านบาท ซึ่งไม่รวมค่าสิทธิประโยชน์จากรัฐบาลกลาง 1,120$
- ราคาสูงกว่า Mitsubishi Outlander PHEV เริ่ม 1.09 ล้านบาท
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด+มอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวม 306 แรงม้า อัตราความเร็ว 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 6.2 วินาที ปล่อย CO2 เฉลี่ยน้อยกว่า 29g / k ติดตั้ง AWD-i มาตรฐาน (ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อไฟฟ้าอัจฉริยะ) แบตเตอรี่มาตรฐาน WLTP ระบุว่าสามารถวิ่งได้ 65 กม. สามารถเข้าถึงความเร็วสูงสุดที่ 135 กม. / ชม. โดยใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว
การออกแบบของ RAV4 ไฮบริดมีการปรับแต่งเล็กน้อย ไฟหน้า LED แบบ Bi-Beam กระจังหน้าตาข่ายสีดำเงา พร้อมตัวถังสีใหม่ Supersonic Red ล้อโครเมี่ยมหลังคาดำ ล้ออัลลอย 18 – 19 นิ้วแล้วแต่รุ่น
- สามารถเลือกซื้อ RAV4 Prime XSE ไฟส่องสว่างกลางวันแนวตั้ง และล้ออัลลอย 19 นิ้วทูโทน ยังสามารถติดตั้งหลังคาสีดำได้อีกด้วย
ภายในห้องโดยสาร วัสดุหุ้มหนังดำเดินด้ายแดง และ โครเมี่ยม เบาะหนังสีดำคาดแดงพร้อมเดินด้ายแดง ทั้งคอนโซลหน้า คอนโซลกลาง พวงมาลัย และแผงข้างประตู ติดตั้งหน้าจอควบคุมเครื่องเสียงแบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay® และ Android Auto, HUD หรือ Head-up Display ระบบอุ่นเบาะด้านหน้าและหลัง ประตูท้ายแบบพาวเวอร์ หลังคาพาโฯรามา ความจุสัมภาระคือ 520 ลิตร (18.3 ลูกบาศ์กฟุต) พื้นที่แบตเตอรี่ 60 ลิตร
- สำหรับ $ 1,665 ประมาณ 52,900 บาท เพิ่มเติมลูกค้าสามารถรับแพ็คเกจ Weather & Moonroof พวงมาลัยระบบอุ่นด้านหลัง ที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ และ Moonroof
- แพ็คเกจ Weather and Audio ราคา $ 2,435 ประมาณ 77,400 บาท ประกอบด้วยอุปกรณ์ดังกล่าวทั้งหมดรวมถึงระบบเครื่องเสียง JBL พรีเมียมระบบนำทางแบบไดนามิก ฟรี 3 ปี และ ระบบช่วยเหลือปลายทาง ฟรี 1 ปี
- แพ็คเกจ Weather with Audio and Premium” ซึ่งมีราคา 5,760 ดอลลาร์ ประมาณ 183,000 บาท มีทั้งสองแพ็คเก็จดังกล่าว แต่เพิ่มเติม ระบบระบายความร้อน / ระบายอากาศที่นั่งผู้โดยสารแบบสี่ทิศทาง หลังคาพาโนรามา จอแสดงผลแบบ head-up, กระจกมองหลังแบบดิจิตอล, ประตูท้ายเปิดด้วยระบบสัมผัส กล้องรอบทิศ และ เต้าเสียบ 120V บริเวณพื้นที่เก็บสัมภาระ
ระบบความปลอดภัย Toyota’s Safety Sense system
- ระบบเตือนผู้ขับขี่พร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติก่อนจะเกิดการชน Pre-Collision System autonomous braking with pedestrian and cyclist detection
- ระบบระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ full-speed Dynamic Radar Cruise Control (DRCC)
- ระบบเตือนเมื่อรถและหน่วงพวงมาลัยเมื่อออกนอกเลน Lane Departure Alert (LDA) with steering assist
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beam (AHB)
- ระบบควบคุมรถบนเส้นทางไร้เส้นแบ่งเลนถนน Lane Tracing Assist (LTA)
- ระบบควบคุมเฟืองท้ายอัตโนมัติ Trail Mode เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการยึดเกาะถนนและสามารถควบคุมรถยนต์ได้ดีในขณะที่วิ่งอยู่บนพื้นถนนที่ลื่น