โลกสั่นสะเทือน! ทรัมป์ขู่รีเซ็ตภาษีนำเข้า “รอบใหม่” ใน 3 สัปดาห์ อาจสูงถึง 50% ในหลายประเทศ

สรุปข่าว: ทรัมป์เตรียมรีเซ็ตภาษีนำเข้าใหม่ เสี่ยงปะทุสงครามการค้าอีกครั้ง

• ทรัมป์เผย อาจกลับมาใช้ภาษี “ตอบโต้” กับหลายประเทศใน 2-3 สัปดาห์ หากไม่มีข้อตกลงทางการค้า
• ภาษีใหม่อาจสูงถึง 50% ยกเว้นจีนที่เคยถูกตั้งไว้แล้วถึง 145%
• สหรัฐฯ ปัจจุบันมี ภาษีนำเข้าพื้นฐาน 10% กับสินค้าส่วนใหญ่ และสูงกว่าสำหรับบางรายการ
• ภาษีที่เปลี่ยนไปมาทำให้ตลาดปั่นป่วน S&P 500 สูญมูลค่าไปแล้ว 7 ล้านล้านดอลลาร์
• รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ชี้สงครามการค้ากับจีน “ไม่ยั่งยืน” และคาดว่าจะเริ่มคลี่คลายในไม่ช้า แต่การกลับสู่ภาวะปกติอาจใช้เวลา 2-3 ปี
• จีนตอบกลับด้วยถ้อยคำแข็งกร้าว เรียกร้องให้สหรัฐฯ หยุดข่มขู่ และเจรจาบนพื้นฐานของ “ความเท่าเทียม”
• ทรัมป์ยังเชื่อว่า การค้ากับจีน “ไม่เป็นธรรม” แต่เขา “ยังเข้ากันได้ดีกับประธานาธิบดีสี” และพร้อมเจรจาหากจำเป็น

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเมื่อวันพุธว่า เขาอาจนำภาษี “ตอบโต้” กลับมาใช้กับบางประเทศภายในเวลาเพียง 2 หรือ 3 สัปดาห์ ซึ่งอาจถือเป็นการปะทุครั้งใหม่ของสงครามการค้าระดับโลกที่ได้สร้างความกังวลเกี่ยวกับภาวะถดถอยในสหรัฐฯ และทั่วโลกแล้วก่อนหน้านี้

“สุดท้ายแล้ว ผมคิดว่าเราจะได้ข้อตกลงที่ดีมาก และถ้าไม่มีข้อตกลงกับบริษัทหรือประเทศใด ๆ เราก็จะตั้งภาษี” ทรัมป์กล่าวระหว่างพิธีในห้องทำงานรูปไข่ “อีกสักสองถึงสามสัปดาห์ คุณว่าไหม? ผมก็คิดแบบนั้น เราจะกำหนดตัวเลข”

ทรัมป์ได้ระงับภาษีตอบโต้ขนาดใหญ่ของเขาไว้ชั่วคราวเมื่อวันที่ 9 เมษายน ซึ่งแม้จะเรียกว่าภาษี “ตอบโต้” แต่ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นจริง ๆ โดยการพักชั่วคราวนี้มีระยะเวลา 90 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้ประเทศต่าง ๆ เจรจากับฝ่ายบริหารของเขา เจ้าหน้าที่รัฐบาลทรัมป์กล่าวว่ามีราว 90 ถึง 100 ประเทศแสดงความประสงค์ที่จะเจรจา ซึ่งเป็นภาระงานมหาศาลที่ทำให้ผู้เจรจาการค้าต้องแข่งกับเวลาในการทำข้อตกลงใหม่ให้ทันเวลา

หากไม่มีข้อตกลงที่ได้จากการเจรจา ทรัมป์อาจกำหนดภาษีนำเข้ากับประเทศต่าง ๆ สูงถึง 50% – ยกเว้นจีน ซึ่งฝ่ายบริหารของเขากำหนดไว้ที่ระดับสูงมากถึง 145%

ยังไม่ชัดเจนว่าทรัมป์จะกำหนดภาษีใหม่ในอัตราเท่าใดกับประเทศที่ไม่สามารถทำข้อตกลงกับสหรัฐฯ ได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า – และภาษีใหม่เหล่านี้จะมาแทนที่ภาษีตอบโต้ที่ถูกระงับไว้ถาวรหรือจะเป็นเพียงมาตรการชั่วคราวระหว่างการเจรจาเท่านั้น ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ยังคงเรียกเก็บภาษีนำเข้าระดับ 10% สำหรับแทบทุกสินค้า และมีอัตราที่สูงขึ้นกับสินค้าบางประเภท

ท่าทีที่เปลี่ยนไปมาของทรัมป์ในเรื่องภาษี ได้สร้างความไม่แน่นอนอย่างมากให้กับภาคธุรกิจและผู้บริโภค และยังส่งผลให้ตลาดผันผวน โดยมูลค่าตลาดหุ้น S&P 500 หายไปแล้วกว่า 7 ล้านล้านดอลลาร์นับตั้งแต่จุดสูงสุดในกลางเดือนกุมภาพันธ์ แม้จะมีการฟื้นตัวของตลาดหุ้นในช่วงสองวันที่ผ่านมา

องค์กรใหญ่หลายแห่งเตือนถึงแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะที่มาตรการภาษีนำเข้าของทรัมป์กำลังเปลี่ยนแปลงรูปแบบการค้าโลกและการไหลเวียนของเงินทุนทั่วโลก

สงครามการค้ากับจีน – อาจผ่อนคลาย?

แม้ว่าภาษีตอบโต้กับหลายประเทศจะถูกระงับไว้ แต่สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนกลับทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา จนทำให้วอลล์สตรีทและนักเศรษฐศาสตร์หลายคนตื่นตระหนก ธนาคารใหญ่ ๆ หลายแห่งคาดการณ์ว่าภาษีที่สูงมาก – และการตอบโต้ของจีนที่ออกมาตอบกลับด้วยการเก็บภาษีสินค้าอเมริกัน – จะผลักดันเศรษฐกิจสหรัฐฯ และโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย

รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ สก็อตต์ เบสเซนต์ กล่าวเมื่อวันอังคารในที่ประชุมการลงทุนส่วนตัวของ JP Morgan Chase ว่า สงครามการค้ากับจีน “อยู่ในจุดที่ไม่ยั่งยืน” และเขาคาดว่า “จะมีการคลี่คลายในอนาคตอันใกล้” แหล่งข่าวใกล้ชิดยืนยันกับ CNN

เขากล่าวว่าภาษีที่ใช้อยู่ในขณะนี้นั้นเปรียบเสมือนการคว่ำบาตรซึ่งกันและกัน ทำให้การทำธุรกิจระหว่างกันเป็นไปไม่ได้

ทรัมป์แสดงความเห็นในลักษณะเดียวกันในวันพุธ

“145% นี่เป็นตัวเลขที่สูงมาก” ทรัมป์กล่าว “แต่ผมยังไม่ได้ลดลง มันหมายความว่าจีนแทบไม่ได้ทำธุรกิจกับเราเลย เพราะมันเป็นตัวเลขที่สูงมากจริง ๆ”

แม้เขาจะกล่าวว่าภาษีจะลดลงในไม่ช้า เบสเซนต์ก็ยังมองว่าจะไม่มีการยกเลิกภาษีโดยสมบูรณ์ ซึ่งทรัมป์เองก็แสดงความเห็นคล้ายกัน

เบสเซนต์บอกกับนักลงทุนว่า เป้าหมายไม่ใช่การแยกตัวออกจากจีนอย่างสิ้นเชิง แต่เป็นการ “ปรับสมดุลทางการค้า” อย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ตาม เขาให้ความเห็นในอีกเวทีหนึ่งว่า การกลับคืนสู่การค้าปกติกับจีนอาจต้องใช้เวลาระหว่าง 2 ถึง 3 ปี

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พุ่งขึ้นทันทีหลังจากถ้อยแถลงของเบสเซนต์ในวันอังคาร และยังคงปรับขึ้นในวันพุธ ขณะที่ฟิวเจอร์สของหุ้นสหรัฐฯ แทบไม่ขยับหลังปิดตลาดในวันพุธ

จีนตอบกลับสหรัฐฯ ด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

แม้จะมีท่าทีเปิดเจรจาใหม่จากฝ่ายสหรัฐฯ ทางการจีนก็ออกแถลงการณ์ตอบโต้โดยเรียกร้องให้สหรัฐฯ เปลี่ยนแนวทางการเจรจา

“เรายินดีเปิดประตูหากสหรัฐฯ ต้องการพูดคุย หากสหรัฐฯ ต้องการทางออกด้วยการเจรจาอย่างแท้จริง ก็ไม่ควรใช้การข่มขู่และแบล็กเมล์ แต่ควรพูดคุยกันบนพื้นฐานของความเท่าเทียม เคารพซึ่งกันและกัน และผลประโยชน์ร่วมกัน” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กัว เจียคุน กล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันพุธ ตามรายงานที่โพสต์บนเว็บไซต์ของรัฐบาลจีน

“การเรียกร้องให้มีข้อตกลงขณะเดียวกันก็ใช้แรงกดดันอย่างรุนแรง ไม่ใช่วิธีที่ใช้ได้กับจีน และจะไม่ได้ผล” เขาเสริม

แม้ทรัมป์จะกล่าวเมื่อวันอังคารว่าเขาคาดว่าภาษีกับจีนจะ “ลดลงอย่างมาก” แต่ในวันพุธเขายังยืนยันว่าเขาจะไม่รอข้อตกลงตลอดไป ไม่ว่าจะกับประเทศใดก็ตาม รวมถึงจีนด้วย โดยระบุว่าภายในไม่กี่สัปดาห์ รัฐบาลของเขาอาจกลับมาใช้ภาษีเหล่านั้นอีกครั้ง

ทรัมป์เรียกการค้ากับจีนว่า “ไม่เป็นธรรมอย่างยิ่ง” แต่ก็เสริมว่า “เราก็ยังเข้ากันได้ดี” พร้อมไม่ใส่ใจถ้อยคำรุนแรงจากรัฐบาลจีนในวันพุธ

“ผมเข้ากันได้ดีกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง” ทรัมป์กล่าว “ผมยังคาดหวังว่าเราจะสามารถทำข้อตกลงกันได้ แต่ถ้าไม่ได้ เราก็จะตั้งราคาไว้เอง”

edition

ประเทศไทยโดนเรียกเก็บภาษีนำเข้าแผงโซลาร์ในสหรัฐฯ สูงสุด 375.2% จีนประกาศ!