WeRide เปิดตัว รถส้วมอัตโนมัติ และ ทำความสะอาดถนน ไม่มีพวงมาลัย ไร้คนขับ ในจีน นำร่องใช้จริง พฤษภาคม ที่กวางโจว
WeRide บริษัทเทคโนโลยียานยนต์ขับขี่อัตโนมัติ ในประเทศจีน ได้เปิดตัวรถบรรทุกทำความสะอาดบนท้องถนน ซึ่งมาพร้อมระบบขับขี่อัตโนมัติระดับ L4 นั้นแสดงว่ารถบรรทุกดังกล่าวจะขับเคลื่อนอัตโนมัติสำหรับการทำความสะอาด
- WeRide ก่อตั้งขึ้นในปี 2560 และมีสำนักงานใหญ่ในกวางโจว ประเทศจีน โดยมีศูนย์วิจัยและพัฒนาและศูนย์ปฏิบัติการในกรุงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ หนานจิง หวู่ฮั่น เจิ้งโจว และอันชิง รวมถึงซานโฮเซ่ในสหรัฐอเมริกา WeRide เปิดตัวบริการ Robotaxi แห่งแรกของจีน ซึ่งเปิดให้สาธารณชนทั่วไปเข้าชมในเดือนพฤศจิกายน 2019 ในเมืองกวางโจว ประเทศจีน ครอบคลุมพื้นที่ 144 ตารางกิโลเมตร WeRide ยังได้ดำเนินการนำร่องเชิงพาณิชย์และการทดสอบแบบไร้คนขับสำหรับ Mini Robobus และ Robovan
- WeRide เป็นสตาร์ทอัพรายแรกของโลกที่ถือใบอนุญาตทดสอบแบบไร้คนขับทั้งในประเทศจีนและสหรัฐอเมริกา WeRide ได้รับการลงทุนเชิงกลยุทธ์จากผู้ผลิตรถยนต์ ซึ่งรวมถึง Renault-Nissan-Mitsubishi Alliance, Yutong Group และ GAC Group
- WeRide มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 4 กลุ่มได้แก่ Robotaxi, mini Robobus, Robovan และ Robosweeper ในเดือนธันวาคม 2020 WeRide และ Yutong ได้ร่วมกันพัฒนา Robobus ขนาดเล็กที่ไม่มีคนขับเป็นรายแรกของจีน
- WeRide ร่วมมือกับ Dongfeng ในโครงการนำร่องการขับขี่อัตโนมัติกับ Dongfeng Fengshen E70 ในหวู่ฮั่น WeRide และ Dongfeng ยังได้ร่วมกันเปิดตัว Robotaxi ในพื้นที่หลักของหวู่ฮั่น
- ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2564 WeRide ได้ร่วมมือกับ Jiangling Motors และ ZTO Express เพื่อออกแบบและผลิตรถยนต์โดยสารขนาดเล็กอัตโนมัติระดับ 4 ของจีน (WeRide Robovan) ZTO Express เป็นบริษัทที่ให้บริการด้านโลจิสติกส์
WeRide ได้ตั้งชื่อรถทำความสะอาดถนนอัตโนมัติว่า Robosweeper รถบรรทุกดังกล่าวได้รับการออกแบบและผลิตโดย WeRide และ Yutong Group เพื่อทำความสะอาดถนนสาธารณะ ปัจจุบันนำร่อง 50 คันเพื่อทดสอบบนถนนสาธารณะ เขตหนาซา ของกวางโจว เริ่มในเดือนพฤษภาคมนี้
WeRide ได้โฆษณาว่ารถของพวกเขาสามารถขับขี่ในระดับ L4 หากเป็นเช่นนั้นรถยนต์ดังกล่าว ไม่จำเป็นต้องมีมนุษย์ในการควบคุม พาหนะ Level 4 ก็จะจัดการความผิดปกติและบกพร่องทั้งหลายได้เอง โดยพึ่งพาและปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ในฐานะผู้โดยสาร มากกว่าจะพึ่งพามนุษย์ในฐานะผู้ควบคุมปกป้องความผิดพลาด พาหนะ Level 4 สามารถทำงานในโหมดขับขี่ด้วยตนเอง หรือ Self-Driving Mode ได้อย่างสมบูรณ์
สำหรับรถบรรทุกทำความสะอาดดังกล่าว ในโหมดไร้คนขับ ยานพาหนะสามารถดำเนินการทำความสะอาดต่างๆ ได้ รวมถึงการทำความสะอาดถนน การฉีดน้ำ และการฆ่าเชื้อ เพิ่มฟังก์ชันการฉีดพ่น และ ฆ่าเชื้อเพื่อช่วยให้เมืองต่างๆ รับมือกับการระบาดใหญ่ได้ดีขึ้น
นอกจากนี้ WeRide ยังได้พัฒนาแพลตฟอร์มควบคุมระบบคลาวด์สำหรับรถสุขาภิบาล (ห้องส้วม) ที่ไม่ต้องมีคนขับอย่างสมบูรณ์ แพลตฟอร์มดังกล่าว จะสามารถดูเส้นทางการทำงาน และ สถานะการขับขี่อัตโนมัติแบบเรียลไทม์ความแม่นยำสูง รวมทั้งจัดการเส้นทางได้โดยอัตโนมัติ
นอกจากนี้ยังสามารถชาร์จตัวเองอัตโนมัติ รถบรรทุกดังกล่าว สามารถจัดตารางงานในระยะไกลได้ รวมถึงการเติมน้ำ และ การปล่อยสิ่งปฏิกูลโดยไม่ต้องมีคำสั่งจากมนุษย์
Robosweeper รถบรรทุกดังกล่าวเป็นระบบไฟฟ้าทั้งหมด ติดตั้งซอฟต์แวร์ และ ฮาร์ดแวร์สำหรับการขับขี่อัตโนมัติระดับ 4 ของ WeRide และ ไม่มีพวงมาลัย คันเร่ง หรือ แป้นเหยียบเบรก
อัตราการขยายตัวของเมือง ได้เพิ่มขึ้นอย่างเร่งด่วน ดังนั้นระบบสุขาภิบาล จึงจำเป็นอย่างมาก ยานพาหนะสุขาภิบาลไร้คนขับ ไม่เพียงแต่ให้บริการด้านสุขอนามัยที่ปลอดภัย แต่ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ ช่วยเพิ่มความสะอาดในตัวเมือง สวนสาธารณะ และ โรงงาน ตามข้อมูลของ Han Xu ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ WeRide
Autopilot มี 5 ระดับ ได้แก่
- ระดับ 1 จะมีระบบอัตโนมัติ ช่วยเหลือผู้ขับขี่ เช่น การบังคับเลี้ยวหรือการเร่งและรักษาคุมความเร็วคงที่ รวมทั้งระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับความเร็วอัตโนมัติ ซึ่งสามารถควบคุมยานพาหนะไว้ในระยะที่ปลอดภัยต่ออุบัตเหตุ ซึ่งคุณสมบัติ Level 1 ยังต้องการวิจารณญาณของมนุษย์คนขับ ตรวจสอบการใช้ฟังก์ชั่นช่วยขับขี่ร่วมด้วย
- ระดับ 2 จะมีระบบ ADAS หรือ Advanced Driver Assistance Systems ซึ่งเป็นระบบบังคับเลี้ยวอัตโนมัติคู่กับระบบความคุมอัตรเร่งและปรับความเร็วให้ทำงานประสานกันผ่านกลไกการควบคุมที่ซับซ้อน… ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ทุกค่ายล้วนใส่เงินไปกับการวิจัยระบบ ADAS ต่อเนื่องมานาน ซึ่งระบบ ADAS ที่มีชื่อเสียงและสอบผ่านมาตรฐาน Level 2 รุ่นแรกๆ จนได้ทดสอบ
- ระดับ 3 จะมีความสามารถในการตรวจจับสภาพแวดล้อม และสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดเช่น การเร่งแซงรถที่ช้า แต่ระบบก็ยังต้องการความช่วยเหลือจากมนุษย์ แม้มนุษย์ไม่ต้องเหยียบคันเร่งถือพวงมาลัย… แต่ผู้ขับขี่จะต้องตื่นตัวและพร้อมที่จะเข้าควบคุมทันทีหากระบบผิดพลาด ซึ่งส่วนใหญ่ระบบจะออกแบบให้ตรวจสอบเงื่อนไขการทำงานอัตโนมัติตลอดเวลา และหาก Condition หรือเงื่อนไขการทำงานในระบบผิดพลาด… รถจะมีฟังก์ชั่นขอความช่วยเหลือจากมนุษย์ติดมาด้วย
- ระดับ 4 ไม่ต้องมีมนุษย์คอยช่วยเหลือในยามเข้าตาจนเหมือน Level 3 อีกเลย แม้จะมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นทั้งในระบบและสภาพแวดล้อมภายนอก หรือแม้แต่เกิดขัดข้องขึ้น พาหนะ Level 4 ก็จะจัดการความผิดปกติและบกพร่องทั้งหลายได้เอง โดยพึ่งพาและปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ในฐานะผู้โดยสาร มากกว่าจะพึ่งพามนุษย์ในฐานะผู้ควบคุมปกป้องความผิดพลาด พาหนะ Level 4 สามารถทำงานในโหมดขับขี่ด้วยตนเอง หรือ Self-Driving Mode ได้อย่างสมบูรณ์
- ระดับ 5 ไม่ต้องการความช่วยเหลือใดๆ จากมนุษย์อีก เพราะระบบจะทำงาน Dynamic Driving Task เต็มประสิทธิภาพ เทียบเท่าระดับเดียวกับหรือดีกว่ามนุษย์ที่มีทักษะการขับรถยอดเยี่ยมที่สุด… พาหนะ Level 5 จึงไม่มีแม้แต่พวงมาลัย แป้นเหยียบคันเร่งและแป้นเบรก ทำให้พาหนะ Level 5 เป็น Fully Autonomous Cars ซึ่งเป็นเป้าหมายความสำเร็จของการพัฒนายานพาหนะบนผิวพื้นยุคต่อไป… ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่า กฏหมายและโครงสร้างพื้นฐานของ Smart City