Advertisement

Advertisement

เพิ่มราคา 116,000 บาทในสหรัฐฯ VOLVO EX90 ราคา 2.86 ล้านบาท พร้อมตัด LiDAR และเทคโนโลยีอื่นๆ

เพิ่มราคา 116,000 บาทในสหรัฐฯ VOLVO EX90 ราคา 2.86 ล้านบาท พร้อมตัด LiDAR และเทคโนโลยีอื่นๆ
Spread the love

Advertisement

Advertisement

 

Volvo ขึ้นราคา EX90 อย่างเงียบๆ ในสหรัฐอเมริกา โดยมีการตัด LiDAR และเทคโนโลยีอื่นๆ Volvo อ้างว่าราคาที่ปรับขึ้นนั้นมาจากต้นทุนวัสดุที่สูงขึ้น และระบุว่าฟีเจอร์ที่ขาดหายไปจะถูกเพิ่มเข้ามาในภายหลังผ่านการอัปเดตซอฟต์แวร์

Volvo ยังไม่ได้เริ่มส่งมอบ EX90 EV ในสหรัฐอเมริกา และตอนนี้ก็ได้ขึ้นราคาได้ปรับขึ้นเป็น 81,290 เหรียญสหรัฐ 2.86 ล้านบาท ซึ่งรวมถึงค่าปลายทาง 1,295 เหรียญสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิม 3,300 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 116,000 บาท Joe Origoni หัวหน้าฝ่ายดูแลลูกค้าของ Volvo Car USA กล่าวว่าการปรับราคาได้ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม

โซเฟีย เดอร์ โฆษกของ Volvo ให้สัมภาษณ์กับAuto Newsว่าราคาที่ปรับขึ้นนั้นเป็นผลมาจากต้นทุนวัสดุที่สูงขึ้น โดยลูกค้าที่สั่งซื้อล่วงหน้าจะได้รับแจ้งถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน และตามคำกล่าวของเดอร์ “ไม่มีการสั่งซื้อที่แน่นอนหรือการวางเงินมัดจำที่ไม่สามารถขอคืนได้” ก่อนที่จะปรับราคาขึ้น

ไม่ใช่แค่การขึ้นราคาเท่านั้นที่อาจทำให้ลูกค้าไม่พอใจ EX90 ที่ผลิตในสหรัฐฯจะเปิดตัวในช่วงแรกโดยไม่มี LiDAR ขาดโปรแกรมช่วยเหลือผู้ขับขี่ 2 โปรแกรมที่ไม่ได้ระบุ และจะไม่รองรับการชาร์จแบบสองทิศทางในช่วงแรก

Volvo กล่าวว่าคุณสมบัติเหล่านี้จะมาถึงในภายหลังผ่านการอัปเดตซอฟต์แวร์ ซึ่งบ่งชี้ว่า EX90 จะสร้างขึ้นโดยใช้ฮาร์ดแวร์ LiDAR แต่จะไม่สามารถเปิดใช้งานได้ Volvo สัญญาว่าจะเพิ่มคุณสมบัติที่ขาดหายไปในช่วง “ช่วงเริ่มต้นของการเป็นเจ้าของ”

จิม โรวัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Volvo กล่าวถึงความสามารถในการเพิ่มคุณสมบัติด้านความปลอดภัยแบบไร้สายว่าลูกค้าเข้าใจถึงการดำเนินการดังกล่าว

“จุดประสงค์หลักของยานยนต์ที่กำหนดโดยซอฟต์แวร์ซึ่งมีความสามารถในการอัปเดตผ่านระบบไร้สายก็คือการอัปเกรดซอฟต์แวร์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราสามารถทำได้” เขากล่าว “ผมคิดว่าลูกค้าที่ลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น EX90 เข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี และพวกเขาจะได้รับประโยชน์ในระยะยาว”

มอเตอร์ไฟฟ้าซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร (PMSM) Ultra Twin Motor มอเตอร์ไฟฟ้าคู่

  • ให้กำลัง 408 แรงม้า
  • แรงบิด 770 นิวตัน-เมตร
  • ระบบขับเคลื่อน AWD
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.7 วินาที
  • แบตเตอรี่ขนาด 111kWh 
  • สามารถวิ่งได้ 483 กม./ชาร์จ EPA
  • ชาร์จ DC 250kW 10-80 % ภายใน 30 นาที
  • ชาร์จ AC 0 – 100% ภายใน 11 ชั่วโมง
  • ความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม.
  • ความสามารถในการลากจูง 2,200 กก.

Ultra Twin Motor Performance มอเตอร์ไฟฟ้าคู่

  • ให้กำลังสูงสุด 503 แรงม้า
  • แรงบิด 910 นิวตัน-เมตร
  • ระบบขับเคลื่อน AWD
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.7 วินาที
  • แบตเตอรี่ขนาด 111kWh
  • สามารถวิ่งได้ 483 กม./ชาร์จ EPA
  • ชาร์จ DC 250kW 10-80 % ภายใน 30 นาที
  • ชาร์จ AC 0 – 100% ภายใน 11 ชั่วโมง

ขนาดตัวถัง

  • ยาว 5,037 มม.
  • กว้าง 2,039 มม.
  • สูง 1,747 มม.
  • ระยะฐานล้อ 2,985 มม.
  • พื้นที่เก็บสัมภาระ 310 – 655 ลิตร เมื่อพับเบาะหลังทั้งหมดจะได้ความจุสัมภาระท้าย 1,9715 ลิตร
  • ช่องโหลดด้านหน้าช่วยเพิ่มพื้นที่จัดเก็บได้ถึง 34 ลิตร

ขนาดตัวถังของ Volvo EX90 มีขนาดใกล้เคียงกับ Volvo XC90 โฉมปัจจุบัน โดยมีขนาดความยาวและกว้างกว่าเล็กน้อย แต่มีความสูงน้อยกว่าเล็กน้อย ขนาดตัวถังที่ใหญ่ของ Volvo EX90 ช่วยให้มีพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง สะดวกสบาย สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 7 ที่นั่ง นอกจากนี้ ระยะฐานล้อที่ยาวยังช่วยให้มีพื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวางอีกด้วย

VOLVO EX90 ได้รับการออกแบบโดยอ้างอิงจาก Volvo Concept Recharge ในปี 2021 รถต้นแบบใหม่ ภายใต้สถาปัตยกรรม SPA2 (Scalable Product Architecture) การออกแบบเรียบหรู กระจังหน้าแบบปิด ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างแบบแยกส่วน ติดตั้ง Lidar บริเวณหลังคา ไฟท้ายรูปตัว C โด่ดเด่น

  • ตัวรถได้รับการพัฒนาจากเหล็กรีไซเคิลประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ อลูมิเนียมรีไซเคิล 25 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงพลาสติกรีไซเคิลและวัสดุชีวภาพ 48 กิโลกรัม ซึ่งคิดเป็นประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ของพลาสติกทั้งหมดที่ใช้ในรถยนต์
  • ค่าสัมประสิทธิ์การลาก 0.29 Cd.

ภายในห้องโดยสาร วอลโว่ เน้นย้ำถึงการใช้วัสดุใหม่ที่เรียกว่า Nordico ซึ่งทำจากวัสดุรีไซเคิล เช่น ขวด PET และเรซินจากไม้สน นอกจากนี้ยังมีแผงไม้ที่ได้รับการรับรองจาก FSC รวมทั้งมีการจัดหาผ้าขนสัตว์ผสมในการตกแต่งเบาะนั่ง โดยรวมภายในของ EX90 พลาสติกรีไซเคิลและวัสดุชีวภาพเกือบ 50 กิโลกรัมจะมี

  • พลังการประมวลผลอันล้ำสมัยจากแพลตฟอร์ม Cockpit ของ Snapdragon เข้ากับความสามารถในการแสดงภาพของ Unreal Engine ซึ่งเป็นเครื่องมือ 3 มิติที่พัฒนาโดย Epic Games ทำให้ได้ภาพสวยงามชัดเจน รวดเร็วผ่านหน้าจอรถ และ Head-up Display
  • หน้าจอกลางขนาด 14.5 นิ้ว ติดตั้งระบบ Google ในตัว รวมถึงความช่วยเหลือแบบแฮนด์ฟรีจาก Google Assistant, การนำทางของ Google Maps และแอปโปรดอื่นๆ ใน Google Play รวมทั้งเข้ากันได้กับ Apple CarPlay แบบไร้สาย
  • รองรับการเชื่อมต่อ 5G
  • ระบบเสียง Bowers & Wilkins 25 ลำโพงพร้อมเทคโนโลยีเสียงเซอร์ราวด์ Dolby Atmos
  • รองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์แบบ over-the-air

Volvo EX90 นำเสนอเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยบางส่วน ประกอบด้วย ชุดกล้อง เซ็นเซอร์ เลเซอร์ และซอฟต์แวร์ที่ตรวจสอบทั้งสภาพแวดล้อมภายนอก และ Driver ซึ่งจะใช้ Lidar ขั้นสูงพร้อมกับเซ็นเซอร์อัตราโซนิก 16 ตัว กล้อง 8 ตัว เรดาร์ 5 ตัว ในการตรวจสภาพแวดล้อม เช่น บนถนนระยะ 120 เมตร คนเดินถนนระยะ 250 เมตร ในความเร็ว 120 กม./ชม. หรือ แม้แต่วัตถุที่ไม่สะท้อนแสง ก็สามารถตรวจจับได้ ทั้งหมดจะสร้างมุมมอง 360 องศาแบบเรียลไทม์

  • LiDAR ซึ่งจะกลายเป็นมาตรฐานสำหรับรุ่นในอนาคตจะช่วยลดอุบัติเหตุร้ายแรงได้ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ และปรับปรุงการหลีกเลี่ยงความผิดพลาดโดยรวมได้ถึง 9 เปอร์เซ็นต์
  • ระบบ “Driver Understanding” ใหม่ กล้องภายในสองตัว และ พวงมาลัยแบบ capacitive จะตรวจจับรูปแบบการจ้องมองและพฤติกรรมการบังคับเลี้ยวของผู้ที่นั่งหลังพวงมาลัย โดยจะหาสัญญาณความเครียด อาการง่วงซึม หรือภาวะฟุ้งซ่าน อื่นๆ ซึ่งอาจส่งผลต่อการขับขี่ (รวมทั้งสภาะวะเมาขาดสติ) ระบบจะเริ่มต้นด้วยสัญญาณเตือน และ เพิ่มระดับเสียงความความรุนแรงของสถานการณ์ หากคนขับไม่ตอบสนอง ระบบจะเปิดใช้งานไฟฉุกเฉิน และ หยุดรถข้างทางอย่างปลอดภัย
  • ขับเคลื่อนโดยแพลตฟอร์ม NVIDIA DRIVE AI Xavier และ Orin, แพลตฟอร์ม Snapdragon® Cockpit จาก Qualcomm Technologies และซอฟต์แวร์ที่พัฒนาโดยวิศวกรของ Volvo – ใช้งานฟังก์ชันหลักส่วนใหญ่ภายในรถ ตั้งแต่ความปลอดภัยและสาระบันเทิงไปจนถึงการจัดการแบตเตอรี่ ผลลัพธ์ที่ได้คือประสบการณ์ที่ตอบสนองและสนุกสนานยิ่งขึ้นภายในรถ

Volvo EX90 มาพร้อมระบบความปลอดภัยขั้นสูงสุดของ Volvo ซึ่งได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง โดยระบบความปลอดภัยหลักๆ ของ Volvo EX90 มีดังนี้

  • Pilot Assist ระบบช่วยขับขี่กึ่งอัตโนมัติที่สามารถควบคุมความเร็วและบังคับเลี้ยวของรถได้อัตโนมัติ โดยระบบจะทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์เรดาร์และกล้องรอบคัน เพื่อตรวจจับวัตถุและสภาพแวดล้อมรอบรถ
  • City Safety ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติเพื่อลดความรุนแรงของอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น โดยระบบจะตรวจจับวัตถุด้านหน้ารถและคนเดินถนน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการชน
  • Oncoming Lane Mitigation ระบบช่วยเบี่ยงหลบสิ่งกีดขวางที่อยู่ตรงกลางเลน โดยระบบจะทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์เรดาร์และกล้องรอบคัน เพื่อตรวจจับสิ่งกีดขวาง และบังคับเลี้ยวรถหลบออกนอกเลน
  • Blind Spot Information System (BLIS) ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา โดยระบบจะตรวจจับวัตถุที่วิ่งเข้ามาในจุดอับสายตา และส่งสัญญาณเตือนผู้ขับขี่
  • Cross Traffic Alert ระบบเตือนการชนท้ายขณะถอยจอด โดยระบบจะตรวจจับวัตถุที่วิ่งเข้ามาด้านหลังรถขณะถอยจอด และส่งสัญญาณเตือนผู้ขับขี่
  • Run-off Road Mitigation ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน โดยระบบจะทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์เรดาร์และกล้องรอบคัน เพื่อตรวจจับรถที่วิ่งออกนอกเลน และบังคับเลี้ยวรถกลับเข้าเลน
  • Crosswind Assist ระบบช่วยควบคุมรถให้ทรงตัวขณะเจอลมกรรโชก โดยระบบจะทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์เรดาร์และกล้องรอบคัน เพื่อตรวจจับลมกรรโชก และปรับการทำงานของระบบกันสะเทือนเพื่อช่วยให้รถทรงตัว
  • Rear Collision Mitigation ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติขณะถอยหลัง โดยระบบจะตรวจจับวัตถุที่วิ่งเข้ามาด้านหลังรถขณะถอยหลัง และบังคับเบรกรถเพื่อลดความรุนแรงของอุบัติเหตุ
  • Lane Keeping Aid ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในเลน โดยระบบจะตรวจจับเส้นแบ่งเลน และปรับการทำงานของพวงมาลัยเพื่อช่วยให้รถอยู่ในเลน
  • Adaptive Cruise Control ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน โดยระบบจะปรับความเร็วของรถให้สัมพันธ์กับรถคันหน้า โดยอัตโนมัติ
  • Forward Collision Warning ระบบเตือนการชนด้านหน้า โดยระบบจะตรวจจับวัตถุด้านหน้ารถ และส่งสัญญาณเตือนผู้ขับขี่
  • Pedestrian Detection ระบบตรวจจับคนเดินถนน โดยระบบจะตรวจจับคนเดินถนน และส่งสัญญาณเตือนผู้ขับขี่
  • Driver Alert System ระบบตรวจจับอาการเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ โดยระบบจะตรวจจับการเคลื่อนไหวของศีรษะของผู้ขับขี่ และส่งสัญญาณเตือนให้ผู้ขับขี่พักเบรก

   

Advertisement

Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้