XPENG พร้อมสร้างเครือข่ายชาร์จเร็วในไทยในปี 2025 Ultra-Fast Charging Network
XPENG ส่งมอบ X9 จำนวน 300 คันสู่ประเทศไทย ก้าวสำคัญสู่กลยุทธ์ขยายตลาดระดับโลก
- XPENG เตรียมเปิดเครือข่ายชาร์จเร็วพิเศษในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเริ่มจากฮ่องกงและไทย
ระบบขับขี่อัจฉริยะ Turing AI จะเริ่มปรับให้เหมาะกับตลาดโลกในปี 2026
XPENG มุ่งมอบประสบการณ์การใช้งานระดับโลกผ่านการอัปเดตซอฟต์แวร์ OTA ขั้นสูง
XPENG เดินหน้าขยายตลาดโลกด้วยการส่งมอบ X9 สู่ประเทศไทย
กว่างโจว ประเทศจีน – 24 กุมภาพันธ์ 2025 XPENG บริษัทผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) อัจฉริยะจากประเทศจีนที่มีวิสัยทัศน์ระดับโลก ประกาศส่งมอบ XPENG X9 MPV รุ่นขับขวา จำนวน 300 คันแรกสู่ประเทศไทย นับเป็นก้าวสำคัญของบริษัทในการขยายตลาดทั่วโลก พร้อมกันนี้ยังเปิดเผยแผนเร่งพัฒนา ระบบขับขี่อัจฉริยะ ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) อัปเดตซอฟต์แวร์แบบ OTA อย่างต่อเนื่อง และขยายเครือข่ายสถานีชาร์จให้ครอบคลุมมากขึ้น
He Xiaopeng ประธานและซีอีโอของ XPENG กล่าวว่า
“เรากำลังก้าวสู่ตลาดโลกอย่างรวดเร็วด้วยกลยุทธ์สำคัญหลายด้าน เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำตลาด EV ระดับโลก ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะ เรามีความยินดีที่เห็นว่าแนวคิด ‘การขับขี่อัตโนมัติสำหรับทุกคน’ กลายเป็นวิสัยทัศน์ร่วมกันของอุตสาหกรรม EV เราจะเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้การขับขี่อัจฉริยะเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น”
XPENG X9: MPV ไฟฟ้าสำหรับตลาดโลก
XPENG X9 เป็นรถ MPV ไฟฟ้าแบบ 7 ที่นั่งรุ่นเรือธงของบริษัท และเป็นรถรุ่นที่ 2 ที่ออกแบบให้รองรับทั้งพวงมาลัยซ้ายและขวา
การส่งมอบล็อตแรกจำนวน 300 คันสู่ประเทศไทย จะเริ่มต้นขึ้นทันทีที่รถถึงปลายทาง
เมื่อต้นปี 2025 XPENG X9 เปิดตัวในประเทศไทยและได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ด้วยจุดเด่นของ
✅ ดีไซน์ภายนอกล้ำสมัย ได้แรงบันดาลใจจากยานอวกาศ
✅ พื้นที่ภายในกว้างขวาง ปรับเปลี่ยนได้หลากหลาย
✅ ระบบเลี้ยวล้อหลังอัจฉริยะ (Active Rear-Wheel Steering) ช่วยเพิ่มความคล่องตัว
✅ โครงสร้างตัวถังแข็งแกร่ง และมาตรฐานความปลอดภัยสูง
รถรุ่นนี้เหมาะสำหรับการเดินทางแบบครอบครัว ให้ทั้งความหรูหรา ความสะดวกสบาย และเทคโนโลยีอัจฉริยะ ล่าสุด X9 ยังได้รับการจัดอันดับเป็น MPV ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในจีนเมื่อปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะครองตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปีนี้
เร่งขยายเครือข่ายชาร์จเร็วพิเศษ รองรับอนาคต
XPENG วางแผนขยาย เครือข่ายสถานีชาร์จเร็วพิเศษ (Ultra-Fast Charging Network) ในระดับโลก โดยเริ่มจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2025
ช่วงครึ่งแรกของปีนี้ จะมีการตั้งสถานีชาร์จในตลาดหลัก เช่น ฮ่องกงและประเทศไทย
ระยะต่อไป XPENG จะขยายสถานีชาร์จไปทั่ว เอเชีย ยุโรป และออสเตรเลีย
XPENG ยังจับมือกับผู้ให้บริการสถานีชาร์จในแต่ละประเทศเพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงโครงข่ายชาร์จที่สะดวกและรวดเร็ว เป้าหมายของ XPENG คือการสร้างเครือข่ายชาร์จที่กว้างขึ้น เร็วขึ้น และประหยัดต้นทุนมากขึ้น
ระบบขับขี่อัจฉริยะ Turing AI ก้าวสู่ตลาดโลกปี 2026
หลังจากทุ่มเทพัฒนาเทคโนโลยีกว่า 10 ปี XPENG ได้ก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตรถยนต์จีนรายแรกที่สามารถ ผลิตระบบขับขี่อัจฉริยะขั้นสูงในเชิงพาณิชย์
ในปี 2026 ระบบ Turing AI Intelligent Driving System จะเริ่มเข้าสู่ ระยะปรับให้เหมาะสมกับตลาดโลก (Global Adaptation Phase)
จุดเด่นของ Turing AI
✅ รองรับสภาพถนนที่หลากหลายทั่วโลก
✅ พัฒนาระบบขับขี่อัจฉริยะให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด
✅ ยกระดับมาตรฐานเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติสู่ระดับโลก
XPENG ตั้งเป้าให้ Turing AI เป็น ผู้นำด้านความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และนวัตกรรม ในอุตสาหกรรมยานยนต์อัจฉริยะ
อัปเดตซอฟต์แวร์ OTA อย่างต่อเนื่อง เพื่อประสบการณ์ที่เหนือกว่า
- XPENG เป็น ผู้ผลิตรถยนต์จีนรายแรกที่สามารถปล่อยอัปเดตซอฟต์แวร์ OTA พร้อมกันทั่วโลก โดย
- OTA 5.2 เปิดตัวเมื่อสิงหาคม 2024
- OTA 5.4 เปิดตัวเมื่อมกราคม 2025
ตั้งแต่ปี 2025 XPENG จะ เร่งพัฒนาและส่งมอบอัปเดตซอฟต์แวร์ให้ผู้ใช้ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง
รวบรวมความคิดเห็นจากผู้ใช้ เพื่อปรับปรุงฟีเจอร์ตามการใช้งานจริง
เพิ่มฟีเจอร์อัจฉริยะใหม่ๆ ผ่าน OTA update
ไม่ว่าผู้ใช้ XPENG จะอยู่ที่ใด ก็สามารถได้รับการอัปเกรดซอฟต์แวร์ใหม่ๆ เพื่อให้การขับขี่ยานยนต์ไฟฟ้ามีประสิทธิภาพและความสะดวกสบายยิ่งขึ้น
XPENG: วิสัยทัศน์ระดับโลก สู่อนาคตแห่งการขับเคลื่อนอัจฉริยะ
นับตั้งแต่เริ่มขยายตลาดไปยังนอร์เวย์ในปี 2021 XPENG ได้นำเทคโนโลยีล้ำสมัยไปสู่ตลาดทั่วโลก ปัจจุบันบริษัทดำเนินธุรกิจใน กว่า 30 ประเทศ และเติบโตอย่างรวดเร็ว
- ก่อตั้งในปี 2014
- ส่งมอบรถยนต์อัจฉริยะกว่า 620,000 คันทั่วโลก
- ตั้งเป้าเปิดตลาดใน 60 ประเทศ และสร้างศูนย์บริการ 300 แห่งภายในปี 2025
XPENG กำลังมุ่งสู่การเป็น ผู้นำระดับโลกในตลาด EV ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยและแนวคิด “สมาร์ท โมบิลิตี้” ที่พร้อมปฏิวัติอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า
