เผยราคาเริ่ม 3.60 ล้านบาทในยุโรป ข้อมูล VOLVO ES90 EV 700 กม./ชาร์จ WLTP













































































































































บางคนอาจมองว่า ES90 เป็นรถซีดาน ในขณะที่คนอื่นๆ อาจมองว่าเป็นฟาสต์แบ็ก หรือแม้แต่มีลักษณะคล้าย SUV เราขอให้คุณเป็นผู้ตัดสินเอง! สิ่งที่เราทราบแน่ชัดคือ Volvo ES90 ได้สร้างนิยามใหม่ให้กับยานยนต์ไฟฟ้า โดยผสานความโดดเด่นของรถซีดาน ความปรับตัวได้ของฟาสต์แบ็ก และความกว้างขวางของ SUV ไว้ในหนึ่งเดียว ราคาจำหน่ายในยุโรป £83,250 – 87,850 หรือ 3.60 – 3.80 ล้านบาท
- Single Motor Extended Range: £69,650
- Twin Motor: £83,250
- Twin Motor Performance: £87,850
ดีไซน์ภายนอกของ Volvo ES90
โฉบเฉี่ยว โดดเด่น และใช้งานได้จริง เมื่อมองจากด้านข้าง สิ่งที่เห็นได้ชัดคือเส้นสายที่มั่นใจและโดดเด่นของรถคันนี้ โดยมีความสูงใต้ท้องรถที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้ทัศนวิสัยการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น เส้นหลังคาที่โค้งไหลลื่นช่วยเสริมความสง่างาม ควบคู่ไปกับการเพิ่มประสิทธิภาพแอโรไดนามิกเพื่อช่วยลดแรงต้านอากาศและเพิ่มระยะทางขับขี่
- ไฟหน้า “ค้อนแห่งธอร์” (Thor’s Hammer) ที่เป็นเอกลักษณ์ของวอลโว่ ผสานความคลาสสิกและความล้ำสมัยเข้าไว้ด้วยกัน
- ไฟท้าย LED ทรงตัว C พร้อมไฟ LED เสริมในกระจกหลัง สร้างลวดลายแสงที่โดดเด่นทั้งตอนล็อคและปลดล็อครถ
- ตัวเลือกสีภายนอก 7 สี และล้อขนาด 20-22 นิ้วที่ช่วยเสริมสไตล์ของรถ
- ฝากระโปรงท้ายขนาดใหญ่ รองรับสัมภาระได้ถึง 424 ลิตร และขยายได้ถึง 733 ลิตรเมื่อพับเบาะหลังทั้งหมด
ดีไซน์ภายใน: ความสะดวกสบายและฟังก์ชันล้ำสมัย
พื้นที่กว้างขวางและความประณีตแบบสแกนดิเนเวียน ด้วยระยะฐานล้อที่ยาวถึง 3.1 เมตร ทำให้ผู้โดยสารตอนหลังมีพื้นที่วางขาที่กว้างขวาง เบาะรองรับการเดินทางไกลได้ดี และสามารถเลือกวัสดุเบาะและแสงไฟบรรยากาศภายใน 6 โทนสีเพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย
- หลังคาพาโนรามิกปรับแสงได้ ป้องกันรังสี UV ได้ถึง 99.9% และสามารถปรับระดับความทึบเพื่อช่วยลดแสงจ้า
- ระบบฟอกอากาศขั้นสูง สามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้ถึง 95% และกำจัดสารก่อภูมิแพ้จากละอองเกสรหญ้า ต้นไม้ และดอกไม้ได้ถึง 99.9%
- ระบบเสียงระดับพรีเมียม จาก Bowers & Wilkins พร้อมลำโพง 25 ตัว รวมถึงลำโพงในพนักพิงศีรษะและเพดาน รองรับระบบเสียง Dolby Atmos® และมีโหมดพิเศษที่จำลองเสียงใน Abbey Road Studios แห่งลอนดอน
เทคโนโลยีและสมรรถนะล้ำยุค
Volvo ES90 เป็นรถรุ่นแรกของวอลโว่ที่ใช้ เทคโนโลยี 800 โวลต์ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดเวลาการชาร์จให้เร็วขึ้น
- ชาร์จเร็วขึ้น: สามารถชาร์จไฟที่สถานีชาร์จ 350 kW ได้ถึง 300 กิโลเมตรในเวลาเพียง 10 นาที
- ระยะทางการขับขี่ไกลถึง 700 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP)
- แอโรไดนามิกดีเยี่ยม: มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ (Cd) ที่ต่ำเพียง 0.25 ซึ่งช่วยให้ประหยัดพลังงานและวิ่งได้ไกลขึ้น
ระบบความปลอดภัย Safe Space Technology
“ปลอดภัยที่สุดเท่าที่ Volvo เคยสร้างมา”
- เซ็นเซอร์ขั้นสูง: ประกอบด้วยเรดาร์ 5 ตัว กล้อง 7 ตัว อัลตราโซนิก 12 ตัว และ LIDAR จาก Luminar Technologies ที่สามารถตรวจจับวัตถุได้ไกลกว่ามนุษย์
- ระบบตรวจจับผู้ขับขี่: สามารถตรวจสอบระดับสมาธิของผู้ขับขี่ และแจ้งเตือนหรือช่วยควบคุมรถหากจำเป็น
- ระบบป้องกันอุบัติเหตุ: แจ้งเตือนขณะเปิดประตูเพื่อป้องกันอุบัติเหตุกับจักรยานหรือคนเดินถนน และมีระบบตรวจจับผู้โดยสารในรถเพื่อป้องกันการลืมเด็กหรือสัตว์เลี้ยงไว้ในรถ
พร้อมให้สั่งจองแล้ว
Volvo ES90 พร้อมให้สั่งจองแล้วในหลายประเทศทั่วยุโรป รวมถึงออสเตรีย เบลเยียม ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ สเปน สวีเดน และสหราชอาณาจักร โดยจะมีการขยายตลาดเพิ่มเติมในปี 2026
Volvo ES90 เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ใช้ เทคโนโลยี 800 โวลต์ ช่วยให้ชาร์จเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สเปคข้อมูลด้านเทคนิคอย่างละเอียด
Single Motor Extended Range
- ให้กำลัง 333 แรงม้า
- แรงบิด 480 นิวตัน-เมตร
- เร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.9 วินาที
- แบตเตอรี่ 92kWh วิ่งได้ 650 กม./ชาร์จ WLTP
- ระยะเวลาชาร์จแบตเตอรี่: 8 – 10 ชั่วโมง (เต็ม) หรือ 20 นาที (ชาร์จเร็ว)
- ความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม.
Twin Motor
- ให้กำลัง 449 แรงม้า
- แรงบิด 670 นิวตัน-เมตร
- เร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.5 วินาที
- แบตเตอรี่ 106kWh วิ่งได้ 700 กม./ชาร์จ WLTP
- ระยะเวลาชาร์จแบตเตอรี่: 8 – 10 ชั่วโมง (เต็ม) หรือ 20 นาที (ชาร์จเร็ว)
- ความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม.
Twin Motor Performance
- ให้กำลัง 680 แรงม้า
- แรงบิด 870 นิวตัน-เมตร
- เร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.0 วินาที
- แบตเตอรี่ 106kWh วิ่งได้ 700 กม./ชาร์จ WLTP
- ระยะเวลาชาร์จแบตเตอรี่: 8 – 10 ชั่วโมง (เต็ม) หรือ 20 นาที (ชาร์จเร็ว)
- ความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม.
ข้อมูลแพลตฟอร์มของ Volvo ES90
- ประเภทเชื้อเพลิง: ไฟฟ้า
- ระบบขับเคลื่อน: RWD (ขับเคลื่อนล้อหลัง) หรือ AWD (ขับเคลื่อนสี่ล้อ)
- ระบบเกียร์: อัตโนมัติ
- จำนวนที่นั่ง: 5 ที่นั่ง
- น้ำหนักรถ (เปล่า): 2,003 – 2,132 กิโลกรัม
- น้ำหนักรวมสูงสุด: 2,850 – 3,040 กิโลกรัม
- น้ำหนักพ่วงสูงสุด: 1,600 – 2,000 กิโลกรัม
- น้ำหนักบรรทุกบนหลังคาสูงสุด: 75 กิโลกรัม
ขนาดตัวรถ
- ความยาว: 5,000 มม.
- ความกว้าง (รวมกระจก): 2,120 มม.
- ความสูง: 1,549 มม.
- ฐานล้อ: 3,102 มม.
- ความจุห้องเก็บสัมภาระ: 446 ลิตร (สูงสุด 1,256 ลิตรเมื่อพับเบาะ)
การออกแบบภายนอก
- ไฟหน้า High Definition Pixel Lights พร้อมระบบปรับลำแสงอัตโนมัติ
- ไฟส่องสว่างกลางวัน LED (Thor’s Hammer Design) เอกลักษณ์เฉพาะของ Volvo
- ไฟท้ายแบบ Full LED ดีไซน์เรียวยาวโอบรับกับตัวรถ
- กันชนหน้า-หลังออกแบบให้กลมกลืน พร้อมแถบตกแต่งโครเมียม
- กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าพร้อมไล่ฝ้า และระบบพับอัตโนมัติ
- กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED แบบ Slim Design
- กระจังหน้าแบบปิดสีเดียวกับตัวรถ (Body-Coloured Covered Grille)
- แถบตกแต่งรอบกระจกโครเมียม/ดำเงา (High-Gloss Black Side Window Trim)
- มือจับประตูแบบ Flush พร้อมไฟส่องพื้น (Ground Lighting)
- ฝากระโปรงหน้าดีไซน์ไหลลื่น เพิ่มประสิทธิภาพอากาศพลศาสตร์
- กระจกหน้ากันเสียงรบกวน (Acoustic Laminated Glass)
- กระจกหลังและกระจกข้างแบบกรองแสง (Tinted Windows) ลดความร้อนจากภายนอก
- ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ต ขนาด 19″, 20″ หรือ 21″ พร้อมลายเฉพาะ
- ซุ้มล้อดีไซน์สปอร์ต ช่วยเพิ่มความดุดัน
- หลังคาพาโนรามิค (Electrochromic Panoramic Roof) ปรับแสงอัตโนมัติ
- กันชนหลังพร้อมแถบสะท้อนแสง เพิ่มความปลอดภัยยามค่ำคืน
- สปอยเลอร์หลังแบบ Built-in เพิ่มแรงกดท้ายรถให้มั่นคงขึ้น
- โลโก้ Volvo แบบเรืองแสงที่กระจังหน้า (ในบางรุ่น)
- เส้นสายตัวถังแบบ Dynamic Proportion ช่วยให้รถดูปราดเปรียว
- ประตูไร้กรอบ (Frameless Doors – เฉพาะบางรุ่น) เพิ่มความพรีเมียม
- ไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED ฝังในสปอยเลอร์ท้าย
- ระบบเปิดฝาท้ายอัตโนมัติ (Hands-Free Power Tailgate)
- เสาอากาศแบบครีบฉลาม (Shark Fin Antenna)
- ล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว (5 ก้านสีดำเงาตัดเพชร)
การออกแบบภายในห้องโดยสาร
วัสดุและการตกแต่ง
- แดชบอร์ดและแผงประตูหุ้มหนังแบบพรีเมียม (Tailored Dashboard & Door Panels)
- วัสดุตกแต่งลายไม้แท้ เช่น Birch Decor และ Light Ash Decor
- หลังคาห้องโดยสารหุ้มผ้าพรีเมียม (Charcoal หรือ Dawn Headlining)
- พื้นห้องโดยสารปูพรมพรีเมียม (Premium Textile Cabin Floor Mats)
- แป้นเหยียบสแตนเลสสตีลแบบสปอร์ต
ที่นั่งและความสะดวกสบาย
- เบาะหนัง Nordico พรีเมียม พร้อมระบบระบายอากาศ
- เบาะหน้าแบบปรับไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ (Power Driver & Passenger Seat with Memory)
- เบาะนั่งคู่หน้ามีระบบนวด (Front Seat Massage)
- เบาะแถวหลังแบบ Lounge Armrest พร้อมช่องเก็บของ
- พนักพิงเบาะหลังปรับไฟฟ้า (Power Reclining Rear Seat Backrests)
- เบาะหน้าและหลังมีระบบทำความร้อนและระบายอากาศ
- พนักพิงศีรษะแบบออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์
ระบบควบคุมอุณหภูมิและคุณภาพอากาศ
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 4 โซน (Four-Zone Climate System)
- เครื่องฟอกอากาศภายในรถ (Air Purifier)
- ระบบพรีคลีนอากาศภายในรถจากระยะไกล (Remote Cabin Pre-Cleaning)
- ระบบทำความร้อนที่พวงมาลัย (Heated Steering Wheel)
- ใบปัดน้ำฝนพร้อมที่ฉีดน้ำอุ่น (Wiper Blades with Integrated Heating)
เทคโนโลยีและการเชื่อมต่อ
- หน้าจอสัมผัสขนาด 14.5 นิ้ว (14.5-inch Centre Display)
- หน้าจอแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-Up Display – HUD)
- ระบบเครื่องเสียง Bowers & Wilkins High Fidelity Audio
- ระบบสั่งงานด้วยเสียง Google Assistant
- การเชื่อมต่อ Apple CarPlay ไร้สาย
- ช่องเสียบ USB-C หลายตำแหน่ง
- แท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย (Wireless Phone Charging)
- ระบบอัปเดตซอฟต์แวร์แบบ OTA (Over-the-Air Updates)
ระบบแสงสว่างภายในห้องโดยสาร
- ไฟส่องสว่างภายในแบบ Ambient Light ปรับสีได้
- ไฟอ่านหนังสือ LED ด้านหน้าและด้านหลัง
- ไฟส่องเท้าที่แถวหน้าและแถวหลัง
- ไฟตกแต่งบริเวณที่จับประตูภายใน
พื้นที่เก็บสัมภาระและความอเนกประสงค์
- ที่เก็บสัมภาระด้านหน้า (Front Load Compartment – Frunk) ขนาด 22 ลิตร
- พื้นที่เก็บของท้ายรถสูงสุด 1,256 ลิตร (เมื่อพับเบาะหลัง)
- ฝาท้ายไฟฟ้าเปิด-ปิดแบบแฮนด์ฟรี (Hands-Free Power Tailgate)
- แผ่นปิดสัมภาระแบบพับเก็บได้ (Load Cover)
ระบบความปลอดภัย
ระบบป้องกันและลดความเสี่ยงจากการชน
- ระบบป้องกันการชนด้านหน้า (Collision Avoidance and Mitigation)
- ระบบช่วยหลบหลีกการชนคนเดินถนนและจักรยาน (Pedestrian and Cyclist Steering Avoidance)
- ระบบเบรกอัตโนมัติที่สี่แยก (Intersection Auto Brake)
- ระบบเตือนและช่วยป้องกันรถออกนอกเลน (Run-off Road Mitigation)
- ระบบแจ้งเตือนการเปิดประตูเมื่อมีรถหรือจักรยานใกล้เข้ามา (Door Opening Alert)
- ระบบเตือนมุมอับสายตาพร้อมช่วยบังคับเลี้ยว (BLIS™ – Blind Spot Information System)
- ระบบช่วยเบรกเมื่อถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert with Auto Brake)
- ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ 360 องศา (360° Camera with 3D View)
ระบบช่วยเหลือการขับขี่และป้องกันอุบัติเหตุ
- ระบบช่วยขับขี่กึ่งอัตโนมัติ (Pilot Assist)
- ระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control)
- ระบบแจ้งเตือนป้ายจราจร (Road Sign Information)
- ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ (Park Assist Pilot)
- กล้องรอบคันความละเอียดสูง (High-Definition 360° Camera)
- ไฟหน้า High Definition Pixel Lights พร้อมปรับอัตโนมัติ
- ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED แบบ “Thor’s Hammer”
- เซ็นเซอร์กะระยะรอบคัน (Front & Rear Parking Sensors)
ระบบปกป้องผู้โดยสาร
- โครงสร้างตัวถังแบบนิรภัย (High-Strength Steel Safety Cage)
- ถุงลมนิรภัยรอบคัน (Dual-Stage Airbags) รวมถึง:
- ถุงลมนิรภัยด้านหน้า
- ถุงลมด้านข้าง
- ถุงลมหัวเข่าฝั่งคนขับ
- ถุงลมนิรภัยม่านข้าง (Inflatable Curtain Airbags)
- ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง
- จุดยึดเบาะเด็ก ISOFIX ที่เบาะหลัง
- เบาะนั่งแบบป้องกันการบาดเจ็บจากแรงกระแทก (Whiplash Injury Protection)
ระบบความปลอดภัยจากการโจรกรรม
- กุญแจดิจิทัลแบบ NFC (NFC Smart Card Key & Digital Key Plus)
- ระบบสัญญาณกันขโมย (Alarm System)
- ระบบล็อกนิรภัยสำหรับเด็กแบบไฟฟ้า (Power Child Safety Lock)
- ระบบล็อกล้อกันขโมย (Lockable Wheel Bolts)
- กระจกข้างและกระจกหลังแบบกันกระสุน (Laminated Side & Rear Windows)
ระบบความปลอดภัยด้านสภาพอากาศ
- เซ็นเซอร์ตรวจจับฝนพร้อมที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ (Rain Sensor)
- ระบบทำความสะอาดไฟหน้า (Headlight Cleaning System)
- ที่ปัดน้ำฝนพร้อมที่ฉีดน้ำอุ่น (Heated Wiper Blades)
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist)
เทคโนโลยีการขับขี่ของ Volvo ES90
ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ
- Pilot Assist – ระบบช่วยขับขี่กึ่งอัตโนมัติที่ควบคุมพวงมาลัย ความเร็ว และระยะห่างจากรถคันหน้า
- Adaptive Cruise Control (ACC) – ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ตามสภาพการจราจร
- Lane Keeping Aid – ระบบช่วยควบคุมให้รถอยู่ในช่องทางจราจร
- Emergency Stop Assist – ระบบช่วยหยุดรถฉุกเฉินในกรณีที่ผู้ขับไม่ตอบสนอง
- Run-off Road Mitigation – ระบบช่วยป้องกันรถออกนอกเส้นทางโดยไม่ได้ตั้งใจ
- Driver Understanding System – ระบบตรวจจับความตั้งใจของผู้ขับขี่ และเตือนเมื่อมีอาการเหนื่อยล้า
ระบบเซ็นเซอร์และกล้องอัจฉริยะ
- กล้อง 360° พร้อมมุมมอง 3D – ให้ภาพรอบตัวรถแบบละเอียดเพื่อช่วยในการจอดและขับขี่
- High-Definition Pixel Lights – ไฟหน้าที่สามารถปรับลำแสงอัตโนมัติเพื่อไม่ให้รบกวนรถคันอื่น
- Rear Cross Traffic Alert – ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีรถเข้ามาทางด้านข้างขณะถอยหลัง
- Blind Spot Information System (BLIS™) – ระบบเตือนมุมอับสายตาพร้อมช่วยปรับพวงมาลัย
- Head-Up Display (HUD) – แสดงข้อมูลสำคัญบนกระจกหน้ารถเพื่อให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตา
- Road Sign Information – ระบบอ่านป้ายจราจรและแจ้งเตือนความเร็ว
- Parking Assist Pilot – ระบบช่วยจอดอัตโนมัติทั้งการจอดขนานและจอดเข้าซอง
เทคโนโลยีการควบคุมการขับขี่
- Active Chassis Control – ระบบควบคุมช่วงล่างให้เหมาะกับสภาพถนนและการขับขี่
- Active Air Suspension – ระบบช่วงล่างถุงลมอัจฉริยะ ปรับระดับความสูงของรถอัตโนมัติ
- Shift-by-Wire Transmission – ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบอิเล็กทรอนิกส์
- Drive Mode Select – ปรับโหมดการขับขี่ให้เหมาะกับสถานการณ์ เช่น Eco, Comfort, Dynamic
- Power Adjustable Steering Column – ปรับระดับพวงมาลัยไฟฟ้าตามต้องการ
- Hill Start Assist (HSA) – ป้องกันการไหลของรถขณะออกตัวบนทางลาดชัน
- Hill Descent Control (HDC) – ระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน
ระบบการจัดการพลังงาน
- One-Pedal Driving – ระบบขับขี่ด้วยคันเร่งเพียงอย่างเดียว ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่
- Regenerative Braking – ระบบเบรกที่ช่วยชาร์จพลังงานกลับเข้าแบตเตอรี่
- Heat Pump Technology – ระบบใช้ความร้อนจากแบตเตอรี่ช่วยลดการใช้พลังงานจากระบบทำความร้อน
- Battery Preconditioning – ระบบปรับอุณหภูมิแบตเตอรี่ให้เหมาะสมก่อนการใช้งาน
ระบบควบคุมและเชื่อมต่ออัจฉริยะ
- 14.5-inch Centre Display – หน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ ใช้งานง่ายและตอบสนองรวดเร็ว
- Wireless Apple CarPlay – เชื่อมต่อ iPhone กับรถแบบไร้สาย
- Volvo Cars App Remote Functions – ควบคุมการล็อครถ ตรวจสอบระดับแบตเตอรี่ และเปิดแอร์ผ่านสมาร์ทโฟน
- Over-the-Air Software Updates (OTA) – อัปเดตซอฟต์แวร์ของรถโดยไม่ต้องเข้าศูนย์บริการ
- Google Assistant Integration – ใช้คำสั่งเสียงเพื่อควบคุมระบบต่างๆ ของรถ
- 5G Connectivity – รองรับเครือข่าย 5G เพื่อการเชื่อมต่อที่รวดเร็ว
ระบบขับขี่สำหรับสภาพอากาศและภูมิประเทศที่หลากหลาย
- Snow Mode – โหมดขับขี่บนถนนที่มีหิมะหรือพื้นผิวลื่น
- Off-Road Mode – โหมดสำหรับการขับขี่บนพื้นผิวขรุขระ
- Wiper Blades with Integrated Heating – ใบปัดน้ำฝนพร้อมระบบทำความร้อน ป้องกันน้ำแข็งเกาะ
VOLVO ES90 เตรียมขายไทยปีนี้
เมื่อปีที่แล้ว Volvo ได้เปิดตัวภาพพรีวิวรุ่น ES90 อย่างเป็นทางการ รถรุ่นใหม่นี้วางตำแหน่งเป็นซีดานไฟฟ้าขนาดใหญ่ ใช้การออกแบบใหม่ทั้งหมด และติดตั้งชุดแบตเตอรี่ขนาด 111kWh รถใหม่นี้เป็นซีดานไฟฟ้าบริสุทธิ์คันแรกของ Volvo จะแข่งขันกับ BMW i5/Mercedes-Benz EQE และรุ่นอื่นๆ สำหรับรุ่นนี้จะขายไทยปลายปีนี้
- วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ประกาศการเติบโตของยอดจำหน่ายอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 พร้อมความสำเร็จยอดจำหน่ายรถไฟฟ้าที่ทำสถิติสูงที่สุด คิดเป็นสัดส่วนถึง 80 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายรวมในปี 2024 เติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 24 เปอร์เซ็นต์
- พร้อมกันนี้ วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ยังได้ประกาศเป้าหมายการดำเนินธุรกิจสำหรับปี 2025 และอนาคต โดยมุ่งเน้นการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนผ่านแผนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งในกลุ่มรถไฟฟ้า และปลั๊กอินไฮบริด, เสริมความพึงพอใจ และบริหารประสบการณ์ลูกค้าด้วยงานขายและการบริการที่ครอบคลุม พร้อมเพิ่มมูลค่าในการเป็นเจ้าของรถวอลโว่ด้วยโครงการใหม่ ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องตลอดช่วงอายุการเป็นเจ้าของรถวอลโว่
- ในปี 2024 ยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์รถไฟฟ้า fully electric มีสัดส่วนสูงถึง 80 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายรวม โดยเป็นสัดส่วนสูงสุดที่เคยมีมาตั้งแต่ วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย เริ่มจำหน่ายรถไฟฟ้า fully electric ในปี 2022 ซึ่งความนิยมของ Volvo EX30 ส่งผลให้รถรุ่นดังกล่าวมีสัดส่วนยอดขายสูงถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ตามมาด้วย Volvo EC40 และ EX40 ที่มียอดขายที่ 20 เปอร์เซ็นต์ เท่า ๆ กัน สำหรับรถปลี๊กอินไฮบริดนั้นมีสัดส่วนยอดจำหน่ายรวมที่ 20 เปอร์เซ็นต์ โดยมีรถสไตล์เอสยูวี รุ่นยอดนิยมอย่าง Volvo XC60 และ XC90 ที่ยังคงสร้างความสนใจให้ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
- นอกจากการเติบโตของรถใหม่ วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ยังได้ประกาศการเติบโตของรถวอลโว่มือสองไมล์น้อยคุณภาพดี อย่าง Volvo Selekt Approved Used Cars ว่ามียอดจำหน่ายที่โตขึ้น 9% เมื่อเทียบกับปี 2023
- คุณคริส เวลส์, กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย และ ประเทศมาเลเชีย กล่าวว่า “เรารู้สึกภูมิใจกับผลลัพธ์ของปีที่ผ่านมาเนื่องจากเป็นปีที่ท้าทายอย่างมากสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งการเติบโตที่ต่อเนื่องก็สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์วอลโว่ และตัวเลือกผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค
- และแม้ว่าความท้าทายจะยังเกิดขึ้นต่อเนื่องมาในปี 2025 วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย จะยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการ ที่ไม่เพียงตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น แต่ยังช่วยสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับแบรนด์ของเรา โดยเราตั้งเป้าหมายการเติบโตของปี 2025 ที่ 5 เปอร์เซ็นต์ เราเชื่อว่าด้วยความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่เรานำเสนอทั้งในส่วนของรถไฟฟ้า fully electric และรถปลั๊กอินไฮบริด จะยังคงได้รับความสนใจจากผู้บริโภคต่อเนื่องไปในอนาคต อีกทั้งความพรีเมียมของแบรนด์ที่ทำให้ วอลโว่ คาร์ แตกต่าง และเสริมความสามารถในการแข่งขันในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
สานต่อความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมในปี 2025
- ในปี 2025 วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ได้วางเป้าหมายเพื่อสานต่อความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมผ่านกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุม และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี เพื่อก้าวสู่เป้าหมายการเป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายรถไฟฟ้าในอนาคต
- เริ่มในไตรมาสแรกของปี 2025 วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ได้วางแผนการส่งมอบรถไฟฟ้าขนาด 7 ที่นั่ง สไตล์เอสยูวี รุ่นเรือธงอย่าง Volvo EX90 ให้แก่ลูกค้า ซึ่ง EX90 นำเสนอนิยามบทใหม่ของเทคโนโลยีและมาตรฐานความปลอดภัยของ วอลโว่ คาร์ โดยเป็นรถรุ่นแรกที่ใช้ชิปในการประมวลผล ผ่านการทำงานของซอฟ์แวร์เพื่อเสริมประสิทธิภาพให้ความปลอดภัย, การเชื่อมต่อ และข้อมูล บนแพลตฟอร์มที่สามารถอัพเกรดเพื่อรองรับการใช้งานในอนาคตได้อย่างต่อเนื่อง
- นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังวางแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ทั้งในกลุ่มรถไฟฟ้า fully electric รวมถึงรถกลุ่มปลั๊กอินไฮบริด เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นบริษัทผู้จำหน่ายรถไฟฟ้าเท่านั้นในอนาคต
- ในแง่ของการบริการเพื่อยกระดับประสบการณ์ลูกค้า บริษัทฯ ได้วางแผนในการเปิดโชว์รูม และศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานครบวงจร Volvo Certified Damage Repair Centre (VCDR) แห่งใหม่ พร้อมวางแผนการขยายบริการ Volvo Mobile Service ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบรับความนิยมของลูกค้าที่สนใจรับบริการเป็นจำนวนมากเนื่องจากเป็นบริการที่มีความสะดวกสบาย โดยลูกค้าสามารถรับบริการได้จากที่บ้านหรือสถานที่ที่นัดหมาย ประหยัดเวลาการเดินทางไปที่ศูนย์บริการ พร้อมกันนี้ยังได้รับความอุ่นใจว่าช่างที่มาให้บริการได้รับการอบรมตามมาตรฐานของวอลโว่ คาร์
- เนื่องด้วยความเข้าใจในสภาวะของตลาด และเศรษฐกิจที่ผู้บริโภคกำลังเผชิญ วอลโว่ คาร์ ประเทศไทยยังได้วางแผนจัดตั้งศูนย์ซ่อมและรีไซเคิลแบตเตอรี่ ร่วมถึงเปิดบริการ SMART Repair Service ซึ่งเป็นการบริการซ่อมความเสียหายขนาดเล็ก และขนาดกลาง ที่เกิดขึ้นกับตัวรถด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยของวอลโว่ แทนที่การเปลี่ยนอุปกรณ์ยกชิ้น ซึ่งการซ่อมดังกล่าวใช้เวลาไม่นาน และมีราคาประหยัด จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องตลอดช่วงอายุการใช้รถ เพิ่มมูลค่าในการเป็นเจ้าของซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ต้องการนำเสนอให้แก่ผู้เป็นเจ้าของรถวอลโว่ทุกคน
ปัจจุบันยังไม่เปิดตัว หลังจากมีรถ SUV หลายคัน และ EX30 รถยนต์ไฟฟ้าคันเล็กสุดของแบรนด์ VOLVO เตรียมเปิดตัวซีดานไฟฟ้าคันถัดไป EV มีชื่อรหัสภายในว่า “V551” และเชื่อกันว่ามีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “ES90” ได้รับการพัฒนาบนแพลตฟอร์ม SPA2 เดียวกันกับ EX90
- ดูเหมือนว่า Volvo S90 ซีดานสุดหรู กำลังอยู่ท้ายๆ ของการปรับโฉมใหม่ สำหรับโฉมปัจจุบันเปิดตัวตั้งแต่ปี 2016 – ปัจจุบัน อายุตลาดปัจจุบันเข้าปีที่ 6 และ เราคงต้องรออีกสักพักกว่าจะปรับโฉม
- ปัจจุบันเราคงทราบกันดีว่า S90 ได้มีการปรับปรุงขุมกำลังในรุ่นปลั๊กอินไฮบริด Inscription ให้กำลัง 460 แรงม้า (เดิม 407 แรงม้า) แรงบิต 709 นิวตัน-เมตร (เดิม 640 นิวตัน-เมตร)
- EX90 ใหม่ พัฒนาบนสถาปัตยกรรม SPA2 ใหม่ของวอลโว่ ซึ่งจะมาแทนที่แพลตฟอร์ม SPA (Scalable Product Architecture)
เมื่อพิจารณาจากภาพพรีวิว รถคันใหม่ ได้เผยชื่อรถใหม่ “Volvo ES90” อย่างเป็นทางการแล้ว และยังได้โชว์เส้นสายดีไซน์ตัวถังบางส่วนด้วย รูปร่างโดยรวมของรถใหม่ ค่อนข้างจะเพรียว โดยมีเส้นรอบเอวของตัวรถพาดผ่านตัวรถไปด้านหลัง กระจกมองหลังด้านนอกม่ถูกวางไว้บนกรอบประตูและใช้โครงสร้างแบบแยกส่วน ติดตั้งกล้องและชุด ปกรณ์เซ็นเซอร์อื่นๆ ในการขับขี่ เราคาดว่าด้านหน้าของรถใหม่จะคล้ายกับรุ่น EX90 ในปัจจุบัน และจะใช้สไตล์ของไฟหน้า Thor’s Hammer เพื่อเน้นคุณลักษณะของครอบครัว ตามรายงานก่อนหน้านี้ความยาวของรถใหม่ประมาณ 5 เมตร
VOLVO เน้นย้ำถึงเทคโนโลยีการขับขี่ Ride Pilot ที่มีชื่อว่า “Hands-free, eyes-off” ระบบใช้เซ็นเซอร์มากกว่า 24 ตัวรวมถึง LiDAR และ อัลตราโซนิกเพื่อช่วยให้ AI เรียนรู้ จดจำสิ่งรอบตัว ตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างการทดสอบในแคลิฟอร์เนีย
แน่นอนว่าการขับขี่แม่นยำขนาดนี้ ต้องมีการประมวลผลชั้นสูงด้วย NVIDIA DRIVE Orin system-on-a-chip มีความสามารถ 254 tera operation ต่อวินาที (TOPS)
NVIDIA DRIVE Orin จะทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ที่พัฒนาโดย Volvo Cars และ Zenseact ชุดเซ็นเซอร์ที่จำเป็นสำหรับการขับขี่อัตโนมัติ เช่น เทคโนโลยี LiDAR ที่พัฒนาโดย Luminar นั้นเปิดใช้งานโดยพลังการประมวลผลที่เพิ่มขึ้นของ NVIDIA DRIVE Orin และการประมวลผลกราฟิก Zenseact หากเปิดตัวระบบขับขี่อัตโนมัติ L4 VOLVO ยังคงต้องจำกัดพื้นที่ขับขี่เฉพาะก่อนเพื่อความปลอดภัย
Luminar lidar และคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงโดยใช้ชิป Nvidia Drive Orin เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
Lidar ซึ่งคล้ายกับเรดาร์แต่ใช้คลื่นแสงแทนคลื่นวิทยุในการตรวจจับวัตถุทำให้มีความแม่นยำมากขึ้น
ฮาร์ดแวร์จะทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ใหม่ ที่พัฒนาขึ้นภายในบริษัท โดยเรียกว่า Highway Pilot ทำให้สามารถเกิดระบบ “ขับขี่อัตโนมัติ” บนทางหลวงได้ Volvo กล่าว อย่างไรก็ตาม จะเปิดใช้งานได้ก็ต่อเมื่อได้รับการตรวจสอบแล้วว่าปลอดภัยและได้รับอนุญาตตามกฎหมายสำหรับสถานที่และเงื่อนไขทางภูมิศาสตร์แต่ละแห่งเท่านั้น เป็นที่น่าสังเกตว่า Volvo ได้ล้มเลิกเป้าหมายอย่างชัดเจนในการเปลี่ยนไปใช้ระบบไฟฟ้าอย่างสมบูรณ์ในปี 2030 เป้าหมายใหม่คือภายในปี 2030 ประมาณ 90% ของยอดขายหลักจะได้รับการสนับสนุนจากโมเดลที่ใช้พลังงานไฟฟ้า และส่วนที่เหลือจะเหลืออยู่ที่ 48V รถยนต์ขนาดเล็ก ขณะเดียวกัน สัดส่วนของรถยนต์ไฟฟ้าของวอลโว่จะสูงถึง 50-60% ในปี 2030 และทุกรุ่นในซีรีส์จะมีรถยนต์ไฟฟ้าล้วนๆ ในปี 2040