4 เดือนผลิต 50,000 คันในจีน XPENG MONA M03 ราคา 559,000 – 727,000 บาท 515 – 620 กม./ชาร์จ CLTC

Spread the love

Xpeng MONA M03 ผลิตครบ 50,000 คันหลังจากเปิดตัวเพียง 4 เดือน นับเป็นสถิติใหม่ของแบรนด์ XPENG ในประเทศจีน MONA M03 ได้ผ่านการขยายการผลิตครั้งที่ 3 และเพิ่มกำลังการผลิตแล้ว ในเวลาเดียวกัน วงจรการผลิตสามารถสูงถึง 50JPH หรือทุกๆ 72 วินาทีจะมีรถผลิตเร็จ 1 คัน หรือ 1 ชั่วโมงจะมี MONO M03 ผลิต 50 คัน

ปัจจุบันเพียง 3 วัน หรือ 72 ชั่วโมงมียอดจองกว่า 50,000 คัน

ปัจจุบันเพียง 2 วัน หรือ 48 ชั่วโมง XPENG MONA M03 ไฟฟ้าใหม่มียอดจองกว่า 30,000 คันในประเทศจีน

เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม หลังจากการประชุมเปิดตัว Xpeng MONA M03 เราได้สัมภาษณ์ He Xiaopeng ประธานและซีอีโอของ Xpeng Motors ซึ่งเปิดเผยข้อมูลการวางแผนในอนาคตของซีรีส์ Xpeng MONA และข่าวสารแบรนด์ที่เกี่ยวข้อง เป็นที่น่าสังเกตว่าหลังการสัมภาษณ์ เขากล่าวว่า Xpeng MONA M03 เปิดตัวเพียง 52 นาทีมียอดจองกว่า 10,000 คัน

เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2024 XPENG MOTORS ประกาศเปิดตัวผ เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ราคาจำหน่าย 119,800 – 155,800 หยวน หรือประมาณ 559,000 – 727,000 บาท

รถคันแรกของ MONA สร้างขึ้นร่วมกันโดย Didi และ XPENG โดยมีทีมงานของ Didi รับผิดชอบด้านการออกแบบ ส่วนหนึ่งของการวิจัยและพัฒนา และการขาย
เนื่องจากเป็นรุ่นแรกของซีรีส์ Xpeng MONA ความหมายของแบรนด์คือ Made Of New AI รุ่นแรกในซีรีส์ M03 ซึ่งทำให้มีความคุ้มค่าอย่างมากสำหรับผู้บริโภค
He Xiaopeng ประธานและซีอีโอของ Xpeng Motors เปิดเผยในการให้สัมภาษณ์ว่าราคาของ MONA M03 ทุกรุ่นสามารถสร้างผลกำไรได้
เหอ เสี่ยวเผิงยังกล่าวอีกว่าวงจรการวิจัยและพัฒนาของ MONA M03 ใช้เวลาเกิน 4 ปี ด้วยการลงทุนมากกว่า 4 พันล้านหยวน
ตามรายงานล่าสุดจาก Xpeng Motors ปริมาณการสั่งซื้อ Xpeng MONA M03 ทะลุ 10,000 คันอย่างรวดเร็วในเวลาเพียง 52 นาทีนับตั้งแต่เปิดตัว
ปัจจุบันเพียง 2 วันหลังจากเปิดตัวมียอดจอง 30,000 คัน

Xpeng M03 มาพร้อมการออกแบบที่น่าสนใจ ด้านหน้าของรถใหม่ใช้การออกแบบไฟหน้ารูปตัว T กระจังหน้าปิดปรากฏบนตัวรถ และมีโลโก้ Xpeng Motors อยู่ตรงกลาง ไฟสูง/ต่ำแบบ LED + ไฟวิ่งกลางวันแบบ LED พร้อม ไฟหน้าเซ็นเซอร์อัตโนมัติ จากด้านข้าง เส้นด้านข้างของรถใหม่ค่อนข้างเรียบง่าย มือจับประตูแบบซ่อน มีไฟแสดงการขับขี่อัจฉริยะสีน้ำเงินปรากฏบนบังโคลนหน้า มีการออกแบบสปอยเลอร์ขนาดเล็กที่ล้ำสมัยบริเวณเสา D ที่ด้านข้างของรถใหม่ยังไม่เปิดเผยฟังก์ชั่น

จุดเด่นอยู่ที่ความสมมาตร ไฟหน้าเป็นแบบ “010” ขึ้นลงแบบสมมาตร และกลุ่มไฟหน้าและไฟท้ายก็ดูสมมาตรกันจนเมื่อมองแวบแรกอาจดูเหมือนเป็นเช่นนั้น หัวและหางแยกไม่ออก

เป็นที่น่าสังเกตว่าขณะนี้ไม่มีฝาปิดบนหลังคารถ และอาจมีการใช้วิธีแก้ปัญหาด้วยการมองเห็นเพียงอย่างเดียวในอนาคต เมื่อพิจารณาจากตัวอย่างด้านหลังก่อนหน้านี้ ด้านหลังของรถใหม่จะอยู่ใกล้กับด้านหน้า และยังใช้การออกแบบกลุ่มไฟรูปตัว T ล้ออัลลอยขนาด 18 – 19 นิ้วใหม่

ค่าสัมประสิทธิ์การต้านทานลมเพียง 0.194Cd.
สีรถมีทั้งหมด 5 สี คือ สีเบจ สีฟ้า สีขาว สีดำ และสีเทา

ขนาดตัวถัง XPENG MONA M03

ยาว 4,780 มม.
กว้าง 1,896 มม.
สูง 1,445 มม.
ระยะฐานล้อ 2,815 มม.
น้ำหนัก 1,661 – 1,739 กก.

ภายในห้องโดยสาร Xpeng MONA M03 มาพร้อมกับหน้าจอควบคุมส่วนกลางขนาดใหญ่ 15.6 นิ้ว และแผงหน้าปัดที่เป็นอุปกรณ์เสริม รถจะติดตั้งชิป Qualcomm Snapdragon 8155 + หน่วยความจำ 16GB มีระบบรถที่พัฒนาเองแบบฟูลสแต็ค กล้อง 360 องศา แผนที่เรนเดอร์การรับรู้ 3 มิติ มุมมองไดนามิก 3 มิติของแผนที่จะแสดงแบบเรียลไทม์

MONA M03 เริ่มต้นจากฟังก์ชันหลัก 3 ประการที่ผู้ใช้ใช้กันมากที่สุด เสียงอัจฉริยะนี้มาพร้อมกับโซนเสียง 4 โซน ทั้งแถวหน้าและแถวหลังสามารถควบคุมการโต้ตอบด้วยเสียงได้อย่างอิสระ ใช้ลำโพงที่ปรับแต่งขั้นสูง 18 PSS เพื่อสร้างสนามเสียงแบบพาโนรามา 7.1.4 และรองรับการปรับแต่งเอฟเฟกต์เสียงที่หลากหลาย

ภายในห้องโดยสารมี 3 สีให้เลือก มีพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ถึง 621 ลิตร ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในระดับเดียวกัน โดยสามารถวางกระเป๋าเดินทางขนาด 28 นิ้วหนึ่งใบและกระเป๋าเดินทางขนาด 20 นิ้วสี่ใบได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องปรับเบาะนั่ง พื้นที่สามารถขยายได้ถึง 1602L รถรุ่นใหม่มาพร้อมหลังคาพาโนรามิคขนาด 1.22 ตารางเมตรเป็นมาตรฐาน ใช้กระจกลามิเนต Low-E และมีอัตราการแยกรังสียูวี 99.9% และอัตราการแยกอินฟราเรด 97.6%

เบาะนั่งคนขับหลักปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง (มีหน่วยความจำ)
เบาะนั่งผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง
โหมดต้อนรับที่นั่งคนขับ
ระบบอุ่นที่นั่งด้านหน้า
เบาะนั่งด้านหน้ามีช่องระบายอากาศ
เบาะนั่งด้านหลังพับลงได้ในอัตราส่วน 4:6
ช่องเก็บแผนที่พนักพิงสำหรับคนขับและผู้โดยสาร
พวงมาลัยไมโครไฟเบอร์ (พร้อมการปรับแบบแมนนวล 4 ทิศทาง)
ไฟบรรยากาศเซอร์ราวด์ 256 สี
กระจกมองหลังภายในแบบไร้กรอบ
ไฟส่องสว่างแบบ Soft Light สำหรับที่บังแดดด้านคนขับและผู้โดยสาร
ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย
กล้องบันทึกการขับขี่
อัปเกรด OTA ของยานพาหนะ
ลำโพง 18 ตำแหน่ง 7.1.4 ระบบเสียงเซอร์ราวด์

มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวด้านหน้า

ให้กำลัง 187 แรงม้า
แรงบิด 225 นิวตัน-เมตร
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.8 วินาที
แบตเตอรี่ลิเธียมเหล็กฟอสเฟต (กันฝุ่นและกันน้ำ IP68) ขนาด 51.8kWh
สามารถวิ่งได้ 515 กม./ชาร์จ CLTC
ชาร์จ DC 30-80% ภายใน 26 นาที หรือชาร์จ 15 นาทีวิ่งได้ 200 กม.
ระบายความร้อนด้วยของเหลวอุณหภูมิคงที่โดยไม่มีเทคโนโลยีกระจายความร้อน

มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวด้านหน้า

ให้กำลัง 214 แรงม้า
แรงบิด 250 นิวตัน-เมตร
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.4 วินาที
แบตเตอรี่ลิเธียมเหล็กฟอสเฟต (กันฝุ่นและกันน้ำ IP68) ขนาด 62.2kWh
สามารถวิ่งได้ 620 กม./ชาร์จ CLTC
ชาร์จ DC 30-80% ภายใน 26 นาที หรือชาร์จ 15 นาทีวิ่งได้ 200 กม.
ระบายความร้อนด้วยของเหลวอุณหภูมิคงที่โดยไม่มีเทคโนโลยีกระจายความร้อน

มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวด้านหน้า

ให้กำลัง 214 แรงม้า
แรงบิด 250 นิวตัน-เมตร
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.4 วินาที
แบตเตอรี่ลิเธียมเหล็กฟอสเฟต (กันฝุ่นและกันน้ำ IP68) ขนาด 62.2kWh
สามารถวิ่งได้ 580 กม./ชาร์จ CLTC
ชาร์จ DC 30-80% ภายใน 26 นาที หรือชาร์จ 15 นาทีวิ่งได้ 200 กม.
ระบายความร้อนด้วยของเหลวอุณหภูมิคงที่โดยไม่มีเทคโนโลยีกระจายความร้อน

ช่วงล่าง

ระบบกันสะเทือนหน้า อิสระแม็คเฟอร์สัน
ระบบกันสะเทือนหลัง ทอร์ชันบีม
ดิสก์เบรกหน้าพร้อมระบายความร้อน
ดิสก์เบรกหลัง
รัศมีวงเลี้ยว 5.3 เมตร
ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์แบบปรับความเร็วได้
ระบบควบคุมการเกาะถนนแบบไดนามิก dTCS
เบรกมือไฟฟ้า AutoHold
ล้อแบบ Low Drag ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 215/50R18
ล้อสปอร์ตขนาด 19 นิ้ว (เคลือบเงา) – มาพร้อมยางมิชลิน 235/40R19
ล้อสปอร์ตขนาด 19 นิ้ว (ดำคล้ำ) – มาพร้อมยางมิชลิน 235/40R19

MONA M03 มาพร้อมกับฮาร์ดแวร์การตรวจจับอัจฉริยะมาตรฐาน 20+ เพียงรุ่นเดียวในระดับเดียวกัน เรดาร์คลื่น 2 มิลลิเมตร + เรดาร์อัลตราโซนิก 12 ตัว + กล้อง 7 ตัว ความสามารถในการตรวจจับที่แข็งแกร่งที่สุดในระดับเดียวกัน ความสามารถในการขับขี่อัจฉริยะ L2 ระบบจอดรถอัตโนมัติ ครอบคลุมพื้นที่จอดรถความถี่สูง 100% อัตราความสำเร็จในการจอดรถ 95% แถวแนวตั้ง ขนาน แนวทแยง มี/ไม่มีเส้นลาก ครอบคลุมพื้นที่จอดรถต่างๆ อย่างเต็มรูปแบบ

รุ่น Max มาพร้อมการขับขี่อัจฉริยะออกไป มันไม่มี LIDAR แต่สามารถมีฟังก์ชันการขับขี่อัจฉริยะระดับสูงได้ รวมถึง NGP ความเร็วสูง, NGP ในเมือง และ ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ คำแถลงอย่างเป็นทางการคือไม่จำกัดเฉพาะเมือง เส้นทาง หรือสภาพถนน

ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Assisted Driving)

ฮาร์ดแวร์สำหรับระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ

แพลตฟอร์มประมวลผล
- NVIDIA DRIVE Orin แพลตฟอร์มประมวลผลระดับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ พร้อมชิป 2 ตัว
เซ็นเซอร์ตรวจจับ
- เรดาร์คลื่นมิลลิเมตร: 3 ตัว
- เรดาร์อัลตราโซนิก: 12 ตัว
- กล้อง HD สำหรับการช่วยขับขี่อัจฉริยะ: 12 ตัว
- กล้อง 360° HD รอบคัน: 7 ตัว
- กล้อง DMS (ตรวจสอบสภาพผู้ขับขี่): 4 ตัว
อุปกรณ์สำคัญอื่นๆ
- หน่วยระบุตำแหน่งความแม่นยำสูง

ฟีเจอร์ช่วยขับขี่อัจฉริยะ

ระบบ XPILOT
- ACC ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ
- LCC ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน
- ALC ระบบช่วยเปลี่ยนเลนอัจฉริยะ
- SAS ระบบช่วยจำกัดความเร็วอัจฉริยะ
- AEP ระบบช่วยถอยรถออกอัตโนมัติ
- APA ระบบจอดรถอัจฉริยะขั้นสูง
- RPA ระบบจอดรถด้วยรีโมท
- NGP ระบบนำทางอัจฉริยะความเร็วสูง
- การเรียกรถในทางตรง, การจอดรถอัตโนมัติโดยไร้ผู้ขับ, การนำรถออกจากพื้นที่จอด
ระบบ XNGP
- ครอบคลุมทุกฟีเจอร์ของ XPILOT พร้อมการขับขี่อัจฉริยะทุกสถานการณ์
- AI Driver ระบบขับขี่อัตโนมัติด้วยปัญญาประดิษฐ์
- NGP สำหรับการขับขี่ในเมือง
- LCC ช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน (รองรับการหยุด-ออกตัวเมื่อมีสัญญาณไฟจราจร)