อดใช้รุ่นใหม่ Toyota Sienta ยุติการจำหน่ายในประเทศไทย โฉมใหม่ก็ไม่ขาย

 

Toyota Sienta โตโยต้า เซียนต้า ยุติการจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ พร้อมลบข้อมูลออกจากเว็บไซต์ TOYOTA.CO.TH หลังจากการเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2559 หรือเป็นเวลากว่า 7 ปีในการทำตลาด MPV คันนี้ พร้อมยืนยันไม่ขายตัวใหม่ 

โตโยต้า เซียนต้า รุ่นที่ 2 เปิดตัวครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี พ.ศ. 2558 และได้เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2559 ที่ห้องคริสตัลฮอลล์ ชั้น 3 โรงแรมพลาซ่า แอทธินี เป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่โตโยต้า เซียนต้าได้มาทำการตลาด และใช้สโลแกนในการเปิดตัวว่า “ALL NEW SIENTA… Bring it ALL” โฉมนี้ มาพร้อมเครื่องยนต์เดียวกันกับโตโยต้า วีออส 2NR-FE ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 108 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 140 นิวตัน–เมตร ที่ 4,200 รอบต่อนาที ใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT 7 จังหวะ ซึ่งสามารถรองรับน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ E20 ได้ และมีอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ 16.1 กิโลเมตรต่อลิตร โตโยต้า เซียนต้าในประเทศไทย มีรุ่นย่อย 2 รุ่นคือรุ่น V และรุ่น G โดยทั้งคู่ไม่มีเกียร์ธรรมดาและไม่มีระบบไฮบริดแบบประเทศญี่ปุ่น มาพร้อมสีส้ม สีเงิน สีขาว และสีดำ นำเข้าจากอินโดนีเซีย

Toyota Sienta ปรับโฉม 2562

มีสีทั้งหมด 4 สี ได้แก่ Super White ll, Sliver Metallic, Attitude Black Mica และสีใหม่ Citrus Mica Metallic ซึ่งสวยงาม จัดจ้านกว่าที่เคย โดยยังคงมี 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น 1.5V AT และ 1.5G AT และใช้สโลแกนในการเปิดตัวว่า “Sienta รุ่นปรับโฉมใหม่ 2562 คลิกให้ชีวิตสุดชิค (Chic Clicks)” ทางด้านการสื่อสารทางการตลาด เซียนต้า รุ่นปรับปรุงใหม่ เปิดตัวภายใต้แนวคิด “คลิกให้ชีวิตสุดชิค” (Chic Clicks) เพื่อแสดงถึงความสะดวกสบาย และความง่ายดายต่อการใช้งานฟังก์ชันต่างๆ เพียงแค่คลิก

พร้อมสะท้อนดีไซน์และไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัยของผู้ใช้ ดีไซน์ภายนอกได้รับการปรับเปลี่ยนให้ดูมีเอกลักษณ์ พร้อมสี Citrus ใหม่ ภายในห้องโดยสารดีไซน์ใหม่พร้อมที่พักแขน 3 จุด และหน้าจอสัมผัสใหม่ เชื่อมต่อแอปพลิเคชันได้ อีกทั้งยังเพิ่มฟังก์ชันความปลอดภัยด้วยกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา กล้องบันทึกภาพหน้า-หลังรถ และสะดวกสบายด้วยประตูข้างสไลด์อัตโนมัติที่มีเพียงในเซียนต้าเท่านั้น นอกจากฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครันแล้ว เซียนต้า รุ่นปรับปรุงใหม่ มาในราคาที่คุ้มค่าตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า

และการปรับโฉมล่าสุด 2565 อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป ความสดใหม่ ก็ลดลง ทำให้การรับรู้ของผู้บริโภค ว่ายังมีรถยนต์รุ่นนี้ ทำตลาดอยู่ ก็ลดลง ทำให้ Toyota ตัดสินใจ Upgrade อุปกรณ์ ให้ Sienta ยังคงความสดใหม่อยู่ในตลาดต่อไปได้อีกสักพักใหญ่ๆ

จุดที่มีความเปลี่ยนแปลง จากรุ่นเดิม มี 3 รายการ ดังนี้

• เบาะหนังและวัสดุกึ่งสังเคราะห์ สีดำ-เทา ในรุ่น 1.5 V
• เครื่องเล่นวิทยุหน้าจอ Touchscreen รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อม Bluetooth, USB
• กล้องบันทึกภาพหน้า – หลังรถ (Digital Video Recorder) เข้าถึงภาพและ Video ได้แบบ Realtime ผ่านทาง Mobile Application Toyota DVR

ราคามีการปรับขึ้น

• 1.5 G CVT : 775,000 บาท (เพิ่ม 10,000 บาท)
• 1.5 V CVT : 889,000 บาท (เพิ่ม 14,000 บาท)

Toyota Sienta Mini MPV 2023 ราคาถูกสุดในญี่ปุ่นเริ่มต้นเพียง 480,000 บาท

 

10 อันดับรถยนต์ MINI VAN ราคาถูกสุดในประเทศญี่ปุ่นประจำปี 2023 อัพเดทล่าสุด รถมินิแวนมักจะมีราคาค่อนข้างแพง และรถญี่ปุ่นหลายคันที่มีราคาตั้งแต่ 3 ล้านเยนขึ้นไป

การสำรวจรถมินิแวนราคาถูกที่ขาย ณ เดือนเมษายน 2023 พบว่า “Sienta” ของ Toyota เริ่มขายในราคาที่ต่ำมากตั้งแต่ 1,950,000 เยน หลังจากนั้น Honda “Freed” และ Nissan “Serena” ก็อยู่ในช่วง 3 ล้านเยนเช่นกัน “สเต็ปแวกอน” ของฮอนด้าก็อยู่ในอันดับที่ 5 และมีแนวโน้มว่าจะมีราคาถูก ยิ่งไปกว่านั้นคือ Toyota มีรถมินิแวนให้เลือกมากมาย เนื่องจาก Toyota มีเพียง “5 รุ่น” Honda มี “2 รุ่น” และ Nissan และ Mitsubishi มีเพียง “1 รุ่น” รา

คาจำหน่าย MINI VAN เรียงถูก-แพง ในญี่ปุ่น

1. Toyota Sienta X 2WD ¥1,950,000 เยน หรือประมาณ 480,000 บาท
2. Honda Freed G 2WD ¥2,330,900 เยน หรือประมาณ 574,000 บาท
3. Nissan Serena M 2WD ¥2,768,700 เยน หรือประมาณ 682,000 บาท
4. Toyota Hiace Wagon DX 2WD ¥2,903,600 เยน หรือประมาณ 715,000 บาท
5. Honda Step WGN AIR 2WD ¥2,998,600 เยน หรือประมาณ 739,000 บาท
6. Toyota Noah X 2WD ¥3,050,000 เยน หรือประมาณ 751,000 บาท
7. Toyota Voxy X 2WD ¥3,090,000 เยน หรือประมาณ 761,000 บท
8. Suzuki Landy GT 2WD ¥3,106,400 เยน หรือประมาณ 765,000 บาท
9. Mitsubishi Delica D:5 X 2WD ¥4,001,800 เยน หรือประมาณ 986,000 บาท
10. Toyota Alphard X 2WD ¥5,400,000 เยน หรือประมาณ 1,330,000 บาท

 

Toyota Sienta

 

 

Toyota Sienta เจนที่ 3 พึ่งเปิดตัวในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2022 ระยะเวลาเพียง 5 วันสามารถทำยอดสั่งจองกว่า 30,000 คัน ตามรายงานของ Creative311.com

อ้างอิงข้อมูลดีลเลอร์โตโยต้า ในประเทศญี่ปุ่น พวกเขาเปิดรับคำสั่งพรีออเดอร์ตั้งแต่ 2 สิงหาคม 2022 โดยเกรดขายดีสุดคือรุ่น Z นอกจากนี้ยังมีรุ่น G ตามลำดับโดยมียอดการส่งมอบล่าช้าถึง เมษายน 2023

วันที่ 23 สิงหาคม 2022 TOYOTA Sienta MPV ขนาดเล็ก เจนที่ 3 ประกาศเปิดตัวในประเทศญี่ปุ่น พัฒนาบนแพลตฟอร์ม TNGA GA-B ร่วมกับ YARIS มีให้เลือกทั้ง 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง ราคาจำหน่าย 1,950,000 – 3,108,000 เยน หรือประมาณ 480,000 – 765,000 บาท

Sienta ใหม่ ภายนอกเน้นการออกแบบที่กระชับมากขึ้น การออกแบบวงกลมและสี่เหลี่ยม “ชิกากุมารุ” ที่เรียบง่าย มุมโค้งมนสร้างสัดส่วนอย่างสมดุล บนตัวถังทูโทนแดงเมทัลลิก หลังคาสีเทาเข้ม ไฟหน้า LED Bi-Beam (พร้อมฟังก์ชั่นปรับระดับอัตโนมัติ) + ไฟเลี้ยว LED + ไฟหรี่ LED ตะแกรงหน้ารูปตัว U นอกจากนี้ยังมีสีขาว White Pearl Crystal Shine ปรากฏให้เห็นพร้อมบานประตูเลื่อน 2 ข้าง ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว ไฟท้ายแบบ LED แนวตั้งออกแบบใหม่

ขนาดตัวถัง

• ยาว 4,260 มิลลิเมตร
• กว้าง 1,695 มิลลิเมตร
• สูง 1,695-1,715 มิลลิเมตร
• ฐานล้อยาว 2,750 มิลลิเมตร

ภายในห้องโดยสารจุได้ 5 – 7 คน แล้วแต่รุ่น หน้าปัด Optitron + จอแสดงผลข้อมูลสี TFT ขนาด 7.0 นิ้ว ติดตั้งหน้าจอส่วนกลางแบบลอยขนาด 10.5 นิ้ว หน้าจอด้านหลังขนาด 12.1 นิ้ว ใหม่ กล้องแบบ 360 องศา จอภาพแบบพาโนรามา PVM

• Sienta ใหม่ ติดตั้งช่องจ่ายไฟฉุกเฉินเป็นมาตรฐานในทุกรุ่น รองรับการทำงานในช่วงไฟฟ้าดับ กำลังจ่ายไฟสูงสุด 1,500 วัตต์ ไฟกระแสสลับ 100 โวลต์

เบนซินไฮบริด 1.5 ลิตร

• เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร รหัส M15A-FKS Hybrid System II ให้กำลัง 91 แรงม้า ที่ 5500 รอบต่อนาที แรงบิต 120 นิวตัน-เมตร ที่ 3800 – 4800 รอบต่อนาที มอเตอร์ไฟฟ้า 80 แรงม้า แรงบิต 141 นิวตัน-เมตร ให้กำลังรวม 116 แรงม้า ส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ระบบขับเคลื่อน 2WD และ E-Four

2WD

• อัตราประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 28.2 กม./ลิตร WLTC
• ในเมือง 27.1 กม./ลิตร WLTC
• นอกเมือง 29.8 กม./ลิตร WLTC
• ทางหลวง  27.6 กม./ลิตร WLTC

E-FOUR

• อัตราประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 25.3 กม./ลิตร WLTC
• ในเมือง 25.5 กม./ลิตร WLTC
• นอกเมือง 26.2 กม./ลิตร WLTC
• ทางหลวง  24.7 กม./ลิตร WLTC

เบนซิน 1.5 ลิตร

• เครื่องยนต์เบนซิน Dynamic Force 1.5 ลิตร 3 สูบ (M15A-FKS) + Direct Shift-CVT ให้กำลัง 120 แรงม้า ที่ 6,600 รอบต่อนาที แรงบิต 145 นิวตัน-เมตร ที่ 4,800 – 5,200 รอบต่อนาที  ส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ Direct Shift-CVT 10 สปีต ระบบขับเคลื่อน 2WD

2WD

• อัตราประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 18.3 กม./ลิตร WLTC
• ในเมือง 14.1 กม./ลิตร WLTC
• นอกเมือง 19.1 กม./ลิตร WLTC
• ทางหลวง  20.3 กม./ลิตร WLTC

Toyota Safety Sense 

• PRE-COLLISION SYSTEM ระบบความปลอดภัยก่อนการชน
• LANE DEPARTURE ALERT ระบบเตือนออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ
• DYNAMIC RADAR CRUISE CONTROL ระบบควบคุมและปรับความเร็วอัตโนมัติ
• AUTOMATIC HIGH BEAMS ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ
• ระบบช่วยขับขี่เชิงรุก Proactive Driving Assist
• ระบบช่วยในการขับขี่อัตโนมัติ Toyota Teammate พร้อม Advance Park ช่วยจอดรถอัตโนมัติได้แบบขนาน
• กล้อง 360 องศา
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ แบบแปรผัน Adaptive Cruise Control All-Speed with Stop & Go
• ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง RCTA
• ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM
• ระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งผิดวิธี Pedal Misoperation Control
• ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนตัว Front Departure Alert

https://www.car250.com/honda-freed-crosstar-black-style.html https://www.car250.com/nissan-serena-e-power-04-japan.html https://www.car250.com/toyota-noah-voxy-2022.html https://www.car250.com/toyota-voxy-color-6.html https://www.car250.com/16000-comitsubishi-delica-mini.html https://www.car250.com/toyota-alphard-2023-7.html